สร้างฮาเร็มในคุก เจ้าพ่อจีนเทาควักจ่ายเอง2ล้าน รับสาวจีนเข้าปรนเปรอ

สร้างฮาเร็มในคุก เจ้าพ่อจีนเทาควักจ่ายเอง2ล้าน รับสาวจีนเข้าปรนเปรอ

วันพุธ ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

สร้างฮาเร็มในคุก

เจ้าพ่อจีนเทาควักจ่ายเอง2ล้าน

รับสาวจีนเข้าปรนเปรอ

DSIเค้นสอบอดีตผบ.คุก

1 ใน 19 จนท.ราชทัณฑ์ ที่โดนย้าย ไม่ยอมตายเดี่ยว แฉแหลก เจ้าพ่อจีนจ่าย 2 ล้าน ผุดฮาเร็มนำนางแบบจีนมานาบทุกวันอาทิตย์ ทั้งจ่ายค่าผ่านทางอีกมหาศาล แต่จนท.ได้รับการแบ่งปันแค่มาม่า ปลากระป๋องถือว่าไม่เป็นธรรม ด้านดีเอสไอ จ่อเรียกสอบ อดีต ผบ.คุกที่ถูกให้ออกราชการพร้อมคนใกล้ชิด

เมื่อวันที่ 25พ.ย.2568 พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าเรื่องคุกวีไอพี ว่า เบื้องต้นได้ให้ออกจากราชการไว้ก่อน 2 ราย คือ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และเลขานุการผู้บัญชาการเรือนจำ ได้ส่งรายละเอียดให้คณะกรรมการเร่งสอบ รวมทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ด้วย โดยในวันที่ 27 พ.ย. ช่วงบ่าย จะขอสรุปรายงานขึ้นมาอีกครั้งว่าทั้งหมดที่เกี่ยวข้องมีใครบ้าง เมื่อถามว่า มีตำแหน่งใหญ่กว่านี้หรือไม่ พล.ต.ท.รุทธพล กล่าวว่า ไม่มี ยืนยันได้ เพราะรายละเอียดห้องที่ก่อสร้าง เราทราบแล้วว่าก่อสร้าง และเสร็จเมื่อไหร่รายละเอียดอยู่ในเรื่องของการสืบสวนของดีเอสไอ และคณะกรรมการ


ถามว่า วันที่ 28 พ.ย. จะมีการเปิดตัวละครเพิ่มเติมว่าเกี่ยวกับคนนอกอีกหรือไม่ พล.ต.ท.รุทธพล กล่าวว่า รายละเอียดเรื่องนี้ยังไม่ทราบ ขอรับทราบจากทางคณะกรรมการ และดีเอสไอก่อน

เมื่อถามว่า มีการเรียกร้องให้เปิดเส้นทางการเงินว่าโอนให้ใครบ้างนั้น พล.ต.ท.รุทธพล กล่าวว่า เรื่องนี้ทำแล้ว และรวบรวมมาค่อนข้างเยอะ เมื่อถามว่า ห้องที่มีการปรับกรุงก่อสร้างนั้น เกิดก่อนรัฐบาลชุดนี้นานหรือไม่ พล.ต.ท.รุทธพล กล่าวว่า เดี๋ยวอยู่ในรายละเอียด ขออนุญาตสรุปอีกครั้ง เมื่อถามย้ำว่า คุกวีไอพีมีที่อื่นหรือไม่ พล.ต.ท.รุทธพล ยิ้ม แต่ไม่ตอบคำถาม และเดินขึ้นตึกบัญชาการทันที

ด้าน พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวน เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ซึ่งเป็นชุดสืบสวนคลี่คลายคดี จากกองคดีความมั่นคง ได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อเข้าไปสอบสวนปากคำข้อมูลเจ้าหน้าที่เรือนจำฯ และตรวจเก็บรวบรวมพยานเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ได้มีการเก็บลายนิ้วมือตามจุดต่างๆ ร่วมทั้ง ห้องทำงานของผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อย่างไรบ้าง เพื่อที่จะได้รู้จุดของการเคลื่อนไหวของบุคคล อีกทั้งยังมีการรวบรวมไฟล์จากกล้องวงจรปิด

นอกจากนี้ ยังได้มีการสอบสวนปากคำนายยุทธนา นาคเรืองศรี รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ รักษาการแทนผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ในประเด็นเกี่ยวกับการรับหน้าที่เป็นผู้บัญชาการปฏิบัติการตรวจค้นจู่โจมเมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่าในวันที่เข้าตรวจค้นจู่โจมนั้น พบเห็นเหตุการณ์อย่างไร เห็นบุคคลใดมีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างไรบ้าง เนื่องด้วยสถานที่เกิดเหตุ อยู่ภายในอาคารสำนักงานผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีส่วนเชื่อมกันทั้งชั้นหนึ่งและชั้นสองของตัวอาคาร จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทราบข้อเท็จจริงว่าในวันเกิดเหตุมีผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ก็อยู่ในตัวอาคารด้วย รวมทั้งจะต้องตรวจสอบประวัติการเดินทางเข้า-ออกราชอาณาจักรของนายมานพด้วย ว่ามีการเดินทางไปประเทศใดบ้างและจำนวนครั้งบ่อยครั้งอย่างไร มีการแจ้งเดินทางไปยังต่างประเทศหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างรอรับข้อมูลส่วนนี้ และรวมถึงการรอผลตรวจจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นผลตรวจดีเอ็นเอ คราบอสุจิ สารคัดหลั่ง ว่าเป็นของใคร ผลตรวจตรงกับใครบ้าง

พ.ต.ท.อนุรักษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับพยานเอกสารที่ได้มีการรวบรวมตรวจสอบนั้น มีทั้งในส่วนของทะเบียนประวัติการเยี่ยมญาติของผู้ต้องขังจีนเทาทั้งสองคน เพราะในการเยี่ยมญาติ เรือนจำฯ จะต้องมีการให้ลงชื่อและสกุลของญาติ ว่าได้มีการเข้าเยี่ยมตลอดเวลาที่ผ่านมาอย่างไรบ้าง เข้าเยี่ยมวันที่เวลาใด ซึ่งในส่วนของนางแบบสาวชาวจีนสองคนที่มีประเด็นนั้น ก็พบว่าไม่ได้อยู่ในส่วนที่เกี่ยวข้องของการเยี่ยมญาติ อย่างไรก็ดี ประเด็นที่มีการถกเถียงกันว่าวันอาทิตย์ เรือนจำสามารถให้บริการเยี่ยมญาติได้หรือไม่นั้น เรื่องดังกล่าวตนทราบว่าอำนาจดุลพินิจของผู้บัญชาการเรือนจำฯ สามารถอนุโลมให้เข้าเยี่ยมได้ แต่มันจะมีหลักเกณฑ์เงื่อนไขอยู่

พ.ต.ท.อนุรักษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับ 19 รายชื่อเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ที่ถูกคำสั่งย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ยังเรือนจำต่างจังหวัด ทางชุดสืบสวนดีเอสไอ ได้มีการกระจายกำลังลงพื้นที่ไปสอบสวนปากคำเจ้าหน้าที่บางส่วนแล้ว ซึ่งพบว่าบางกลุ่มได้ให้การยอมรับและให้การเป็นประโยชน์อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นพยานสำคัญในจังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดลพบุรี เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอจะไม่เน้นเฉพาะการหาข้อมูลจากเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครเพียงแค่ 19 ราย แต่เราจะขยายผลตรวจสอบไปดูบุคคลใกล้ชิดนายมานพ ชมชื่น อดีตผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นคนนอกด้วย ไม่ว่าจะเป็นทนายอักษรย่อ ป. ที่ปรากฏกระแสข่าวตามหน้าสื่อก่อนหน้านี้ ว่ามีความเกี่ยวข้องกันมาอย่างไรบ้าง หรือเข้ามามีบทบาทในส่วนคดีของผู้ต้องขังจีนเทาอย่างไรบ้าง

พ.ต.ท.อนุรักษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับความสัมพันธ์สนิทชิดเชื้อกันระหว่างสองผู้ต้องขังจีนเทาที่พบอยู่ในห้องลับใต้บันไดนั้น พบข้อมูลเบื้องต้นว่าทั้งคู่มีความรู้จักกันระดับหนึ่ง เพราะมาจากแดนเดียวกัน แต่ในตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลยืนยันได้ว่าทั้งคู่มีความเกี่ยวข้องกับนาย เสอ จื้อเจียง (ผู้ต้องหา) สัญชาติจีนและกัมพูชา ความผิดฐาน เปิดบ่อนคาสิโน อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งตัวกลับไปยังประเทศจีนก่อนหน้านี้ และขณะเดียวกันในประเด็นที่ว่าผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และพวก ได้มีการรับเงินอุปถัมภ์จากจีนเทาหรือไม่นั้น เราก็จะต้องตรวจสอบดูด้วยว่าเป็นการรับเงินโดยเหตุถูกต้องหรือไม่ เพราะถ้าเป็นเงินที่ถูกต้อง มีเอกสารการรับบริจาคเงิน และวัตถุประสงค์ของเงินบริจาคเหล่านั้น แล้วนำมาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอาคารสำนักงานส่วนใด หรือใช้ซื้อสิ่งของใด ก็จะไม่เป็นความผิด แต่ถ้าหากเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด ก็จะต้องไปดูแหล่งที่มาของเงิน

พ.ต.ท.อนุรักษ์ กล่าวอีกว่า ถ้าหากในระหว่างกระบวนการสืบสวนพบว่ามีประเด็นใดเพิ่มเติมที่จะต้องสอบปากคำอดีตผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพกรุงเทพมหานคร และเลขานุการของผู้บัญชาการเรือนจำกรุงเทพมหานคร เราก็จะมีการพิจารณาออกหมายเรียกพยานแน่นอน และเมื่อพบการกระทำความผิดจริงตามพยานหลักฐาน ก็จะได้มีการสรุปสำนวนเพื่อส่งให้ ป.ป.ช. ไต่สวนตามความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐต่อไป ทั้งนี้ ระหว่างนี้ดีเอสไอยังคงอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลในแต่ละวัน เพื่อที่จะได้มีการสรุปความชัดเจนอย่างมากที่สุดในการรายงานความคืบหน้าไปยังปลัดกระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการที่ดีเอสไอไปตรวจค้นเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครเมื่อ 24 พฤศจิกายนนั้น ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานกว่า 100 ชิ้นเพื่อนำพิสูจน์ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครเอื้อประโยชน์นำผู้หญิงชาวจีนเข้าไปบำเรอผู้ต้องขังจีนเทาในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯและให้นำของต้องห้ามและเกินความจำเป็นเข้าไปในเรือนจำนั้น ล่าสุดนางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้ลงนามให้มีคำสั่งย้ายได้มานพ ชมชื่นผบ.และข้าราชการรวม 20 คน และล่าสุดให้ออกราชการไว้ก่อน 2คน นั้น

เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 1ใน 19 รายชื่อ ที่ปรากฏในหนังสือแนบท้ายคำสั่งกรมราชทัณฑ์ที่ 1510/2568 ลงวันที่ 17 พ.ย 2568 พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิลอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ลงนามคำสั่งย้ายออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เผิดเผยว่า ห้องลับใต้บันไดได้ก่อสร้างมาก่อนหน้านี้ประมาณ 9 เดือน โดยเงินของนักโทษจีนเทาออกเองจำนวน 2 ล้านบาท ซึ่งห้องดังกล่าวบางสัปดาห์ไม่ได้เปิดใช้เฉพาะวันอาทิตย์เท่านั้น

ห้องลับใต้บันไดดังกล่าวเป็นสถานที่เอื้อประโยชน์นักโทษจีนเทามีอภิสิทธิ์เหนือผู้ต้องขังอื่นๆ โดยจะมีอาหารสุดหรูจากร้านอาหารหน้าเรือนจำที่มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เป็นเจ้าของ และแดนสูทกรรม ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯที่นำมาเสริฟ์ให้ผู้ต้องขังชาวจีน นอกเหนือไปจากการนำอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ตู้เย็น ไมโครเวฟ มาไว้อำนวยความสะดวกสบายให้แล้ว ที่สำคัญ ในวันอาทิตย์ทุกสัปดาห์จะมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์่ ทำหน้าที่ขับรถไปรับหญิงสาวชาวจีนจากสนามบินมาส่งให้การบำเรอผู้ต้องขังชายจีนเทา

โดยค่าตอบแทนการดำเนินการอำนวยความสะดวกให้ผู้ต้องขังจีนเทาจ่ายให้กับผู้บริหารระดับสูงอย่างน้อย 3 คน รวมเดือนละ 30 ล้านบาท ซึ่งผู้บริหารเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯได้รับเดือนละ 10ล้านบาท สำหรับเงินจำนวนนี้ทราบว่าผู้บริหารคนดังกล่าว ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่สอบปากคำว่าตนไม่ได้รับไว้คนเดียว อ้างว่าส่วนหนึ่งตนได้แบ่งสรรปันส่วนเป็นสวัสดิการให้กับเจ้าหน้าที่ในเรือนจำ ซึ่งเท่ากับให้ปากคำมัดเจ้าหน้าที่ว่ามีส่วนกระทำความผิดรับส่วยไปด้วย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ขยายความรายละเอียดสวัสดิการเจ้าหน้าที่ที่ผู้บริหารระดับสูงมอบให้กับเจ้าหน้าที่ทุกเดือน ก็คือ อาหารแห้ง มาม่า ปลากระป๋อง เป็นต้น ซึ่งกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นกับผู้ใต้บังคับบัญชาถือว่าไม่ได้รับความยุติธรรมที่ต้องมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดไปด้วย

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top