จากกรณีนายลำเซ็ง วัย 71 ปี และ นางสมภาร วัย 68 ปี เจ้าของร้านขายของชำ บ้านหนองดุด ต.เหล่าพัฒนา อ.นาหว้า จ.นครพนม เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ทรงวุฒิ เสวิวัฒน์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.นาหว้า หลังถูกคนร้ายบุกเข้ามาชิงถังใส่เงินค่าขายของชำไปกว่า 3,000 บาท เมื่อช่วงค่ำวันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.อติโรจน์ ทาแจ้ง ผกก.สภ.นาหว้า ได้นำชุดสืบสวนลงพื้นที่ทันที โดยเบาะแสสำคัญมาจากหลานสาวของผู้เสียหายที่จำลักษณะท่าทางการเดินของคนร้ายได้ว่าเหมือนกับเพื่อนสมัยเรียนหนังสือที่มีบ้านอยู่ใกล้กัน

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงเดินทางไปสอบถาม ด.ช.เจต (นามสมมติ) อายุ 13 ปี แต่เยาวชนคนดังกล่าวให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ผกก.สภ.นาหว้า จึงแบ่งชุดทำงานออกเป็น 3 ชุด เพื่อหาหลักฐานมัดตัว โดยชุดที่สามเข้าตรวจค้นภายในบ้านพักของผู้ต้องสงสัย และพบ เสื้อผ้าที่คนร้ายสวมใส่ในวันก่อเหตุ ซุกซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้า ทำให้ ด.ช.เจต ต้องจำนนด้วยหลักฐานและยอมรับสารภาพว่าตนเองเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง

จากการสอบสวนร่วมกับผู้ปกครอง เยาวชนผู้ต้องหารับสารภาพว่า ติดเกมออนไลน์อย่างหนัก และต้องหาเงินมาเติมเกมอยู่ตลอดเวลา โดยในวันเกิดเหตุ เงินที่ใช้เติมเกมหมดแล้ว และขอเงินจากมารดาก็ไม่ได้ จึงตัดสินใจบุกเข้าไปในร้านชำ โดยเห็น นางสมภาร นอนดูโทรทัศน์อยู่กับสามี แต่เมื่อย้อนกลับมาอีกครั้งในช่วงค่ำ เห็นนางสมภารอยู่คนเดียว จึงเดินเข้าไปหยิบถังใส่เงินที่วางอยู่บนพื้นต่อหน้าต่อตา ก่อนจะวิ่งหนีไป

ด.ช.เจต สารภาพว่า ได้นำเงินสดส่วนที่เป็นธนบัตรไปซื้อโปรแกรมเกมทั้งหมด ส่วนเงินเหรียญและพระเครื่องได้นำไปโยนทิ้งน้ำเพื่อทำลายหลักฐาน

ร.ต.อ.ทรงวุฒิ เสวิวัฒน์ ได้แจ้งข้อกล่าวหา ด.ช.เจต ในฐานความผิด ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยการมอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ และวิ่งราวทรัพย์ โดยการสอบสวนต้องมีสหวิชาชีพเข้าร่วมตาม พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก

ด้านนางสมภาร ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ผู้ปกครองของเยาวชนได้มาขอร้องให้ถอนแจ้งความ โดยตนแจ้งไปว่าต้องนำเงินที่ชิงไปมาคืนตามจำนวนก่อน ถึงจะพิจารณาเรื่องถอนแจ้งความ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าเรื่องการนำเงินมาคืนแต่อย่างใด

ขณะที่ พ.ต.อ.อติโรจน์ ทาแจ้ง ผกก.สภ.นาหว้า เผยว่า พร้อมจะรื้อฟื้นคดีลักทรัพย์สร้อยคอทองคำ 4 บาท ในเดือนสิงหาคม 2567 ขึ้นมาสอบสวนใหม่ หากคุณยายมีหลักฐานเพิ่มเติม โดยตรวจสอบพบรอยนิ้วมือแฝง 3 รอย ที่ลิ้นชักที่เก็บทรัพย์ ซึ่งมีของ คุณยาย คุณตา และหลานชายเท่านั้น