ส.ป.ก.จัดโครงการงานรณรงค์หยุดเผาในเขตปฏิรูปที่ดิน 'ฮักบ้านเฮา หยุดเผากันเน้อ'

ส.ป.ก.จัดโครงการงานรณรงค์หยุดเผาในเขตปฏิรูปที่ดิน 'ฮักบ้านเฮา หยุดเผากันเน้อ'

วันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 19.31 น.

ส.ป.ก.จัดโครงการงานรณรงค์หยุดเผาในเขตปฏิรูปที่ดิน “ฮักบ้านเฮา หยุดเผากันเน้อ” พร้อมเชื่อมโยงกิจกรรม กับ ส.ป.ก.จังหวัดภาคเหนือ (16 จังหวัด) ผ่านระบบออนไลน์

รมช.เกษตรและสหกรณ์ เดินหน้ารณรงค์หยุดการเผาในเขตปฏิรูปที่ดิน “ฮักบ้านเฮา หยุดเผากันเน้อ” พร้อมตั้งศูนย์รณรงค์หยุดการเผาในเขตปฏิรูปที่ดินภาคเหนือ 17 จังหวัด ชูมาตรการเข้ม “ไม่เผาในพื้นที่เกษตร” แก้ปัญหาวิกฤต PM 2.5


เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2568 นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงานรณรงค์หยุดการเผาในเขตปฏิรูปที่ดิน “ฮักบ้านเฮา หยุดเผากันเน้อ” ณ ที่ว่าการอำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) ในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5

งานรณรงค์หยุดเผาในเขตปฏิรูปที่ดิน “ฮักบ้านเฮา หยุดเผากันเน้อ” จัดขึ้นโดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ร่วมกับหน่วยงานความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อกระตุ้นให้เกษตรกรตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการเผา และนำเสนอทางเลือกในการจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรทดแทนการเผา สร้างการมีส่วนร่วมของเกษตรกรในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผา รวมทั้งสร้างต้นแบบในการทำการเกษตรปลอดการเผาเพื่อสนับสนุนการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตรในระยะต่อไป

นายนเรศ ได้กล่าวเน้นย้ำถึงมาตรการสำคัญที่จะนำมาใช้ในช่วงฤดูกาลผลิตที่จะถึงนี้ว่ารัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 และได้กำหนดให้การลดการเผาในพื้นที่เกษตรกรรมเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญ ดังนั้น เพื่อให้เกิดการลดการเผาอย่างเป็นรูปธรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ประกาศมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา PM 2.5 ภาคการเกษตร พ.ศ. 2568 (ฉบับที่ 2) โดยเกษตรกรที่มีประวัติการเผาในพื้นที่การเกษตร ตั้งแต่ 1 เมษายน 2569 - 31 มีนาคม 2571 จะหมดสิทธิ์เข้าร่วมโครงการสนับสนุนจากรัฐทุกรายการ เป็นเวลา 2 ปี ยกเว้นการช่วยเหลือกรณีภัยพิบัติ รวมทั้งดำเนินโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อรณรงค์และส่งเสริมให้เกษตรกรหยุดการเผา และหันมาใช้เทคโนโลยี และวิธีการจัดการเศษวัสดุทางการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

"การเผาในพื้นที่เกษตรกรรมนับเป็นความท้าทายอย่างยิ่งในการแก้ไขปัญหา จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและพี่น้องเกษตรกรทุกคน ซึ่งการจัดตั้ง “ศูนย์รณรงค์หยุดการเผาในเขตปฏิรูปที่ดิน” ถือเป็นรูปแบบกิจกรรมที่เป็นการสร้างการมีส่วนร่วม และเพิ่มประสิทธิภาพกลไกการดำเนินงานในระดับพื้นที่ ให้มีความเท่าทันต่อสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งการไม่เผานอกจากจะช่วยลดต้นทุน สภาพดินอุดมสมบูรณ์แล้ว ยังดีต่อสุขภาพของเกษตรกรอีกด้วย และเชื่อมั่นว่ามาตรการต่าง ๆ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เดินหน้าขับเคลื่อนอย่างเข้มข้น รวมทั้งกิจกรรมในวันนี้นั้นจะสามารถทำให้การเผาและฝุ่น PM 2.5 ลดลงอย่างเป็นรูปธรรม" รมช.นเรศ กล่าว

ด้าน นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ เลขาธิการ ส.ป.ก.กล่าวเสริมว่า นอกจากมาตรการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มอบให้เป็นแนวทางขับเคลื่อนงานแล้ว ในด้านของกฎหมาย ส.ป.ก.ยังมีมติคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ครั้งที่ 8/2566 เรื่องกำหนดหน้าที่เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน ห้ามกำจัดวัสดุทางการเกษตรโดยการเผามาดำเนินการและบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่ด้วย

ทั้งนี้ ส.ป.ก.ได้ร่วมมือกับเครือข่ายเกษตรกร เจ้าหน้าที่ภาครัฐ และภาคเอกชน ในการประกาศเจตนารมณ์ไม่เผาในพื้นที่เกษตรกรรมเพื่อหยุดปัญหาควันพิษและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 พร้อมกับเปิด “ศูนย์รณรงค์หยุดการเผาในเขตปฏิรูปที่ดิน” เพื่อเป็นกลไกการรณรงค์และขับเคลื่อนการหยุดเผาในพื้นที่เกษตรกรรม รวมทั้งขยายผลองค์ความรู้การบริหารจัดการทรัพยากรในภาคการเกษตรให้เกิดการใช้ประโยชน์และมีประสิทธิภาพตามแนวทางเกษตรกรรมยั่งยืนต่อไป

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top