ไทยย้ำจุดยืนหยุดยิง ไม่กระทบอธิปไตย ตรึงกำลังเฝ้าระวัง 24 ชม.

ไทยย้ำจุดยืนหยุดยิง ไม่กระทบอธิปไตย ตรึงกำลังเฝ้าระวัง 24 ชม.

วันจันทร์ ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 11.08 น.

ไทยย้ำจุดยืนหยุดยิง ไม่กระทบอธิปไตย ตรึงกำลังเฝ้าระวัง 24 ชม. ชี้ ใช้กลไกหลักสากล without prejudice ในการเดินกลไก JBC ต่อตรวจสอบ

29 ธ.ค.68 พล.อ.อ.ประภาส สอนใจดี ผู้อำนวยการศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา แถลงย้ำจุดยืนของประเทศไทยต่อมาตรการหยุดยิง ท่ามกลางการเผยแพร่ถ้อยแถลงและข้อความจากฝ่ายกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าการดำเนินการของรัฐบาลและกองทัพไทยยึดหลักความรับผิดชอบ ความรอบคอบ และมาตรฐานสากลเป็นสำคัญ


พล.อ.อ.ประภาส ระบุว่า เป้าหมายสูงสุดของประเทศไทยคือการคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน การปกป้องอธิปไตยของชาติ และการลดความสูญเสียของทุกฝ่าย พร้อมยืนยันว่าประเทศไทยได้เข้าร่วมมาตรการหยุดยิงทันที ณ จุดที่ตั้ง มีผลตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2568 เพื่อคลี่คลายความตึงเครียดในพื้นที่ชายแดน

อย่างไรก็ตาม การหยุดยิงดังกล่าวไม่กระทบต่อสิทธิ อธิปไตย หรือจุดยืนของประเทศไทยในประเด็นเขตแดน และไม่ถือเป็นการยอมรับการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงใด ๆ ในพื้นที่ โดยรัฐบาลและกองทัพไทยยังคงตรึงกำลัง เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมดำเนินการตามกรอบกฎหมายระหว่างประเทศและกลไกที่ตกลงร่วมกัน หากมีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงหรือการกระทำที่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ

ผอ.ศูนย์แถลงข่าวร่วมฯ ย้ำว่า ประเทศไทยยึดข้อเท็จจริง หลักฐาน และกลไกตรวจสอบที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลเป็นฐานในการดำเนินการ และสนับสนุนบทบาทของกลไกที่ตกลงร่วมกัน เพื่อให้การหยุดยิงเป็นไปด้วยความสุจริต โปร่งใส และนำไปสู่การลดความตึงเครียดอย่างแท้จริง

พร้อมกันนี้ ศูนย์แถลงข่าวร่วมฯ ขอขอบคุณประชาชนชาวไทยที่ติดตามสถานการณ์ด้วยความห่วงใยและมีวุฒิภาวะ โดยยืนยันว่าประเทศไทยจะสื่อสารข้อมูลอย่างรอบคอบ ต่อเนื่อง และตรงไปตรงมา เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ควบคู่กับการรักษาความเชื่อมั่นของประเทศในเวทีระหว่างประเทศ และการดูแลความมั่นคงของชาติ

ประเทศไทยยืนยันว่า การเจรจา การหยุดยิง และการป้องกันประเทศ จะดำเนินควบคู่กันอย่างสมดุล เพื่อมุ่งสู่สันติภาพที่ยั่งยืน โดยไม่ลดทอนศักดิ์ศรีและอธิปไตยของชาติ

ทั้งนี้ ผอ.ศูนย์แถลงข่าวร่วมฯ ได้ชี้แจงกรณีถ้อยแถลงของผู้นำกัมพูชา เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดของประชาชน โดย ระบุว่า กรณีที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวอ้างว่าถูกรุกราน จะไม่ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบด้านภาพลักษณ์แต่อย่างใด เนื่องจากประเทศไทยไม่แข่งขันด้วยถ้อยคำหรือการกล่าวหา แต่ยึดข้อเท็จจริง หลักฐาน และกลไกตรวจสอบที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล รวมถึงเอกสารร่วมและกรอบความร่วมมือที่มีอยู่ เป็นฐานในการดำเนินการ

สำหรับกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาย้ำว่าการหยุดยิงไม่กระทบต่อเส้นเขตแดน พล.อ.อ.ประภาส ระบุว่า ประเทศไทยยึดหลักเดียวกัน คือ without prejudice โดยการหยุดยิงไม่กระทบต่อสิทธิ อธิปไตย หรือจุดยืนของประเทศไทยในประเด็นเขตแดน และให้กลไกทางเทคนิคที่ตกลงร่วมกัน เช่น คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ยอมให้การหยุดยิงถูกใช้เป็นเครื่องมือในการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงในพื้นที่

ขณะเดียวกัน พล.อ.อ.ประภาส ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากเอกสารทางการของรัฐ และรายงานจากแหล่งที่สามารถตรวจสอบได้เป็นหลัก เพื่อป้องกันความสับสน ความเข้าใจคลาดเคลื่อน และการบิดเบือนข้อมูลในสถานการณ์ปัจจุบัน

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top