วันอังคาร ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2568
เลขาธิการ ส.ป.ก. เรียกประชุมสถานการณ์และผลกระทบที่เกิดจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา
วันที่ 9 ธันวาคม 2568 เวลา 09.30 น. นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (เลขาธิการ ส.ป.ก.) เป็นประธานการประชุมสถานการณ์และผลกระทบที่เกิดจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมด้วย พร้อมด้วย รองเลขาธิการ ส.ป.ก. ผู้ตรวจราชการกรม ผู้อำนวยการสำนัก (สบก. สบท. กกจ. สพท. สวผ.) และผู้เชียวชาญ อาภาพรรณ ปฏิรูปที่ดินจังหวัด ศรีษะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี บุรีรัมย์ จันทบุรี ตราด และ สระแก้ว ณ ห้องจาริน อัตถะโยธิน และ ผ่านโปรแกรม Zoom Cloud Meeting
เลขาธิการ ส.ป.ก. ได้มีมาตรการและแผนการให้ความช่วยเหลือเกษตรกร โดยให้มีการสำรวจติดตามเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินที่ได้รับผลกระทบ หากมีการเสียชีวิต ส.ป.ก. จะมีมาตรการช่วยเหลือทั้งผู้ที่เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงเน้นย้ำไปยังเกษตรกรที่มีทหารอยู่ในครอบครัว ถ้าครอบครัวเกี่ยวพันกับทหารหาญ เช่น สามี หรือ บุตร ที่ได้รับผลกระทบบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการสู้รบ ที่สละชีพเพื่อชาติ หรือบาดเจ็บจากการสู้รบ ขอให้ ส.ป.ก.จังหวัดไปตรวจสอบข้อมูลมารายงานด้วย เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวต่อไปว่า สำหรับกิจกรรมหรือโครงการใดที่ยังไม่สามารถเข้าไปดำเนินการต่อได้เนื่องจากความไม่สงบ ก็ให้รอจนมีความปลอดภัยก่อน
จากการประชุม ส.ป.ก. มีมาตรการและแผนการให้ความช่วยเหลือ คือ
1. มาตรการเร่งด่วน โดยสำนักบริหารกลาง (สบก.) ดำเนินการช่วยเหลือด่วนด้านของบริโภค ของใช้ที่จำเป็นให้ เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ โดยให้ ส.ป.ก.จังหวัดสำรวจ และแจ้ง สบก. และสำนักบริหารกองทุน (สบท.) ได้ออกมากตรการ ลด/งด หนี้ ของเกตรกร โดยจะทำรายละเอียด แจ้งจังหวัด
2. มาตรการช่วยเหลือข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้างประจำ จ้างเหมาบริการ โดย กองการเจ้าหน้าที่ (กกจ.)แจ้งให้ผู้ที่มีผลกระทบจากภัยพิบัติ หรือเกิดอันตรายจากภัยพิบัติ แจ้งหนังสือเข้ามาที่ กกจ. เพื่อขอรับการช่วยเหลือ
3. มาตรการฟื้นฟูเกษตรกรภายหลังจากสถานการณ์สงบ โดยสำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี (สพท.) จะดำเนินการช่วยเหลือ เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบต่อพื่นที่เกษตรกรรม ที่เกิดความเสียหาย หรือความต้องการ แจ้งมาที่ สพท. เพื่อ สพท.จะนำข้อมูลมาประกอบการพิจารณาให้ความช่วยเหลือในการฟื้นฟูเกษตรกร โดยจัดทำโครงการเพื่อขอความเห็นชอบเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม นำเสนอคณะอนุกรรมการโครงการและการเงินกองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (อกก.คง.) พิจารณาอนุมัติใช้เงินเงินกองทุนเพื่อมาฟื้นฟูเกษตรกรตามโครงการ ต่อไป นอกจากนี้ ในที่ประชุม ได้มีการรายงานสถานการณ์ปัจจุบันของ ส.ป.ก.จังหวัดแต่ละจังหวัด ผลกระทบต่อเกษตรกรในพื้นที่ โดยมีรายระเอียดดังนี้
