วันพฤหัสบดี ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2568
จับหัวโจกสแกมเมอร์จีน
ต๋นเหยื่อพันล้าน
คาสนามบินสุวรรณภูมิ
เริ่มแล้วไทยเจ้าภาพใหญ่
39ชาติถกโกงออนไลน์
เริ่มแล้วการประชุมระดับโลก ปราบสแกมเมอร์ ไทยเป็นเจ้าภาพร่วมกับ UNODC พร้อมผนึกกำลังกับ 39 ประเทศสร้างความร่วมมือระดับโลก รับมือปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ด้านตม.สกัด “บิ๊กบอสสแกมเมอร์จีน” ผู้ต้องหาหมายแดงอินเตอร์โพล มูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท คาสุวรรณภูมิ ขณะเตรียมหลบหนี ออกนอกประเทศ
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2568 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมระหว่างประเทศว่าด้วย หุ้นส่วนระดับโลกเพื่อต่อต้านอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเตอร์เนต (International Conference on the Global Partnership against Online Scams) ซึ่งประเทศไทยเป็นผู้ริเริ่มและเป็นเจ้าภาพร่วมกับสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ระหว่างวันที่ 17-18 ธันวาคม 2568 ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพมหานคร การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนระดับโลก ผ่านการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แนวปฏิบัติที่ดี ข้อมูลข่าวกรอง ตลอดจนการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเตอร์เนต (Online Scams) อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้รับความสนใจจาก 39 ประเทศทั่วโลก
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า กิจกรรมในวันแรกประกอบด้วยการประชุมระดับสูง (High-level Segment) ในช่วงเช้า โดยมีผู้แทนระดับรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตจากประเทศต่างๆ ร่วมกล่าวถ้อยแถลงแสดงเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นทางการเมืองต่อการต่อต้านอาชญากรรมออนไลน์ในช่วงบ่ายจะมีการอภิปรายเชิงลึกในระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสและผู้เชี่ยวชาญโดยมุ่งเน้นประเด็นสำคัญ อาทิ การยกระดับการสืบสวนสอบสวนต่อกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ การตัดช่องทางการเงินของเครือข่ายอาชญากรรม และการติดตามรู้เท่าทันเทคโนโลยีชั้นสูงที่กลุ่มอาชญากรรมนำมาใช้
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า สำหรับในวันที่สอง (18 ธันวาคม 2568) ที่ประชุมมีกำหนดจะรับรองเอกสารผลลัพธ์ที่สำคัญ คือ “ถ้อยแถลงร่วม (Joint Statement)” ซึ่งจะสะท้อนถึงความมุ่งมั่นทางการเมืองร่วมกันของประเทศภาคีในการสนับสนุนความเป็นหุ้นส่วนระดับโลกเพื่อต่อต้าน Online Scams อย่างยั่งยืน พร้อมทั้งมีการสรุปผลการอภิปรายในแต่ละหัวข้อ ประเทศที่ร่วมลงนามในถ้อยแถลงร่วมและเข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนในกลไกนี้ จะมีโอกาสพิจารณาเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระหว่างประเทศครั้งต่อไป รวมทั้งสามารถนำเสนอข้อริเริ่มและสนับสนุนกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในการจัดการปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ในอนาคต
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวางจากนานาชาติ โดยมีผู้แทนระดับสูงจากหลายประเทศเข้าร่วม อาทิ นายวินเซนต์ บิรูตา (Hon. Vincent Biruta) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของรวันดา พลตรี ออง จอ จอ (H.E. Major General Aung Kyaw Kyaw) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยของเมียนมา นายอาร์มานาธา คริสเตียวัน นาเซร์ (H.E. Mr. Arrmanatha Christiawan Nasir) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอินโดนีเซีย นายเล อานห์ ตวน (H.E. Mr. Le Anh Tuan) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเวียดนาม
นายสิริพงศ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีผู้แทนระดับปลัดกระทรวงจากประเทศสำคัญ เช่น อินเดีย จีน และเซาท์ซูดาน ตลอดจนเอกอัครราชทูตจากทุกภูมิภาคทั่วโลก อาทิ โมร็อกโก สเปน นิวซีแลนด์ เปรู ไอร์แลนด์ เช็ก ลักเซมเบิร์ก นอร์เวย์ อิตาลี คิวบา สวีเดน เยอรมนี แคนาดา โรมาเนีย อียิปต์ เนปาล อิหร่าน เดนมาร์ก บังกลาเทศ ฟินแลนด์ อาเซอร์ไบจาน สโลวาเกีย เบลเยียม คาซัคสถาน เอสโตเนีย เป็นต้น รวมถึงผู้แทนจากสหภาพยุโรป และผู้แทนระดับอธิบดีจากออสเตรเลีย โปแลนด์ ฟิลิปปินส์ และเกาหลีใต้ โดยรวมมีประเทศที่เข้าร่วมทั้งสิ้น 39 ประเทศ และ 1 องค์การระหว่างประเทศ
“การประชุมครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการตอบรับและการให้ความสำคัญของประชาคมโลกต่อเวทีความร่วมมือที่ประเทศไทย โดยการริเริ่มของนายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าภาพจัดขึ้น เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาอาชญากรรม Online Scams อย่างจริงจังและเป็นรูปธรรมในระดับโลก ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศที่แข็งแกร่งในการปกป้องประชาชนจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ทั่วโลกต่างได้รับผลกระทบ” นายสิริพงศ์ กล่าว
ด้านสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตอกย้ำบทบาท “ด่านหน้าแห่งความมั่นคง” สกัดอาชญากรข้ามชาติรายสำคัญ หลังจับกุม ผู้ต้องหาหมายแดง INTERPOL ตัวการแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ หลอกลงทุนเหยื่อชาวจีนกว่า 500 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านหยวน หรือกว่า 1,000 ล้านบาท ขณะพยายามหลบหนีออกนอกราชอาณาจักรผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
การจับกุมครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเย็นวันที่ 16 ธันวาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นำโดยพ.ต.อ.พงศ์ธร พงศ์รัชตนันทน์ รอง ผบก.ตม.2 จับกุม นายหวง (Mr. HUANG) สัญชาติจีน อายุ 44 ปี ขณะกำลังเดินทางออกนอกประเทศ โดยพบว่าแสดงตนด้วยหนังสือเดินทางเม็กซิโกปลอม ใช้ชื่อว่า Mr. GOL GOO จากการตรวจค้น พบหนังสือเดินทางจีนฉบับจริงซุกซ่อนอยู่ในความครอบครองเปลี่ยนสัญชาติ-เปลี่ยนชื่อ เพื่อหนีหมายแดง INTERPOLการตรวจสอบเชิงลึกพบว่า นายหวง ถือวีซ่า Thailand Privilege Card ซึ่งยังไม่หมดอายุและสามารถพำนักในประเทศไทยได้อีกหลายปี แต่กลับเลือกใช้หนังสือเดินทางปลอม ทั้งที่การกระทำดังกล่าวทำให้สิทธิการพำนักลดลง ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติ
เมื่อตรวจสอบฐานข้อมูล พบว่า ชื่อในหนังสือเดินทางจีนของนายหวง มีหมายแดง (Red Notice) ขององค์การตำรวจสากล (INTERPOL) พ.ต.อ.พงศ์ธร จึงประสานตำรวจประจำสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ก่อนยืนยันชัดเจนว่า นายหวง คือผู้ต้องหาตัวการสำคัญของเครือข่ายสแกมเมอร์ที่ทางการจีนต้องการตัว
จากการสืบสวนพบว่า นายหวง หลบหนีออกจากประเทศจีนตั้งแต่ปี พ.ศ.2563 ผ่านช่องทางธรรมชาติในมณฑลยูนนาน เข้าสู่ประเทศเมียนมา ต่อมาในช่วงปี พ.ศ.2565–2567 ได้ร่วมกับเครือข่ายอาชญากรตั้งฐานปฏิบัติการแก๊งสแกมเมอร์ในพื้นที่ New Taichang Park บริเวณพื้นที่ Kyaukhat เมืองเมียวดี ฝั่งตรงข้ามบ้านห้วยแล้ง อำเภอพบพระ จังหวัดตาก
พฤติการณ์ของแก๊งดังกล่าว คือการสร้างแพลตฟอร์มลงทุนเงินตราปลอม ใช้โซเชียลมีเดียล่อลวงเหยื่อ โดยสวมบท “นักธุรกิจโสด ฐานะดี” สร้างความไว้ใจ ให้ผลตอบแทนสูงในช่วงแรก ก่อนปิดระบบ–เชิดเงิน–ตัดการติดต่อ ทำให้เหยื่อชาวจีนกว่า 500 รายสูญเงินจำนวนมหาศาล
เบื้องต้น ตม.สนามบิน ได้แจ้งข้อกล่าวหา“ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ซึ่งหนังสือเดินทางปลอม”พร้อมนำตัวผู้ต้องหาและของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน บก.ตม.3 ดำเนินคดีตามกฎหมายไทยก่อนประสานความร่วมมือกับทางการจีน เพื่อดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมระหว่างประเทศต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.คธาธร คำเที่ยง ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสนามบินมีบทบาทสำคัญในฐานะ “ด่านหน้าแห่งความมั่นคงของประเทศ” โดยปัจจุบันได้เพิ่มมาตรการคัดกรองบุคคลอย่างรอบด้าน ครอบคลุมตั้งแต่ภัยสแกมเมอร์ อาชญากรรมข้ามชาติ การก่อการร้าย ไปจนถึงภัยคุกคามรูปแบบใหม่
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ฐานข้อมูลสากล และความร่วมมือทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการทำงานด้านความมั่นคง ให้มีมาตรฐานทัดเทียมหน่วยงานความมั่นคงระดับนานาชาติ และสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนและนักเดินทางทั่วโลก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี