23 พฤศจิกายน 2568 เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานทนายรัชพล ซอยประชาราษฎร์ 5 ต.ตราดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายประมาณ 7 คน ซื้อคอสเวลเนส จาก รพ.ชื่อดังในกรุงเทพมหานคร โดนมีเต้าหน้าที่โทรมาขายตรง จากนั้นใช้ไปได้สักพักหนึ่งถูกยกเลิก ความเสียหายรายละหลักหมื่นถึงหลายแสน พยายามทวงเงินคืนแต่ถูกบ่ายเบี่ยง จึงรวมตัวมาปรึกษาทนายรัชพล ศิริสาคร 

จากการสอบถามข้อเท็จจริงพบว่า คอสเวลเนสดังกล่าว เป็นการโทรมาแนะนำการเปิดแผนกใหม่เกี่ยวกับโปรแกรมการตรวจสุขภาพ โดยการตรวจพลาสม่าและลงลึกเกี่ยวกับโรคหรือสารตกค้างที่พบในเลือดกับผู้ที่เคยใช้บริการเก่า โดยไม่มีการเสียค่าใช้จ่าย แต่หลังจากตรวจเลือดจะมีการรักษาเฉพาะทางโดยการให้วิตามินในการฟื้นฟูสุขภาพเบื้องต้น เช่นการล้างพิษโลหะหนัก ล้างพิษจากตับ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และวิตามินต่างๆ ซึ่งแต่ละคอสมีราคาตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักหลายแสน จากนั้นจะมีการแนะนำเพิ่มโปรแกรมต่อเรื่อยๆ ต่อมามีการโทรมาแจ้งว่าปิดแผนกที่โรงพยาบาลไปแล้ว และได้ย้ายไปตั้งที่อื่นแทน และไม่สามารถจ่ายเงินคืนได้ โดยมีผู้เสียหายมากกว่า 30 ราย 

น.ส.รัสรินทร์ หรือ กัน อายุ 38 ปี ซื้อคอสราคา 103,500 บาท กล่าวว่า ตนเองได้รับโทรศัพท์เป็นเบอร์ 02 โทรมาจากโรงพยาบาลแจ้งว่าเปิดแผนกใหม่เป็นการตรวจพลาสม่าเลือดเพื่อหาสิ่งแปลกปลอมในเลือด ตนจึงตรวจสอบไปที่โรงพยาบาลดังกล่าวซึ่งได้รับการยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง ตนจึงทำการซื้อโปรแกรมดังกล่าวในราคา 103,500 บาท และเดินทางไปทำการตรวจและให้วิตามินที่โรงพยาบาล โดยผ่านแผนกต่างๆของโรงพยาบาล หลังจากทำไปได้ 3 ครั้ง ได้รับแจ้งว่าแผนกปิดไปแล้ว และแผนกนั้นได้ย้ายไปทำที่ใหม่แล้ว ซึ่งตนพยายามติดต่อขอเงินคืนจากโรงพยาบาลแต่ทางโรงพยาบาลไม่รับผิดชอบ ปัดไปให้ทาง ซัพพลายเออร์ ผู้ร่วมทำแผนกคลินิกดังกล่าว และให้คืนเงินภายใน 60 วัน แต่สุดท้ายเรียกไปเจรจาของผ่อนจ่ายคืนตนผ่านไปสักพักแจ้งกลับมาว่าคืนเงินไม่ได้แล้ว ซึ่งตนแปลกใจว่าที่ผ่านมาที่ตนทำกับโรงพยาบาลทั้งหมดมันคืออะไร ทางโรงพยาบาลปัดความรับผิดชอบ ปัจจุบันยังมีเงินค้างจ่ายคืนอีก 60,000 กว่าบาท หลังจากนั้นได้คุยกับทางคลินิกพบว่ามีเอกสารที่ทางคลินิกเซ็นต์ร่วมลงทุนกับทางโรงพยาบาลจริง 

น.ส.ปัทมภัท อายุ 50 ปี ซื้อคอสราคา  380,000 บาท กล่าวว่า  ตนซื้อได้รับการติดต่อจากเซลล์ซึ่งแจ้งว่ามาจากทางโรงพยาบาลดังกล่าว และตนก็ได้มีการตรวจสอบกลับไปที่ทางโรงพยาบาลเนื่องจากกลัวมิจฉาชีพ จาดนั้นได้ตกลงซื้อคอสไป 3 แสนกว่าเป็นคอสครอบครัว มีการไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาล ทำการดิบวิตามินที่โรงพยาบาล และจ่ายเงินที่แผนกการเงินโรงพยาบาล ต่อมาทางโรงพยาบาลแจ้งกลับมาว่าแผนกดังกล่าวได้ปิดไปแล้ว และไม่มีการชดใช้เงินในส่วนที่เหลืออีกประมาณ 2 แสนกว่า 

ทนายรัชพล ศิริสาคร กล่าวว่า ตามข้อเท็จจริงที่ได้รับเรื่องเป็นการตกลงร่วมกันทั้งสองฝ่าย กลายเป็นเรื่องการผิดสัญญา ซึ่งต้องเรียกร้องกับทางผู้รับผิดชอบ เป็นเรื่องทางแพ่ง สามารถร้อง สคบ.ได้ หรือทำการเจรจาตกลงชดใช้เงินค่าเสียหาย

เบื้องต้นผู้เสียหายได้มอบหมายให้ทนายรัชพล ออกหนังสือสอบถามไปทางโรงพยาบาล ส่วนตัวผู้เสียกายทั้งหมดจะเดินทางไปยื่นเรื่องร้องเรียนกับทางกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอคำปรึกษาอีกครั้ง.