สพฐ.จับมือ พว.ลุยโคราช สร้างมาตรฐานการศึกษาไทย

สพฐ.จับมือ พว.ลุยโคราช สร้างมาตรฐานการศึกษาไทย

วันพุธ ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 19.31 น.

ทิศทางใหม่ของการศึกษาไทยเริ่มชัดเจนมากขึ้น เมื่อเวทีสัมมนาวิชาการระดับชาติว่าด้วย “การสร้างนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ GPAS 5 Steps” จัดขึ้น ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ศูนย์หนองระเวียง จังหวัดนครราชสีมา ท่ามกลางผู้บริหาร ครู และนักเรียนจากโรงเรียนต้นแบบในภาคอีสานตอนล่างกว่า 1,151 คน บรรยากาศสะท้อนความตั้งใจร่วมกันของทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนการเรียนรู้เชิงรุกสู่ห้องเรียนจริงทั่วประเทศ

ในพิธีเปิดงานสัมมนา ดร.พิเชฐ โพธิ์ภักดี เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวย้ำทิศทางสำคัญของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า การขับเคลื่อนการศึกษาไทยในวันนี้ ต้อง “ยกระดับวิธีการเรียนรู้ทั้งระบบ” โดย ชูธง Active Learning ด้วยกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ GPAS 5 Steps เป็นหัวใจของการพัฒนาหลักสูตรและห้องเรียนไทยยุคใหม่


ดร.พิเชฐ ระบุว่า สพฐ.กำลังชู Active Learning ด้วยกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ GPAS 5 Steps ให้ “ผงาดขึ้นเป็นมาตรฐานการศึกษาคุณภาพสูงสุดด้านการพัฒนาคน” ของประเทศ  เพราะเป็นแนวทางที่ทำให้เด็กได้ “ลงมือทำ คิดเป็น และสื่อสารเป็น” อย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงท่องจำ แต่เชื่อมโยงความรู้กับชีวิตจริง ผ่านกระบวนการคิดเป็นลำดับขั้น จนเกิดทักษะสำคัญในศตวรรษที่ 21

“เมื่อเด็กได้ลงมือทำ เขาจะอธิบายสิ่งที่เรียนรู้ได้ด้วยความภูมิใจ นั่นคือคุณภาพการศึกษาในความหมายที่แท้จริง”

เลขาธิการ สพฐ. ยังย้ำว่า เทคโนโลยีและ AI จะทำหน้าที่เป็น “ผู้ช่วยครู” ไม่ใช่ “ผู้แทนครู” โดยช่วยให้ครูออกแบบสื่อ กระบวนการเรียนรู้ และการประเมินที่เหมาะสมกับเด็กแต่ละคนได้แม่นยำขึ้น บนฐานของแนวคิด Active Learning ด้วยกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ GPAS 5 Steps

พร้อมทั้งชื่นชมผลงานนวัตกรรมของนักเรียนในพื้นที่อีสานกว่า 700 ชิ้นว่า เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า “การปฏิรูปที่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง” ได้เกิดขึ้นจริงแล้วในห้องเรียนไทย และสะท้อนให้เห็นว่า เมื่อครูปรับบทบาทเป็นผู้ออกแบบการเรียนรู้ เด็กไทยก็สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมได้ไม่แพ้ชาติใดในโลก

ด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.คณิศรา ธัญสุนทรสกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ได้กล่าวรายงานและสะท้อนบทบาทของมหาวิทยาลัยราชภัฏในฐานะ “สถาบันท้องถิ่นผู้ผลิตและพัฒนาครู”

ดร.คณิศรา ระบุว่า มหาวิทยาลัยพร้อมเป็นฐานพลังทางปัญญาในการช่วยครูออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก ส่งเสริมทักษะการคิดขั้นสูง การสืบค้นองค์ความรู้ และการสร้างนวัตกรรมของผู้เรียน

ดร.คณิศรา ยังชี้ว่า Active learning  GPAS 5 Steps ไม่ได้ใช้ได้เฉพาะโรงเรียนระดับพื้นฐาน แต่ยังต่อยอดสู่การพัฒนานักศึกษาระดับอุดมศึกษาให้มีทักษะคิดวิเคราะห์และคิดเชิงระบบมากขึ้น พร้อมเดินหน้าร่วมกับ สพฐ. เพื่อขยายผลในปี 2569 อย่างเข้มข้น

ภายในงาน มีการจัดแสดงผลงานนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ของครูและผลงานนักเรียนกว่า 700 รายการ ถือเป็น “หลักฐานเชิงประจักษ์” ของการขับเคลื่อนสู่การเรียนรู้ฐานสมรรถนะในพื้นที่ทั่วภาคอีสานตอนล่างกิจกรรมดังกล่าวยังสอดคล้องกับแผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา ซึ่งเน้นการพัฒนาผู้เรียนให้มีสมรรถนะที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของศตวรรษที่ 21

พร้อมกันนั้นยังมีการมอบรางวัล Excellence in Coaching & Mentoring Awards แก่ศึกษานิเทศก์ ครู และนักเรียนผู้สร้างสรรค์ เพื่อเชิดชูบุคคลผู้เป็นหัวใจของการเปลี่ยนแปลงในห้องเรียนจริง

มุมมองชัดจากภาคนิทรรศการ: Active learning GPAS 5 Steps → นวัตกรรม → สมรรถนะลึก ผ่านทฤษฎีเกลียวเชือก 4 เส้น

ในงานนิทรรศการนวัตกรรมของเขตพื้นที่การศึกษาภาคอีสาน ดร.ศักดิ์สิน โรจสราญรมย์ ประธานประธานกรรมการบริหารสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว. )  ได้อธิบายอย่างชัดเจนว่า การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ  Gpas 5 steps คือ “หัวใจของหลักสูตรใหม่” ที่พัฒนาผู้เรียนบนฐานทฤษฎีเชิงลึกอย่าง ทฤษฎีเกลียวเชือก 4 เส้น ซึ่งครอบคลุมองค์ประกอบสำคัญของการสร้างสมรรถนะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21

สำหรับ ทฤษฎีเกลียวเชือก 4 เส้น ประกอบด้วย   1. เกลียวความรู้ (Knowledge)  2. เกลียวคุณธรรม–ค่านิยม (Value & Morality)  3. เกลียวทักษะและกระบวนการ (Skill & Process) 4. เกลียวการประเมินสภาพจริงด้วยมิติคุณภาพ (Rubric–based Authentic Assessment)

ดร.ศักดิ์สิน อธิบายว่า Active learning GPAS 5 Steps ทำหน้าที่ “ถักเกลียวทั้ง 4 เส้นเข้าด้วยกัน” อย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะเมื่อแยกมองตามขั้นตอนดังนี้

กระบวนการ GPAS  G – Gathering : การรวบรวมข้อมูล ความรู้ และบริบทอย่างเป็นระบบ เชื่อมโยงเกลียวความรู้   P – Processing : การคิดวิเคราะห์และสังเคราะห์ เชื่อมเกลียวทักษะ–กระบวนการ A – Applying : การลงมือปฏิบัติจริง พัฒนาทักษะชีวิตและการทำงานร่วมกับผู้อื่น  S – Self-Regulation : การประเมินตนเองและปรับปรุงงาน เชื่อมเกลียวด้านรูบริกและคุณธรรม–ค่านิยม เช่น ความรับผิดชอบ ความซื่อสัตย์ ความพากเพียร

“GPAS 5 Steps คือเครื่องมือที่รวมความรู้ ทักษะ คุณธรรม และการประเมินจริงไว้ในกิจกรรมเดียว เด็กไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังทำวิจัย แต่เขากลับสร้างนวัตกรรมได้จริง”

ดร.ศักดิ์สิน กล่าวด้วยว่า ผลลัพธ์ที่เห็นชัด คือ เด็กอนุบาลสร้างชิ้นงานที่จับต้องได้  เด็กประถม–มัธยมต้น ถ่ายทอดความคิดเป็นระบบ  เด็กมัธยมปลายสร้าง งานวิจัย–นวัตกรรม ที่มีความลึกและสภาวธรรมทางปัญญาชัดเจน

ดร.ศักดิ์สินยังเปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยหลายแห่งเริ่มปรับหลักสูตรให้รองรับผู้เรียนรุ่นใหม่ เพราะนักเรียนที่ผ่าน Active learning  GPAS 5 Steps มีสมรรถนะเชิงวิจัยตั้งแต่ปี 1 เป็นจำนวนมาก จากการฝึกคิด วิเคราะห์ ทดลอง และประเมินตนเองมาต่อเนื่องตั้งแต่ระดับโรงเรียน

ที่สำคัญ นโยบายใหม่ที่เปิดโอกาสให้ ผลงานนวัตกรรมของนักเรียนใช้ประกอบการประเมินวิทยฐานะครู คือหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนว่า ระบบพัฒนาครู–พัฒนาเด็กถูกเชื่อมโยงเข้าหากันอย่างสมบูรณ์เป็นครั้งแรก

ขณะเดียวกัน มีเสียงสะท้อนจากครูผู้ได้รับรางวัล Excellence in Coaching & Mentoring Awards ครูหลายท่านที่ได้รับรางวัลได้สะท้อนร่วมกันว่า  “การเปลี่ยนห้องเรียนไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นเรื่องที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง” ครูผู้ได้รับรางวัลกล่าวว่า GPAS 5 Steps ช่วยให้ครูเห็นศักยภาพที่แท้จริงของเด็กแต่ละคน Active Learning ทำให้เด็กกล้าแสดงความคิดเห็น และเรียนรู้ด้วยความหมายของตนเอง

ครูคนหนึ่งกล่าวอย่างน่าประทับใจว่า> “รางวัลนี้ไม่ใช่รางวัลของครูคนเดียว แต่เป็นรางวัลของเด็กทั้งห้อง เพราะนวัตกรรมของเด็กคือหลักฐานว่าห้องเรียนเรากำลังเปลี่ยนไปจริง ๆ” และครูอีกท่านกล่าวว่า > “GPAS 5 Steps ไม่ได้เปลี่ยนเด็กอย่างเดียว แต่เปลี่ยนครูด้วย ทำให้ครูกลายเป็น ‘โค้ช’ มากกว่าผู้สอน”

เสียงสะท้อนเหล่านี้ทำให้เห็นว่า การปฏิรูปห้องเรียนไทยกำลังเกิดขึ้นเพราะครูลงมือเปลี่ยน และเด็กตอบสนองด้วยพลังแห่งการสร้างสรรค์

สำหรับบทสรุปหนนี้ เมื่อระบบคิดใหม่เชื่อมทุกมิติ การปฏิรูปการศึกษาจึงเริ่มต้นขึ้นจริง เวทีสัมมนาวิชาการครั้งนี้ทำให้เห็นภาพเดียวกันว่า นโยบายของ ดร.พิเชฐ ให้ direction ที่ชัดเจน บทบาทของ ดร.คณิศรา สร้างฐานพลังปัญญาให้ครู  มวลพลังจากครูและนักเรียน สร้างนวัตกรรมกว่า 700 ชิ้น มุมมองลึกของ ดร.ศักดิ์สิน เชื่อม Active Learning + GPAS 5 Steps → ทฤษฎีเกลียวเชือก 4 เส้น ซึ่งทั้งหมดนี้กำลังทำให้ "ห้องเรียนไทยสร้างสมรรถนะลึกได้จริง" และ "ปฏิรูปการศึกษาอย่างจับต้องได้ในพื้นที่ทั่วประเทศ"

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top