ตรังอ่วมหนัก! น้ำป่าหลาก–ดินสไลด์ถล่มหลายจุด หูเขื่อนน้ำตกไพรสวรรค์พัง ชาวบ้านลอยคอหนีน้ำ

ตรังอ่วมหนัก! น้ำป่าหลาก–ดินสไลด์ถล่มหลายจุด หูเขื่อนน้ำตกไพรสวรรค์พัง ชาวบ้านลอยคอหนีน้ำ

วันอังคาร ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 13.21 น.

ตรังอ่วมหนัก! น้ำป่าหลาก–ดินสไลด์ถล่มหลายจุด ใน ต.ปะเหลียน ขณะที่ อ.ย่านตาขาวท่วมสูงกว่า 3 เมตร หูเขื่อนน้ำตกไพรสวรรค์พังเสียหายจากแรงน้ำ มวลน้ำบรรจบคลองปะเหลียนไหลเข้าท่วมศูนย์เศรษฐกิจ ในเขตเทศบาล ต.ย่านตาขาว ชาวบ้านลอยคอหนีออกจากบ้าน บางส่วนติดค้างอยู่บนบ้าน กระทบแล้วกว่า 12,600 ครัวเรือน ผู้ว่าฯ เร่งลงพื้นที่รับมือ

เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ตรัง ในส่วนของ อ.ปะเหลียน ที่น้ำตกโตนเต๊ะ หมู่ 2 ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน เมื่อช่วงย่ำรุ่งที่ผ่านมา ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงมาจากบนเทือกเขาบรรทัด ซึ่งน้ำจำนวนมากไหลเชี่ยวแรงลงมา พร้อมกับมีดินโคนไหลลงมาทำให้น้ำเป็นสีแดงขุ่น และยังทำให้ดินบนภูเขา ซึ่งอยู่ใกล้กับน้ำตกสไลด์ได้รับความเสียหายลงมาจำนวน 4 จุด ซึ่งปริมาณน้ำมีจำนวนมาก ได้ไหลเข้าพื้นที่บ้านควนไม้ดำ บ้านไม้หาน และหมู่บ้านอื่นๆ อีกจำนวนมาก ซึ่งหมู่บ้านเหล่านี้เป็นจุดนี้เป็นจุดที่รองรับน้ำทันที เนื่องจากอยู่ติดภูเขา ก่อนจะไหลไปยังพื้นที่ข้างล่างในทันที ซึ่งในขณะที่เกิดดินสไลด์ชาวบ้านต่างได้ยินเสียงดังสนั่นไปในหลายพื้นที่คล้ายกับภูเขาพัง ถึงจำนวน 3 ครั้ง แต่ล่าสุดได้รับการยืนยันจาก นายอดุลย์ หมื่นลึก นายอำเภอปะเหลียน ว่าเป็นแค่เพียงดินสไลด์และน้ำป่าไหลหลากที่มีจำนวนมากและมีความรุนแรงเป็นอย่างมาก


ในส่วนของน้ำตกหนานสะตอ หมู่ 6 ต.ปะเหลียน และน้ำตกลำปลอก ต.ปะเหลียน ก็ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงมาเช่นเดียวกัน มวลน้ำมีจำนวนมากเช่นเดียวกัน ก่อนที่น้ำป่าทั้ง 3 สายดังกล่าวจะมาบรรจบกันที่ประตูระบายน้ำคลองปะเหลียน บริเวณถ้ำสุรินทร์ ต.ปะเหลียน ก่อนมวลน้ำจะไหลเข้าสู่ลำคลองปะเหลียนต่อไปจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ประชาชนในพื้นที่ อ.ปะเหลียน ได้รับผลกระทบเดือดร้อน แล้ว 8 ตำบล 42 หมู่บ้าน รวม 2,104 ครัวเรือน และคาดว่าน้ำจะมีความรุนแรงต่อเนื่อง และอาจมีชาวบ้านได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้น

ในส่วนที่ อ.ย่านตาขาว ที่น้ำตกไพรสวรรค์ หมู่ 4 ต.โพรงจระเข้ ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากมีความรุนแรงเป็นอย่างมาก ไหลบ่าลงมาตั้งแต่ช่วงวานนี้ที่ผ่านมา จนทำให้ช่วงย่ำรุ่งของวันนี้ หูเขื่อนบริเวณน้ำตกไพรสวรรค์พังได้รับความเสียหาย จนมวลน้ำทะลักไหลลงสู่พื้นล่างและเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน

และยังทำให้มวลน้ำดังกล่าวได้ไหลหลากลงมาผ่านคลองลำชาน มาบรรจบที่คลองปะเหลียน และเข้าท่วมในเขตเทศบาล ต.ย่านตาขาว ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจสำคัญของอำเภอ ซ้ำเป็นครั้งที่ 2 โดยมวลน้ำมีความเชี่ยวกราดและรุนแรง และมีความสูงมากกว่าเดิมถึง 3 เมตร และยังเข้าท่วมถนนสายหลัก ถนนสายตรัง-ปะเหลียน ตั้งแต่บริเวณหน้าตลาดสดย่านตาขาว ซึ่งในขณะนี้รถเล็กทุกชนิดไม่สามารถขับผ่านได้แล้ว โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกอยู่ตลอดเวลา

นายสมใจ แซ่อ๋อง หรือโกจ้อง อายุ 54 ปี ชาวบ้านชุมชนในบ้าน เขตเทศบาล ต.ย่านตาขาว ได้ลอยคอออกมาจากบ้าน พร้อมกับเพื่อนบ้าน โดยชาวบ้านบางคนได้ลอยคอออกมาโดยใช้แกลลอนน้ำมันคาดติดตัวมา นายสมใจ แซ่อ๋อง บอกว่า น้ำทะลักเข้าท่วมซ้ำซากเป็นครั้งที่ 2 โดยไหลบ่าเข้ามาตั้งแต่ช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา มีความเชี่ยวรุนแรงมาก ระดับน้ำท่วมหัวยื่นมือ หรือประมาณ 3 เมตรแล้ว ชาวบ้านก็จำเป็นต้องอาศัยอยู่บนชั้น 2 โดยที่ไม่สามารถออกจากบ้านได้ ติดอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเรือมีไม่เพียงพอที่จะเข้ามารับ คิดว่าสถานการณ์จะรุนแรง และมากขึ้นเพราะด้านบนเกิดน้ำป่าไหลหลาก

ภาพรวมสถานการณ์ระหว่างวันที่ 19–24 พ.ย.2568 จ.ตรังประสบอุทกภัยแล้ว 9 อำเภอ 54 ตำบล 283 หมู่บ้าน 7 เทศบาล 22 ชุมชน รวม 12,647 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ความเสียหายด้านเกษตรอยู่ที่ 13,314 ไร่ ด้านประมง 45.53 ไร่ ปศุสัตว์เสียหาย ได้แก่ โค 5 ตัว ไก่พื้นเมือง–ไก่งวง 25 ตัว ไก่ไข่ 350 ตัว วัดได้รับผลกระทบ 10 แห่ง โรงเรียน 22 แห่ง มีศูนย์พักพิงชั่วคราว 16 แห่ง รองรับผู้ที่อพยพรวม 1,118 คน โดยในวันนี้สถานการณ์รุนแรงขึ้นกว่าเมื่อวาน ซึ่งจะมีผู้ได้รับผลกระทบมากกว่านี้

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top