อย่าสละชีวิตคนปลายน้ำ ค้านระเบิดถนนลพบุรีราเมศวร์

อย่าสละชีวิตคนปลายน้ำ ค้านระเบิดถนนลพบุรีราเมศวร์

วันพุธ ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 16.37 น.

นักวิชาการบ้านคูเต่า ค้านระเบิดถนนลพบุรีราเมศวร์ ระบายน้ำออกจากหาดใหญ่ ลั่น 'อย่าแก้ปัญหาด้วยการสละชีวิตคนปลายน้ำ'

26 พฤศจิกายน นายสามารถ สาเร็ม นักวิชาการอิสระ ด้านพหุวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์มุสลิมเมืองสงขลา ซึ่งเป็นชาวบ้านควน ตำบลคูเต่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาได้โพสต์เฟสบุ๊ค ถึงกรณีมีการเสนอให้ระเบิดถนนลพบุรีราเมศวร์ เพื่อระบายน้ำออกจากตัวเมืองหาดใหญ่ จ.สงขลา


นายสามารถ ระบุว่า “อย่าแก้ปัญหาด้วยการสละชีวิตคนปลายน้ำ” : ข้อเสนอฝ่าวิกฤตน้ำท่วมหาดใหญ่ และชะตากรรมของชาวคูเต่านับหมื่นชีวิต

ในขณะนี้ มหาวิกฤตอุทกภัยกำลังโหมกระหน่ำเมืองหาดใหญ่ในระดับรุนแรงที่สุด ผลกระทบไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่พื้นที่เศรษฐกิจใจกลางเมือง แต่ได้ขยายวงกว้างไปจนถึงพื้นที่รอบนอก โดยเฉพาะพื้นที่ “ตำบลคูเต่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา” ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่นับหมื่นคน และกำลังตกอยู่ในสภาวะวิกฤตที่ถูกลืม

พื้นที่รับน้ำที่ไร้การช่วยเหลือ

ตำบลคูเต่า คือพื้นที่ปลายน้ำด่านสุดท้ายที่ต้องรองรับมวลน้ำมหาศาลจากตัวเมืองหาดใหญ่ที่ไหลผ่าน คลองอู่ตะเภา (ซึ่งผ่ากลางหมู่บ้าน) และ คลองระบายน้ำที่ 1 (คลองภูมินาถภักดี) ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านควน ต.คูเต่า เพียง 4-5 กิโลเมตร ก่อนจะไหลลงสู่ทะเลสาบสงขลา

สถานการณ์ปัจจุบัน ประชาชนนับหมื่นชีวิตกำลังรอคอยความช่วยเหลืออย่างสิ้นหวัง พื้นที่พักพิงมีเพียงอาคารสูง 2 ชั้น ซึ่งไม่เพียงพอรองรับผู้อพยพ ในขณะที่ฝนยังคงตกหนักและลมกรรโชกแรงต่อเนื่อง

ข้อเท็จจริงเรื่อง "การระเบิดถนน

ท่ามกลางวิกฤต มีกระแสข่าวและข้อเสนอจากบางสื่อและบางกลุ่มคน ให้มีการ “ระเบิดถนนลพบุรีราเมศวร์” รวมถึงถนนสายอื่นๆ เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากตัวเมืองหาดใหญ่ ขอเรียนชี้แจงด้วยความเคารพและห่วงใยว่า ข้อเสนอดังกล่าว หากกระทำโดยปราศจากมาตรการรองรับ จะเสมือนการ “#ฆ่า” ประชาชนนับหมื่นคนที่อาศัยอยู่ปลายน้ำในเขตตำบลคูเต่าทันที มวลน้ำก้อนใหญ่จะถาโถมเข้าใส่หมู่บ้านที่จมน้ำอยู่แล้วให้จมดิ่งลงไปอีก

3 ข้อเสนอเพื่อทางออกที่ยุติธรรมและปลอดภัยสำหรับทุกชีวิต เพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างรอบคอบ ยุติธรรม และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง จึงขอเสนอแนวทางปฏิบัติเร่งด่วน ดังนี้

1. การช่วยเหลือทางมนุษยธรรมต้องมาก่อน (ด่วนที่สุด) ต้องเร่งระดมสรรพกำลังเข้าช่วยเหลือชาวบ้านตำบลคูเต่าที่ติดค้างอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวและตามบ้านเรือนโดยทันที

อพยพ : นำคนที่ตกค้างออกมายังที่ปลอดภัย

เสบียงชีพ : หากยังอพยพไม่ได้ ต้องนำอาหาร น้ำดื่ม นมผงสำหรับเด็ก และน้ำมันเบนซิน (สำหรับเติมเรือชาวบ้าน) เข้าไปส่งมอบหรือหย่อนทางอากาศให้ทั่วถึงโดยเร็วที่สุด

2. ต้องอพยพคนก่อนระเบิดทาง หากมีความจำเป็นทางยุทธศาสตร์น้ำที่จะต้องระเบิดถนนลพบุรีราเมศวร์หรือถนนสายใดก็ตาม “#เงื่อนไขที่ขาดไม่ได้” คือต้องทำการอพยพประชาชนนับหมื่นคนในตำบลคูเต่าออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยให้หมดสิ้นเสียก่อน การระเบิดถนนโดยที่คนยังอยู่เต็มพื้นที่ปลายน้ำ คือโศกนาฏกรรมที่ยอมรับไม่ได้

3. #แก้ที่ต้นตอ : #เปิดปากทะเลสาบสงขลา ทางออกของน้ำจากทะเลสาบสงขลาสู่ทะเลอ่าวไทยมีเพียงทางเดียว คือบริเวณรอยต่อระหว่าง ต.บ่อยาง อ.เมือง และ ต.หัวเขา อ.สิงหนคร ปัจจุบันจุดระบายน้ำนี้แคบลงอย่างมากเนื่องจากมี “#เขื่อนท่าเรือน้ำลึกปากทะเลสาบสงขลา”

อ้างถึงข้อมูลจากภาคประชาสังคม โดย คุณปรีชา สุขเกษม ที่เคยนำเสนอผ่านไทยพีบีเอส ระบุว่าเขื่อนดังกล่าวมีคำสั่งศาลให้รื้อถอน แต่หน่วยงานรัฐกลับละเลย จึงขอเรียกร้องให้ ดำเนินการรื้อถอนเขื่อนปากทะเลสาบสงขลา ตามคำสั่งศาลโดยด่วน เพื่อเปิดทางให้น้ำระบายออกสู่ทะเลได้รวดเร็วขึ้น แทนการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุด้วยการระเบิดถนนซึ่งจะสร้างความเสียหายแก่ชีวิตประชาชน

เราคนไทยด้วยกัน โปรดอย่าแก้ปัญหาที่หนึ่ง ด้วยการสร้างหายนะให้อีกที่หนึ่ง ขอให้ทุกชีวิตรอดปลอดภัยไปด้วยกัน

#ขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลไทย ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกระดับ

สามารถ สาเร็ม (26 พฤศจิกายน 2568)

คนสงขลา บ้านควน ตำบลคูเต่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top