เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายลักษณะอากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 8-14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 ดังนี้
ในช่วงวันที่ 8 – 9 พ.ย. ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านตะวันตก ภาคกลาง และภาคเหนือ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำที่อ่อนกำลังลงจากพายุ “คัลแมกี” ปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านตะวันตกและภาคเหนือตอนล่าง โดยจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือต่อไป ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ เนื่องจากลมตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยยังคงมีกำลังปานกลาง
ส่วนในช่วงวันที่ 10 – 12 พ.ย. ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนไปปกคลุมประเทศเมียนมา ในขณะที่ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ เนื่องจากยังคงมีลมตะวันตกพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย
หลังจากนั้น บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลง กับมีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับจะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง
สำหรับในช่วง 9 – 13 พ.ย. คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร หลังจากนั้นคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 8 - 9 พ.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง สำหรับเกษตรกรควรป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร ส่วนในช่วงวันที่ 13 - 14 พ.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เย็นลง กับมีลมแรง ส่วนประชาชนในภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง
ออกประกาศ 08 พฤศจิกายน 2568 12:00 น.
คาดหมายอากาศรายภาค วันที่ 8 – 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 8 – 9 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้าส่วนในช่วงวันที่ 10 - 13 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝน/ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10 – 16 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.หลังจากนั้น อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาคอุณหภูมิต่ำสุด 18 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8 - 14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 9 - 13 พ.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝน/ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 - 33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14 - 18 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม.หลังจากนั้น อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรงอุณหภูมิต่ำสุด 17 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 - 31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11 - 16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 8 – 9 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนในช่วงวันที่ 10 – 13 พ.ย. มีฝน/ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 - 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.หลังจากนั้น อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาคอุณหภูมิต่ำสุด 19 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 - 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 25 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 8 – 9 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ส่วนในช่วงวันที่ 10 - 13 พ.ย. มีฝน/ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 34 องศาเซลเซียสหลังจากนั้น อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 20 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 33 องศาเซลเซียสในช่วงวันที่ 9 – 13 พ.ย. ลมแปรปรวน ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรหลังจากนั้น ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 8 – 9 และ 14 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนในช่วงวันที่ 11 – 13 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ ในวันที่ 9 - 13 พ.ย. ลมตะวันตก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรหลังจากนั้น ตั้งแต่จังหวัดขุมพรขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไป ลมแปรปรวน ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรอุณหภูมิต่ำสุด 22 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 8 – 10 และ 14 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนในช่วงวันที่ 11 – 13 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 9 – 13 พ.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรหลังจากนั้น ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรตั้งแต่จังหวัดกระบี่ลงไป ลมแปรปรวน ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรอุณหภูมิต่ำสุด 22 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 34 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 8 – 9 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ส่วนในช่วงวันที่ 10 – 13 พ.ย. มีฝน/ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 24 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 - 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.หลังจากนั้น อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 25 กม./ชม.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี