'กสศ.'ผนึกภาคีแรงงานผลักดันค่าจ้างที่เป็นธรรมตามศักยภาพและทักษะฝีมือ

'กสศ.'ผนึกภาคีแรงงานผลักดันค่าจ้างที่เป็นธรรมตามศักยภาพและทักษะฝีมือ

วันอาทิตย์ ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 16.17 น.

'กสศ.'ผนึกพลังภาคีแรงงานตบเท้าพบ 'รมว.แรงงาน' วอนช่วยเยาวชนแรงงานได้ค่าจ้างที่เป็นธรรมตามศักยภาพและทักษะฝีมือหลุดกับดักค่าแรงขั้นต่ำแรงงานไร้ทักษะ แนะดึงงบ 'กองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน' พัฒนาทักษะแรงงานฝ่าวิกฤตเสี่ยงตกงาน 
 
 
โครงการส่งเสริมโอกาสการเรียนรู้ตลอดชีวิตแก่เยาวชนนอกระบบการศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.)ร่วมกับ นายมนัส โกศล ประธานสภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคแรงงานสร้างชาติ พร้อมภาคีเครือข่ายแรงงาน อาทิ สหภาพแรงงานซันโยแห่งประเทศไทย ฯลฯ ได้ทำหนังสือขอเข้าพบ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อขับเคลื่อนนโยบายแรงงานว่าด้วยการขึ้นค่าจ้างที่เป็นธรรมตามศักยภาพและทักษะฝีมือหลุดพ้นค่าแรงขั้นต่ำและแรงงานไร้ทักษะ  
 
นายมนัส กล่าวว่าค่าแรงขั้นต่ำเป็นค่าจ้างแรกเข้าเท่านั้น แต่เมื่อแรงงานทุกคนที่มีศักยภาพ ทักษะและประสบการณ์จากการทำงานหรือพัฒนาทักษะแรงงานของตัวเองให้สูงขึ้นควรได้รับค่าจ้างที่เป็นธรรมตามศักยภาพและมาตรฐานทักษะฝีมือ 500 - 700 บาทต่อวัน ตัวอย่างเช่น จากเด็กขนของเข้าตู้คอนเทนเนอร์มีทักษะขับรถโฟล์คลิฟท์ได้ จึงกลายเป็นที่มาของ "กสศ." ได้นำเสนอแนวทางการบรรเทาปัญหาแรงงานเยาวชนนอกระบบการศึกษา  คือ 1.ผลักดันค่าจ้างที่เป็นธรรมตามศักยภาพและทักษะฝีมือหลุดพ้นค่าแรงขั้นต่ำและแรงงานไร้ทักษะ และ 2.ควรนำงบประมาณบางส่วนของ “กองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน” ที่เป็นเงินสะสมจากค่าปรับของผู้ประกอบการที่ไม่ส่งเสริมลูกจ้างฝึกอบรมฝีมือแรงงาน ควรนำงบประมาณดังกล่าวมาพัฒนาทักษะแรงงานแก่แรงงานเยาวชนนอกระบบการศึกษาหรือผู้ใช้แรงงานทั่วไปที่กำลังเผชิญปัญหาเลิกจ้าง เช่น ถูกลดค่าแรงจ่ายค่าจ้าง75% ที่ต้องการพัฒนาตนเองให้มีความก้าวหน้าทางการงาน , ต้องการเปลี่ยนสาขาอาชีพจากการได้รับผลกระทบจากปัญหาว่างงาน , ต้องการลาออกจากงาน หรือ Early retire นับเป็นการเตรียมความพร้อมตั้งรับและปรับตัวกับปัญหาว่างงานในอนาคต อาทิ แนวโน้มการใช้ Automation และการจ้างแรงงานข้ามชาติมากขึ้นย่อมส่งผลกระทบต่อแรงงานไทย เป็นต้น
 
 
สำหรับข้อเสนอเชิงนโยบาย ทั้ง 2 ข้อ ขอให้กระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงานและกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ร่วมกันทำบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU ร่วมกับผู้ประกอบการร่วมกันผลักดันด้วยการสร้างแรงจูงใจขึ้นค่าจ้างที่เป็นธรรมตามศักยภาพและทักษะฝีมือแก่ผู้ใช้แรงงานที่ได้รับการฝึกอบรม 30 ชั่วโมงและได้วุฒิบัติและผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ที่กำหนดค่าจ้างมาตรฐานฝีมือ 500 - 700 บาทต่อวัน ตามความรู้ ทักษะฝีมือและความสามารถ 
 
ขณะที่ภาคีความร่วมมือแรงงานของ กสศ. ได้นำเสนอรูปธรรมความสำเร็จในระดับพื้นที่เขตอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้พัฒนาทักษะขับรถโฟล์คลิฟท์แก่น้องๆแรงงานเยาวชนนอกระบบการศึกษา เพื่อนำไปเป็นใบเบิกทางเพื่อขอปรับขึ้นค่าจ้างหรือตำแหน่งงานที่ดีขึ้น เพราะน้องๆเหล่านี้ต้องการหลุดค่าแรงขั้นต่ำและแรงงานไร้ทักษะไปสู่แรงงานมีทักษะบรรจุเป็นพนักงานประจำได้เลื่อนตำแหน่ง จึงควรได้รับค่าจ้างที่เป็นธรรมตามศักยภาพและทักษะฝีมือ 
 
น้อง ๆ ที่ได้ทักษะประสบการณ์และวุฒิบัตรจะนำไปต่อยอด อาทิ อยากใช้เป็นทักษะสำรองหากถูกออกจากงาน ,อยากนำไปให้นายจ้างเห็นว่ามีทักษะหลากหลายหรือใหม่จะได้บรรจุเป็นพนักงานประจำ , อยากนำไปให้นายจ้างเห็นว่ามีทักษะขับรถ หากขาดคนแผนกสโตร์จะได้ไปทำงานแทน ,อยากนำไปให้นายจ้างเห็นว่าตั้งใจพัฒนาตัวเอง จะได้ผ่านทดลองงาน4เดือน เลื่อนตำแหน่ง หรือได้โบนัส  ,อยากเปลี่ยนแผนกจากคุมเครื่องจักรไปแผนกสโตร์ หรือ อยากนำไปสมัครงานใหม่ เพราะขับรถยกรายได้ดี เป็นต้น
 
สำหรับลักษณะแรงงานเยาวชนนอกระบบการศึกษา กล่าวคือ โดยปกติเด็กเยาวชนทั่วไปที่ไม่เผชิญปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา จะเข้าสู่วัยเรียน วัยทำงานและวัยเกษียณตามลำดับ แต่แรงงานเยาวชนนอกระบบการศึกษา ถูกผลักไสจากวัยเรียนเข้าสู่วัยทำงานก่อนวัยอันควร จากปัญหาชีวิตครอบครัว และปัญหาปากท้อง เพื่อมาทำงานหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว ด้วยการเป็นแรงงานไร้ทักษะจึงได้ค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพต้องทำงานล่วงเวลา 12 ชั่วโมงต่อวัน จนทำให้ตัวเองเข้าสู่ปัญหาวนลูป 3 เรื่องดังนี้ คือ 1.ไม่มีเวลาดูแลสุขภาพตัวเองจากปัญหาโรคจากการทำงานหนัก 2.ไม่มีเวลาพัฒนาทักษะใหม่ให้ทันเท่าการเปลี่ยนแปลง เครื่องจักร หุ่นยนต์ AIหรือแรงงานข้ามชาติเข้ามาทดแทนจึงเสี่ยงตกงานสูง และ 3.ไม่มีเวลาดูแลครอบครัวทำให้บุตรหลานหลุดนอกระบบการศึกษาจากวัยเรียนสู่วัยทำงานกลายเป็นแรงงานไร้ทักษะติดกับดักค่าแรงขั้นต่ำตามรอยรุ่นพ่อแม่
 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top