ไม่มีใครรักผม! หนุ่มเครียดสะสม โยงร่างกับขื่อปลิดชีพ

ไม่มีใครรักผม! หนุ่มเครียดสะสม โยงร่างกับขื่อปลิดชีพ

วันพฤหัสบดี ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 17.32 น.

ไม่มีใครรักผม! ปิดตำนาน “โจหลายใจ” นักเขียนป้ายเครียดสะสมถึงทางตัน โยงร่างกับขื่อปลิดชีพ

20 พฤศจิกายน 2568 เวลาประมาณ 08.30 น. ร.ต.อ.สุเมธ ศรีหาวงษ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บ้านกลาง อ.เมือง จ.นครพนม ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า มีเหตุคนผูกคอตายในบ้าน ต.ขามเฒ่า อ.เมืองนครพนม จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลนครพนม และกู้ภัยสว่างนาวาจุดเมือง เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ เป็นบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ ประตูหน้าไม่ได้ล็อก บนคานเขียนภาษาอังกฤษ “JOE Lai JAi” หรือ “โจหลายใจ” หน้าต่างทุกบานถูกเปิดโล่ง โดยมีกลิ่นศพโชยแตะจมูกตลอดเวลา และพบต้นเหตุของกลิ่นอยู่ที่ชั้นล่าง เป็นร่างชายสูงวัยทราบต่อมาว่าชื่อนายสุขสันต์ เพียสักขา หรือโจ อายุ 60 ปีเป็นเจ้าของบ้าน


สภาพศพห้อยคออยู่ที่ขื่อ ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ ที่โต๊ะพบสมุดเขียนเบอร์โทรชายชื่อแม็ก วงเล็บว่าเป็นหลาน วางทับด้วยก้อนหิน แว่นตา และโทรศัพท์ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่านายโจผู้เสียชีวิตเพิ่งออกจากเรือนจำกลางนครพนมเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา  เนื่องจากปลายเดือนกรกฎาคม 68 ถูกคุมขังในคดีคลุ้มคลั่งใช้มีดพร้าทุบทำลายกระจกบ้าน และกระจกรถเก๋งของนางสาวเมย์ อายุ 35 ปีเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน ได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวส่งฝากขังต่อศาลจังหวัดนครพนม โดยไม่มีใครติดต่อขอประกันตัว กระทั่งถึงเดือนตุลาคม 68 ศาลพิจารณาให้ปล่อยตัว เนื่องจากนายโจถูกคุมขังครบอัตราการต้องโทษแล้ว

หลังจากนั้นนายโจก็กลับบ้าน ยึดอาชีพรับจ้างเขียนป้าย และได้ลงลายมือชื่อชดใช้ค่าเสียหายแก่นางสาวเมย์  ที่เมากัญชาแล้วคลั่งทุบทำลายสิ่งของบ้านคนอื่นจนเสียหาย เป็นเงินจำนวน 2 หมื่นบาท โดยผ่อนชำระเป็นวันๆละ 500 บาท แต่ไม่มีงานจ้างเขียนป้ายเข้ามา รวมทั้งไม่มีเงินจ่ายค่าไฟฟ้าจึงถูกตัดกระแสไฟ ทำให้เกิดความเครียด สันนิษฐานว่านายโจหาหนทางที่ตีบตันไม่เจอ จึงคิดสั้นลากเก้าอี้นั่งพลาสติก และตู้ลำโพงเป็นที่ยืน มัดสายไฟฟ้าที่ขื่อก่อนจะแขวนคอตัวเองดับ แพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาไม่น้อยกว่า 3 วัน โดยทางกู้ภัยสว่างนาวาจุดเมือง นำโลงศพใส่ร่างของนายโจ พร้อมติดต่อญาติตามเบอร์โทรศัพท์ ว่า จะให้นำศพไปส่งมอบที่ไหน

จากการสอบถามนายราชันย์ รังษี อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนที่จะเอากับข้าวมาส่งให้ และพบศพคนแรกเล่าว่า นายโจหลังออกจากเรือนจำมาก็มาอยู่บ้านหลังนี้คนเดียว ญาติพี่น้องก็อยู่ต่างจังหวัดหมด บ่นตลอดว่าไม่มีใครรักห่วงใยอยากผูกคอตาย ตนยังห้ามปรามอย่างคิดสั้นแบบนั้น วันนี้ก็เอาอาหารมาส่งให้ เพราะรู้ว่าเพื่อนไม่มีเงินติดกระเป๋า เห็นประตูหน้าบ้านปิดไว้แต่ไม่ได้ล็อคด้านใน พอเปิดเข้าไปก็ผงะเพราะเจอร่างนายโจแขวนต่องแต่งอยู่ที่ขื่อ จึงหันหลังกลับรีบไปแจ้งผู้นำหมู่บ้าน เชื่อว่าเพื่อนคงเกิดความเครียดหลายอย่าง ถือเป็นการปิดตำนานโจหลายใจ นักเขียนป้ายแห่งบ้านกุดข้าวปุ้น.

012

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top