กาญจน์สกัดจับ! รถตู้ขนแรงงานพม่า 11 ชีวิต หลังรับมาจากสังขละบุรี สารภาพจ่ายค่านายหน้า 1.6 หมื่นบาท เพื่อไปทำงานพื้นที่ชั้นใน

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากสายข่าวถึงขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาโดยผิดกฎหมาย จึงสั่งการให้ นายยงยุทธ แสวงสุข ปลัดอำเภอ นำเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง และสมาชิก อส.อำเภอทองผาภูมิที่ 9 เข้าปฏิบัติภารกิจที่บริเวณจุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ ถนนสาย 323 (สังขละบุรี-กาญจนบุรี) หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ

เจ้าหน้าที่พบรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียนกาญจนบุรี ลักษณะตัวรถสีขาว-หน้ารถสีดำ ตรงตามที่ได้รับแจ้ง ขับมาจาก อ.ทองผาภูมิ มุ่งหน้าเข้า อ.เมืองกาญจนบุรี เมื่อถึงด่านจึงส่งสัญญาณให้หยุดรถเพื่อขอตรวจค้น โดยคนขับรถคือ นายประสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ชาว อ.สามพราน จ.นครปฐม ยินยอมให้ตรวจค้นแต่โดยดี

จากการตรวจค้น พบแรงงานชาวเมียนมานั่งอยู่ภายในรถตู้จำนวน 11 ราย เป็นชาย 7 ราย หญิง 4 ราย แม้แรงงานทั้งหมดจะนำเอกสารมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ แต่เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าเอกสารเหล่านั้นเป็นเพียงสำเนาถ่ายเอกสารที่ไม่มีการรับรอง และส่วนใหญ่เป็นเอกสารที่หมดอายุไปแล้ว

หลังจากได้รับรายงาน ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้สั่งการให้ควบคุมตัวไว้และประสาน พ.ต.อ.กรณ์ สมคะเณย์ ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี มาตรวจสอบยืนยันอย่างละเอียด เมื่อผลตรวจสอบยืนยันว่าบัตรที่พกมาหมดอายุแล้ว จึงควบคุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ดำเนินคดี

นายประสิทธิ์ คนขับรถตู้ ให้การว่า ตนขับรถไปรับแรงงานทั้งหมดที่บริเวณท่าน้ำศาลาแดงบ้านจองอั่ว อ.สังขละบุรี ตั้งแต่เวลา 03.00 น. โดยจะนำไปส่งที่จุดนัดหมายใน อ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อให้มีคนมารับช่วงต่อไปอีกทอดหนึ่ง และจะถูกดำเนินคดีในข้อหา ‘ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการถูกจับกุม’

ขณะที่ กลุ่มแรงงานให้การผ่านล่ามว่า พวกตนหลบหนีข้ามชายแดนเข้ามาทางด้าน อ.สังขละบุรี และนั่งเรือมาขึ้นฝั่ง โดยทั้งหมดต้องการเดินทางไปทำงานในจังหวัดชั้นใน เช่น สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร โดยได้จ่ายค่าหัวให้กับนายหน้าไปแล้วคนละ 15,000 - 16,000 บาท แต่ก็มาถูกจับกุมเสียก่อน

////-026