ส.ป.ก.ศรีสะเกษ รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค. 68 เป็นต้นมา พื้นที่ที่เป็นจุดความเสี่ยงหลัก ๆ มี 3 อำเภอ คือ อำเภอกันทรลักษ์ อำเภอขุนหาญ และอำเภอภูสิงห์ โดยอำเภอกันทรลักษ์ได้รับผลกระทบมากที่สุด มีเขตปฏิรูปที่ดินใหญ่ที่สุด ครอบคลุม 36 ตำบล 286 หมู่บ้าน 43, 000 ครัวเรือน เนื้อที่ 384,000 ไร่ รองลงมาคือ อำเภอขุนหาญ มีเขตปฏิรูปที่ดิน 11 ตำบล 124 หมู่บ้าน 20,000 ครอบครัว เนื้อที่ 164,000 ไร่ ส่วนอำเภอภูสิงห์ มีเขตปฏิรูปที่ดิน 7 อำเภอ 7 ตำบล 101 หมู่บ้าน เกษตรกร 1,900 ราย เนื้อที่ 90,000 ไร่ รวมพื้นที่ทั้ง 3 อำเภอที่เป็นพื้นที่แนวเขตที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งสิ้น 49 ตำบล 511 หมู่บ้าน 75,000 ครอบครัว เนื้อที่ได้รับผลกระทบ 639,000 ไร่ จังหวัดศรีสะเกษได้จัดศูนย์อพยพไว้รองรับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบไว้จำนวน 360 ศูนย์อพยพ และศูนย์ครอบครัว 96 ศูนย์ รวมทั้งสิ้น 456 ศูนย์ ซึ่งมีผู้เข้าพักแล้ว 46,579 ราย ยังรองรับได้อีก 30,000 ราย ความช่วยเหลือเบื้องต้น ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษได้มอบหมายให้แต่ละศูนย์จัดเตรียมอาหาร น้ำ ครบ 3 มื้อ มีการรักษาความปลอดภัย ดูแลอย่างดี และออกเยี่ยมเยียนแต่ละศูนย์ และมอบรองผู้ว่าติดตามศูนย์ตลอดเวลา โดยอำเภอติดชายแดน ประกอบไปด้วย อำเภอกันทรลักษ์ อำเภอขุนหาญ และอำเภอภูสิงห์ มีการอพยพ 100 เปอร์เซ็นต์ ส.ป.ก.ศรีสะเกษ ยังไม่ได้รับรายงานเกษตรกรเสียชีวิต
ส.ป.ก.สุรินทร์ รายงานว่า ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ แบ่งเป็น 2 โซน คือพื้นที่สีแดง คือ อำเภอกาบเชิง มี 6 ตำบล เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินได้รับผลกระทบ 5,849 ราย และที่อำเภอพนมดงรัก มีพื้นที่ 4 ตำบล เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินได้รับผลกระทบ 5,750 ราย สำหรับพื้นที่สีชมพู อำเภอสังขะ มี 12 ตำบล เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินได้รับผลกระทบ 16,138 ราย อําเภอบัวเชด มี 6 ตำบล เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินได้รับผลกระทบ 5,883 ราย รวมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 4อำเภอ 28 ตำบล เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินได้รับผลกระทบ 33,620 ราย โครงการของ ส.ป.ก.สุรินทร์ ที่ได้รับผลกระทบคือ โครงการธุรกิจชุมชน ที่อำเภอกาบเชิง เกษตรกรรมยังยืน (เกษตรอินทรีย์) ที่อำเภอปราสาท และโครงการวนเกษตรที่อำเภอสังขะ โครงการเกษตรชีวภาพ โครงการพัฒนาระบบวนเกษตร ที่อำเภอปราสาท อำเภอพนมดงรัก อำเภอบัวเชด โครงการปรับปรุง ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร ซึ่งจะเข้าไปในพื้นที่ยากขึ้น โดย ส.ป.ก.สุรินทร์จะปรับเปลี่ยนไปรับเรื่องจากเกษตรกรที่ศูนย์อพยพ นอกจากนี้สิ่งที่ได้รับผลกระทบของ ส.ป.ก.สุรินทร์ คือมีการทำถนน 4 สาย ที่ตำบลพนมดงรัก ซึ่งต้องดูสถานการณ์ความไม่สงบประกอบต่อไป ในส่วนของศูนย์อพยพ จังหวัดสุรินทร์มีการจัดศูนย์อพยพ ในอำเภอเมือง 12 ศูนย์ อำเภอปราสาท 11 ศูนย์ อำเภอศีขรภูมิ 15 ศูนย์ อำเภอสำโรงทาบ 4 ศูนย์ อำเภอสนม 5 ศูนย์ อำเภอเขวาสินรินทร์ 9 ศูนย์ รวมพื้นที่รับผู้อพยพ จำนวน 58 แห่ง ข้อมูล ณ วันที่ 8 ธ.ค. 68 มีผู้เข้ามาพักพิงชั่วคราวแล้ว 28,081 คน
ส.ป.ก.บุรีรัมย์ รายงานว่า มียอดผู้ลงทะเบียนศูนย์พักพิง 5,935 ราย เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน 1,187 ราย สำหรับโครงการ ส.ป.ก.บุรีรัมย์ ประกอบด้วย โครงการยกระดับประสิทธอภาพพัฒนาสินค้าเกษตรชีวภาพ โครงการเพิ่มศักยภาพระบบงานเกษตร โครงการพัฒนา เกษตรกรรมยั่งยืน ชะลอการดำเนินการไว้ก่อน จนกว่าเหตุการณ์ความไม่สงบจะยุติ
ส.ป.ก.จันทบุรี รายงานว่า มีพื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดินติดชายแดน จำนวน 2 อำเภอ คือ อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว ระยะห่างจากชายแดน 2 กิโลเมตร ยังไม่มีการแจ้งอพยพ และกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ส.ป.ก.ตราด รายงานว่า ยังไม่ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ในส่วนของเขตปฏิรูปที่ดิน มีพื้นที่ 300,000 ไร่ ครอบคลุม 4 อำเภอ 21 ตำบล 105 หมู่บ้าน เป็นพื้นที่ชายแดน 5 อำเภอ 16 ตำบล 69 หมู่บ้าน พื้นที่ที่เกิดเหตุในชายแดน ที่อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน มี 2 อำเภอ คือ อำเภอเมืองตราด กับอำเภอบ่อไร่ ในภาคพื้นที่ภาคสนาม จังหวัดตราดได้จัดเตรียมศูนย์พักพิง 118 แห่ง อยู่ในอำเภอเมืองตราด 25 แห่ง อยู่ในอำเภอเขาสมิง 47 แห่ง อยู่ในอำเภอแหลมงอบ 15 แห่ง และมีศูนย์กลางอยู่ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลจังหวัดตราด จัดเตรียมยานพาหนะเตรียมอพยพคนในพื้นที่ จำนวน 1,395 คัน กระจายอยู่ใน 3 อำเภอที่ประสบเหตุอยู่ และเตรียมกำลังพลเตรียมเข้าช่วยเหลือ 1,700 คน เตรียมหลุมหลบภัย 53 หลุม รองรับคนได้ 2,400 คน ในเขตพื้นที่ของ ส.ป.ก. ยังไม่ได้รับผลกระทบ
ส.ป.ก.สระแก้ว รายงานว่า มีเขตปฏิรูปที่ดินทั้ง 9 อำเภอ เนื้อที่ 2,100,000 ไร่ ได้รับผลกระทบ จำนวน 4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอคลองหาด ได้รับผลกระทบ 7 ตำบล เนื้อที่ 236,000 ไร่ มีเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน 12,400 ราย อำเภอตาพระยา ได้รับผลกระทบ 5 ตำบล เนื้อที่ 334,000 ไร่ มีเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน 18,000 ราย อำเภออรัญประเทศ ได้รับผลกระทบ 7 ตำบล เนื้อที่ 64,700 ไร่ มีเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน 7,000 ราย และอำเภอโคกสูง ได้รับผลกระทบ 4 ตำบล เนื้อที่ 175,000 ไร่ มีเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน 6,900 ราย รวม 4 อำเภอ 23 ตำบล เนื้อที่ที่รับผลกระทบ 811,374 ไร่ มีเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน 44,949 รายที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีเขตติดต่อชายแดนพอสมควร กำลังมีการขยายศูนย์พักพิงเพิ่มเติม มีการอพยพเกษตรกร และกำลังประสานข้อมูลเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ สำหรับโครงการที่อาจได้รับผลกระทบ คือกลุ่มพัฒนาธุรกิจชุมชน ของอำเภอตาพระยา และกลุ่มเกษตรกรรมยั่งยืน ของอำเภอโคกสูง
ส.ป.ก.อุบลราชธานี รายงานว่า พื้นที่ที่มีการปะทะ อยู่ใน 4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอน้ำยืน มีเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน 12,000 ราย อำเภอนาจะหลวย มีเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน 15,000 ราย อำเภอน้ำขุ่น มีเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน 10,000 ราย และอำเภอบุณฑริก มีเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน 24,000 ราย รวมมีเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน 70,000 ราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี