วันจันทร์ ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2568
อำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ระดมรถกู้ชีพ กู้ภัย ส่วนราชการและเอกชนเร่งลำเลียงเด็ก คนชรา ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียงที่ยังตกค้างออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยสู้รบไปยัง รพ. และศูนย์พักพิงที่ปลอดภัยต่อเนื่อง ล่าสุดเสียงปืนใหญ่ยังดังไม่หยุด ป้าเล่านาทีแรงสั่นสะเทือนจากการปะทะทำกระจกบ้านร้าว ต้องเร่งประสาน จนท.ช่วยพี่สาวป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายหนีตาย ฝากรัฐบาลจัดการให้เด็ดขาดอย่าให้มีการปะทะเป็นรอบที่สามอีก เพราะคนชายแดนลำบากมากต้องทิ้งบ้านหนีตาย ขาดรายได้
8 ธ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับสาธารณสุขอำเภอ เทศบาล อบต.ภาคเอกชน ได้ระดมเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน รวมทั้งหน่วยกู้ชีพ กู้ภัย อาสาสมัครรักษาดินแดนและชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ยังคงเร่งช่วยกันลำเลียงเด็ก คนชรา ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียงที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังคงตกค้างออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย ไปรักษาต่อยัง รพ. ที่ปลอดภัย และศูนย์พักพิงที่ห่างไกลจากรัศมีการสู้รบ เนื่องจากขณะนี้ยังมีเสียงปืนใหญ่จากการยิงปะทะดังต่อเนื่อง แม้จะยังไม่มีรายงานบ้านเรือนเสียหายหรือมีผู้บาดเจ็บ แต่สถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ อำเภอจึงประกาศให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งขณะนี้ก็มีการอพยพออกจากพื้นที่แล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือจะเป็นเพียงผู้นำชุมชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน และ อส.ที่คอยดูแลทรัพย์สิน บ้านเรือนและสัตว์เลี้ยงของประชาชนตามแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง

อย่างไรก็ตาม ประชาชนแนวชายแดนต่างเรียกร้องให้รัฐบาลและทหาร ดำเนินการอย่างเด็ดขาดอย่าให้เกิดการสู้รบอีกเป็นรอบที่สามเลย เพราะประชาชนแนวชายแดนเดือดร้อนมาก นอกจากจะต้องทิ้งบ้าน สัตว์เลี้ยงไปอยู่ศูนย์พักพิงแล้ว ก็ต้องขาดรายได้อีก คนชายแดนลำบากมาก
ขณะที่นายเอกวัฒน์ พวงประโคน นายอำเภอบ้านกรวด ก็ได้มาคอยดูแลสั่งการที่ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังอำเภอบ้านกรวด รวมถึงมาให้กำลังใจคนชรา ผู้ป่วยติดเตียงที่ถูกลำเลียงมาจากหมู่บ้าน เพื่อรอการส่งต่อไปยัง รพ. และศูนย์พักพิง โดยอำเภอบ้านกรวดมีทั้งหมด 9 ตำบล 118 หมู่บ้าน ประชากร 76,000 คน แต่อาศัยอยู่ในพื้นที่จริง 40,000 คน อพยพแล้วกว่า 29,000 คน
นางสวย สังเวียนดี ชาวบ้านตำบลโนนเจริญ อ.บ้านกรวด บอกว่า วันนี้ได้ยินเสียงปืนใหญ่จากการยิงปะทะดังตั้งแต่เช้า และแรงสั่นสะเทือนจากการยิงปะทะก็ทำให้กระจกบ้านร้าว จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ให้ไปช่วยเหลือเคลื่อนย้ายพี่สาวเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ออกจากบ้านและส่งต่อไปยัง รพ.ที่ปลอดภัย ส่วนตัวมองว่าหากรบแล้วก็อยากรัฐบาลเด็ดขาด และจัดการให้จบเร็วๆ อย่าปล่อยให้ปัญหายื้อเยื้อไปจนถึงรุ่นลูกหลานอีก
ด้านนายประชา เขียวอุสา ชาวบ้านอำเภอบ้านกรวด บอกว่า ภรรยาป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองตีบไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ นอนติดเตียงมานานกว่า 5 ปีแล้ว สู้รบครั้งก่อนไม่ได้อพยพออกจากพื้นที่เพราะสงสารภรรยา แต่ครั้งนี้ผู้นำแจ้งว่าให้อพยพเพื่อความปลอดภัย เพราะคิดว่าน่าจะรุนแรงกว่าครั้งก่อน จึงตัดสินใจประสานเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยลำเลียงภรรยาที่ป่วยติดเตียงไปยังที่ปลอดภัย ก็อยากฝากรัฐบาลและทหารแนวหน้า จัดการเขมรให้เด็ดขาดและจบโดยเร็ว อย่าให้เกิดการสู้รบเป็นรอบที่สามอีก เพราะการอพยพแต่ละครั้งลำบากมาก โดยเฉพาะคนที่มีญาติป่วยติดเตียง เพราะการอพยพแต่ละครั้งก็ต้องมีค่าใช้จ่าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี