วันเสาร์ ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ตร.จราจรกาญจน์ ตั้งด่านกวดขันวินัยจราจร รวบหนุ่มนครปฐม พร้อม 4 แรงงานเถื่อนชาวพม่า นั่งท้ายกระบะแบบชิลล์ๆ สารภาพหนีเข้ามาทำงานในไทยหลายเดือนแล้ว
เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ (15 พ.ย.68) พล.ต.ต.พศวีร์ เรืองภู่ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.สธนทัต ตั้งสิทธิ์เสรีวงศ์ รอง ผบก.ฯ พ.ต.อ.สุรยุทธ เมฆมังกร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี สั่งการให้ พ.ต.ท.โชคชัย ไทยเจริญ รอง ผกก.จราจร สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ต.เมธี บัวซ้อน สว.จราจรฯ และ ร.ต.อ.วิชาติ จันทร์ลิลา รอง สว.จราจรฯ นำเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรตั้งด่านกวดขันวินัยการจราจร พร้อมตรวจค้นเฝ้าระวังป้องกันการกระทำผิดกฎหมายทุกประเภท บนทางหลวงหมายเลข 3209 (กาญจนบุรี-ด่านมะขามเตี้ย) บริเวณทางแยกหน้าจุดตรวจแม่กลอง หมู่ 2 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
.jpg)
ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ แคป สีบอรนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน นครปฐม ขับออกมาจากถนนเรียบแม่น้ำแม่กลองเพื่อมุ่งหน้าไปทางอำเภอด่านมะขามเตี้ย โดยมีผู้โดยสารเป็นชาย 1 ราย หญิง 3 รายนั่งกินลมอยู่ที่กระบะท้ายแบบชิลล์ๆ เมื่อมาถึงด่านเจ้าหน้าที่จราจร สภ.เมืองกาญจนบุรีจึงเรียกให้คนขับชะลอเลี้ยวเข้าไปชิดซ้ายริมถนน เพื่อขอตรวจเอกสารใบขับขี่
ทราบชื่อคนขับคือนายวิโรจน์ (ขอสงวนนามสกุล)อายุ 32 ปี ชาว จ.นครปฐม จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบถามผู้ที่โดยสารมากับรถผลปรากฏว่าเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาที่เข้ามาทำงานโดยผิดกฎหมาย และแรงงานทั้ง 4 รายไม่มีเอกสารใดๆมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งแรงงานชาวเมียนมาทั้ง 4 ราย บอกว่าพวกตนหลบหนีเข้ามาทำงานในประเทศไทยได้หลายเดือนแล้ว โดยจ่ายค่าหัวให้กับผู้นำพาคนละกว่า 2 หมื่นบาท โดยเข้ามาทำงานกับเฒ่าแก่รับซื้อข้าวโพดชื่อกอล์ฟ อยู่ที่บ้านวังศาลา ต.ทุ่งลูกนก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม โดยมีหน้าที่ประจำเครื่องโม่ข้าวโพด
.jpg)
ด้านนายวิโรจน์ คนขับรถยนต์กระบะ ให้การว่า ตนกับแรงงานชาวเมียนมารทำงานและพักอยู่ที่เดียวกัน ก่อนหน้านี้เฒ่าแก่ชื่อกอล์ฟให้ตนขับรถยนต์ไปรับแรงงานทั้ง 4 คนที่ ต.แสนตอ อ.ท่ามะกา เพื่อไปทำงานโม่ข้าวโพดในพื้นที่ ต.วังเย็น อ.เมืองกาญจนบุรี ตามคำสั่งของเม่าแก่ โดยแรงงานทั้ง 4 คนช่วยออกค่าน้ำมันรถให้ จำนวน 200 บาท ระหว่างเดินทางไปงานก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวเสียก่อน
หลังจากผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวนายวิโรจน์ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อกล่าวหา กระทำความผิดฐาน เป็นผู้นำพาและให้การช่วยเหลือซ่อนเร้นด้วยประการใดๆแก่บุคคลต่างด้าวเพื่อให้พ้นการจับกุม มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนแรงงานชาวเมียนมาทั้ง 4 คน ถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหา “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี