วันพุธ ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ทภ.2 เปิด สมรภูมิเดือด ปราสาทตาควาย-ช่องอานม้า ฝ่ายไทย เปิดเกมรุก ใช้อาวุธหลายมิติ ทหารเจ็บหลายนาย ส่วนกัมพูชา ใช้ฝูงโดรน ,BM- 21 โจมตี หวังยึดพื้นที่คืน
17 ธ.ค.68 เมื่อเวลา 10.00 น. กองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กพช. วานนี้ (16 ธ.ค) ด้านจังหวัดอุบลราชธานี พื้นที่ช่องบก ตลอดทั้งวัน สถานการณ์โดยรวมปกติ ไม่มีการปะทะขนาดใหญ่ อยู่ในสถานะเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมพื้นที่
ช่องอานม้า เป็นพื้นที่การรบเข้มข้นที่สุดตลอดทั้งวัน ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติการเชิงรุกต่อเนื่อง มีการเข้าตีที่หมายตามแผน ปฏิบัติการตาม “ยุทธการศตวรรษ” สามารถควบคุมพื้นที่ได้โดยสมบูรณ์ ตรวจพบและทำลาย PMN-2 ในพื้นที่ ฝ่ายกัมพูชาตอบโต้ด้วย BM-21, ปืนใหญ่ ,ปืน ค., ปทนเล็กยาว และโดรน ฝ่ายไทยมีการเสริมกำลัง สถาปนาแนววางกำลังใหม่ และวางลวดหนามเพิ่มความมั่นคง
จังหวัดศรีสะเกษ พื้นที่ซำแต – โดนตรวล-ภูผี-สัตตะโสม - พนมประสิทธิโส-ช่องตาเฒ่า ฝ่าย กัมพูชา ยิงปืนใหญ่ ไปยังพื้นที่ช่องตาเฒ่า-สัตตะโสม โดยฝ่ายกัมพูชา ยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เข้ามาที่บริเวณเขาสัตตะโสมต่อเนื่อง จากการข่าวพบฝ่ายกัมพูชา ขาดเสบียง และพยายามต่อต้านฝ่ายไทยด้วยอาวุธหนัก
พื้นที่ ผามออีแดง-ห้วยตามาเรีย ทั้งสองฝ่ายมีการปะทะเป็นระยะๆ ด้วยปืนเล็กยาว และ ปืน ค. ประปราย ฝ่ายไทยได้ตรวจพบ รถส่งกำลังบำรุงและรถบรรทุกฝ่ายตรงข้ามหลายครั้ง ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ ปืนใหญ่และเครื่องยิงลูกระเบิด ยิงทำลายเป้าหมายทางทหารฝ่ายกัมพูชา
โดยฝ่ายกัมพูชาได้ใช้ เครื่องยิงลูกระเบิด , ปืนใหญ่ , รถถัง รวมถึงโดรนทิ้งระเบิดมตอบโต้กันเป็นระยะตลอดทั้งวัน โดยภาพรวม ฝ่ายไทยยังควบคุมสถานการณ์ได้
พื้นที่ภูมะเขือ ช่องโดนเอาว์-พลาญยาว-พลาญหินแปดก้อน ฝ่ายไทยได้ตรวจพบโดรนขนาดใหญ่ คาดว่าเป็นโดรนทิ้งระเบิดของทหารกัมพูชา บินหาเป้าหมายม
ส่วนแนวรบช่องสะงำ ไม่มีการสู้รบ สถานการณ์เฝ้าระวัง
ชายแดนฝั่งจังหวัดสุรินทร์ ในพื้นที่ ช่องจอม - ช่องเปรอ - ช่องระยี ทหารกัมพูชาได้ยิง จรวดหลายลำกล้องBM - 21 จำนวน 1 ชุด เข้ามายังฝั่งไทย
พื้นที่คนา ฝ่ายไทยสามารถยึดที่หมายและควบคุมพื้นที่ได้ ทหารกัมพูชาใช้โดรนบินตรวจการณ์ในพื้นที่ตลอด นอกจากนี้ทางทหารกัมพูชายังได้สั่งการให้ยิง ปืนใหญ่สนับสนุน ยังพื้นที่ปราสาทคนาหลายครั้ง กระสุนปืนใหญ่ และ BM-21 ตกบริเวณฐานทหาร แต่กำลังพลไม่ได้รับบาดเจ็บ
พื้นที่ปราสาทตาควาย ฝ่ายเราได้รับบาดเจ็บ 2 นาย จากการยิงตอบโต้ของฝ่ายทหารกัมพูชา กำลังพลฝ่ายไทยได้รับบาดเจ็บ 3 นาย จากสะเก็ดระเบิดของอาวุธวิถีโค้ง จากจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ยิงเข้ามาบริเวณเนิน 350
จากนั้นทหารกัมพูชา ยังได้สั่งการให้ใช้ปืนใหญ่ และ รถถังบุกเข้ายิงไปที่พื้นที่ปราสาทตาควายหลายครั้ง ก่อนที่จะมีการตรวจพบ UAV ของทางทหารกัมพูชาจำนวน 1 ลำ บินในพื้นที่
พื้นที่ช่องกร่าง ทหารกัมพูชายังคงตรึงกำลังตลอดแนว มีการยิงปืนใหญ่เป็นห้วงๆ
พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ไทยตรวจพบ BM-21 และ UAV/Drone ในหลายช่วงเวลา และมีการยิงจากฝ่ายตรงข้ามใส่ฐานฝ่ายเรา แต่ยังไม่เกิดความสูญเสีย อยู่ในสถานะเฝ้าระวังระดับสูง
ชายแดนจังหวัดบุรีรัมย์ พื้นที่ช่องสายตะกู ปรากฏมีการยิงตอบโต้กันด้วย ปืน ค. และ ปืนเล็กยาว ประปราย ไทยมีการยิงตอบโต้ด้วย ปืน ค. และ ปืนใหญ่อย่างหนาแน่นเวลา
โดยสรุปสถานการณ์ภาพรวมวันที่ 16 ธ.ค. เป็นวันที่การรบมีความรุนแรงสูง โดยเฉพาะพื้นที่ช่องอานม้าและปราสาทตาควาย ฝ่ายไทยเป็นฝ่ายเปิดเกมรุกเชิงยุทธการ ใช้อาวุธประสานหลายมิติ (ปืนใหญ่ ,รถถัง, ทหารราบ และโดรน) ฝ่ายกัมพูชาใช้ BM-21, ปืนใหญ่ , ปืน ค., UAV และโดรนทิ้งระเบิด อย่างต่อเนื่อง
ฝ่ายไทยสามารถ ยึดควบคุมพื้นที่สำคัญหลายจุดได้สำเร็จ โดยเฉพาะพื้นที่ช่องอานม้า มีกำลังพลฝ่ายไทยได้รับบาดเจ็บหลายราย แต่ระบบแพทย์สนามและการส่งกลับทำได้ต่อเนื่อง แนวโน้มสำคัญ คือ กัมพูชามีการใช้โดรน จำนวนมากขึ้นควบคู่กับการยิงจรวด BM-21 ภาพรวมไทยยังคงครองความได้เปรียบเชิงพื้นที่และการควบคุมสถานการณ์ได้ดี
ทั้งนี้ ในทุกปฏิบัติการที่เกิดขึ้นเป็นไปด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ ขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในขีดความสามารถและศักยภาพของกองทัพไทย จะปกปักรักษาอธิปไตยไทยไม่ให้เสียแม้แต่ตารางเซ็นติเมตรเดียว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี