วันจันทร์ ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2568
รองผบ.ตร.เปิดปฏิบัติการ “Operation Bad Guys Out” ปูพรมตรวจค้นทั่วไทย กวาดล้างคนต่างด้าวกระทำผิดก.ม. ยกระดับการรักษาความสงบเรียบร้อย และความมั่นคง ยันดำเนินการต่อเนื่องทุกเดือน
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศปชก.ตร.) รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ผบ.ตร.ให้ยกระดับมาตรการเชิงป้องกันในการรักษาความปลอดภัยพื้นที่ส่วนหลัง เพื่อป้องกันและสกัดกั้นภัยคุกคามที่อาจส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อย และความมั่นคงของประเทศ โดย รอง ผบ.ตร.ได้เดินทางไปยังศูนย์ปฏิบัติการ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ประชุมร่วมกับ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญลักษณ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.), พล.ต.ต.พันธนะ นุชนาถ รอง ผบช.สตม.และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ก่อนสั่งการเปิดปฏิบัติการ “Operation Bad Guys Out” ปูพรมตรวจค้นทั่วไทย กวาดล้างคนต่างด้าวกระทำผิดกฎหมายพร้อมกันทั่วประเทศ นับตั้งแต่เวลา 06.00 น.ต่อเนื่องกัน ปฏิบัติการระดมกวาดล้างคนต่างด้าวกระทำผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ จากปฏิบัติการปูพรมทั่วไทย ได้ปิดล้อมเป้าหมายคนต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการกระทำผิดอื่นๆ และการกระทำผิดในลักษณะอาชญากรรมข้ามชาติ หรือก่อความเดือดร้อนรำคาญที่กระทบความมั่นคงของประเทศ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย และสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยมีผลการปิดล้อม วันที่ 20 ธันวาคม 2568 ตรวจค้น 161 เป้าหมาย จับกุมผู้ต้องหา 870 คน ส่วนใหญ่เป็นความผิดลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย 242 คน และวันที่ 1-20 ธันวาคม 2568 รวมตรวจค้น 13,394 เป้าหมาย จับกุมผู้ต้องหา 13,073 คน ส่วนใหญ่เป็นความผิดความผิดปฏิเสธคนเข้าเมือง 6,500 คดี
พล.ต.อ.สำราญ กล่าวว่า จากสถานการณ์ด้านความมั่นคงในปัจจุบัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ยกระดับมาตรการเชิงป้องกันในการรักษาความปลอดภัยพื้นที่ส่วนหลัง เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยของประเทศและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน โดยให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายและการตรวจสอบบุคคลต่างด้าวอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมตั้งแต่การเดินทางเข้าประเทศ การพำนักภายในประเทศ จนถึงการดำเนินการตามกฎหมายในกรณีเข้าข่ายกระทบต่อความมั่นคงหรือความสงบเรียบร้อย
สำหรับมิติของการเดินทางเข้าประเทศ ได้เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบและคัดกรองบุคคลต่างด้าวทั้งทางสนามบินนานาชาติ ด่านตรวจคนเข้าเมืองทางบก ทางน้ำ และแนวชายแดน รวมถึงการเฝ้าระวังและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองผ่านช่องทางธรรมชาติ โดยใช้การข่าว การประเมินความเสี่ยง และฐานข้อมูลด้านความมั่นคงเป็นเครื่องมือหลัก เพื่อป้องกันบุคคลเข้าข่ายความเสี่ยงตั้งแต่ต้นทาง
อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ปัจจุบัน มีการสั่งการชัดเจนจากสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และ ผบ.ตร.กรณีชาวกัมพูชาเดินทางเข้าราชอาณาจักรไทย ผ่านทางสนามบิน ให้ปฏิเสธการเข้าเมืองทุกราย ยกเว้นมีเหตุผลความจำเป็นด้านมนุษยธรรม มีเหตุผลในการประชุมที่เกี่ยวกับภาครัฐ หรือมีครอบครัวเป็นคนไทย
ส่วนการพำนักภายในประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตรวจสอบเชิงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการตรวจสอบความถูกต้องตามกฎหมายของการพำนัก การใช้สิทธิการอนุญาตให้อยู่ในประเทศให้สอดคล้องกับประเภทวีซ่าและวัตถุประสงค์ที่ได้รับอนุญาต ทั้งในกลุ่มแรงงานต่างด้าว นักท่องเที่ยว นักเรียน นักศึกษา และผู้ถือวีซ่าประเภทต่างๆ หากพบการอยู่เกินกำหนด ใช้สิทธิผิดประเภท หรือฝ่าฝืนเงื่อนไขการอนุญาต จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
กรณีบุคคลต่างด้าวที่พำนักหรือเข้ามาอยู่ในประเทศไทยแล้วมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ฝ่าฝืนกฎหมาย มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรม หรือการกระทำที่อาจกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด รวมถึงการเพิกถอนสิทธิการพำนัก การผลักดันส่งกลับ และการขึ้นบัญชีเฝ้าระวังตามกรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
สำหรับการดำเนินมาตรการทั้งหมดเป็นการบังคับใช้กฎหมายเชิงป้องกัน ภายใต้หลักนิติธรรม ความจำเป็น และได้สัดส่วน โดยคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน และไม่มุ่งให้กระทบต่อคนต่างด้าวที่พำนักและดำเนินชีวิตในประเทศไทยโดยสุจริตและถูกต้องตามกฎหมาย
สำนักงานตำรวจแห่งชาติยืนยันความพร้อมในการทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง ฝ่ายปกครอง และความร่วมมือจากภาคประชาชน เพื่อดูแลความปลอดภัยของประเทศอย่างรอบด้าน และขอความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งข้อมูลหรือเบาะแสที่เป็นประโยชน์ เพื่อร่วมกันรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ และ ศปชก.ตร.จะมีมาตรการในการดำเนินปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายเช่นนี้ในทุกเดือนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย และความมั่นคงของประเทศต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี