ความสุขของคนในชุมชน เป็นสิ่งที่มีอยู่กับคนในชุมชนนั่นเอง ดังนั้น หากทุกคนดูแลตัวเองได้ดี ร่างกายแข็งแรง และมีสุขภาวะที่ดี ก็ย่อมเป็นฐานที่สำคัญในการพัฒนา ให้ชุมชนมีแต่ความสุข และความสมบูรณ์ อย่างยั่งยืนตลอดไป
เมื่อไม่นานที่ผ่านมานี้ ได้มีการจัดเวทีสุดยอดผู้นำชุมชนท้องถิ่น วาระ :ลดปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ เพิ่มปัจจัยเสริมสุขภาวะ เครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ “จัดโดยสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ด้วยเป้าหมายที่เล็งเห็นความสำคัญของบทบาทการเป็นผู้นำชุมชน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาในสุขภาวะ ตั้งแต่ชุมชนระดับฐานรากจนถึงระดับประเทศ โดยคาดหวังว่า ผู้นำชุมชนที่เข้าร่วมในครั้งนี้ จะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง พัฒนาชุมชน และขยายผลไปยังชุมชนอื่นๆ ให้เกิดผลสำเร็จในการพัฒนาเช่นเดียวกับชุมชนเครือข่าย
นางสาวดวงพร เฮงบุณยพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (สำนัก3) สสส. กล่าวว่า เวทีสุดยอดผู้นำชุมชนท้องถิ่นครั้งนี้ ได้กำหนดเป้าหมายเพื่อขยายแนวคิด แนวทางการดำเนินงานและวิธีการเชิงเทคนิค ผ่านสุดยอดผู้นำชุมชนท้องถิ่น เข้าสู่วาระของทุกชุมชนท้องถิ่นทุกกลุ่มทางสังคมในระดับท้องถิ่น และเชื่อมโยงกับการขับเคลื่อนทุกระดับ โดยในครั้งนี้มีผู้นำชุมชนท้องถิ่นจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและคณะกรรมการพัฒนาตำบล จำนวน 789 แห่ง เข้าร่วมเวที ซึ่งทุกท่านในที่นี้คือผู้นำชุมชนท้องถิ่น และเป็นกำลังสำคัญที่จะร่วมกับผู้นำชุมชนท้องถิ่นในพื้นที่และเครือข่ายพัฒนาชุมชนต่อไป
คุณบุญธรรม เลิศสุขีเกษม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การที่ชุมชนสามารถพึ่งตัวเองได้ คือเป้าหมายสำคัญที่ ทาง สสส. และภาคีตั้งเป้าไว้ ด้วยโครงสร้างในแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน จึงต้องอาศัยผู้นำในการดึงให้เกิดการมีส่วนร่วม สิ่งที่คาดหวังจากผู้นำชุมชนท้องถิ่นคือ จะได้ช่วยนำพี่น้องประชาชนให้ตระหนักรู้ ร่วมกันลงมือทำและแก้ไขปัญหา ซึ่งไม่อยากเห็นผู้นำทำทุกอย่างเพียงคนเดียว แต่นำคนอื่นให้ลุกขึ้นมาทำ และท้ายที่สุด อยากเห็นผู้นำชุมชนทุกท่านไปขยายผลต่อให้ครบทุกชุมชน
ในงานนี้ได้มีการประกาศ รายชื่อ สุดยอดชุมชนท้องถิ่น และสุดยอดผู้นำชุมชนท้องถิ่นให้เป็นที่ประจักษ์แก่สังคม โดยผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจะต้องมีคุณลักษณะ ดังนี้ 1.คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน 2.มีความตั้งใจ เอาใจใส่ และรับผิดชอบต่อหน้าที่ 3.มีความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ 4.มีคุณธรรม จริยธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ขัดต่อศีลธรรม ประเพณี กติกา ข้อตกลง 5.ได้รับการยอมรับนับถือจากสังคม 6.มีการเรียนรู้และพัฒนางานด้วยข้อมูลที่เป็นความจริง และมีการนำข้อมูลไปใช้ในการพัฒนางาน 7.มีความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ หาทางออกให้กับชุมชนท้องถิ่น โดยไม่หยุดนิ่ง 8.มีการสร้างผู้นำรุ่นใหม่ 9.สร้างและประสานเครือข่ายในหลากหลายลักษณะ 10.ทำงานร่วมกับทุกฝ่าย ทุกภาคส่วน
คุณสมพร ใช้บางยาง ประธานเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ กล่าวว่า ผู้ที่รับการคัดเลือกเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับจากสังคม ซึ่งได้เห็นพัฒนาการทั้งจากส่วนบุคคลและองค์กร นำมาซึ่งการมอบเกียรติบัตรสุดยอดชุมชนท้องถิ่น จำนวน 75 แห่ง และ สุดยอดผู้นำชุมชนท้องถิ่น จำนวน 140 คน ซึ่งถือเป็นปีแรกในการเชิดชูและให้กำลังใจผู้นำ ซึ่งผู้ที่ได้รับรางวัล แสดงว่าเป็นผู้ที่มีศักยภาพ และมีความมุ่งมั่นตั้งใจ รวมทั้งมั่นใจว่า ผู้ที่ได้รับรางวัลในปีนี้ จะนำพาท้องถิ่นให้เข้มแข็งและน่าอยู่ได้ในอนาคต
ว่าที่ร้อยตรี ดำรงศักดิ์ ขวัญชัย นายกเทศมนตรี ต.ป่ากอดำ อ.แม่ลาว จ.เชียงรายหนึ่งในผู้ที่ได้รับรางวัลสุดยอดผู้นำชุมชนท้องถิ่น กล่าวว่า ที่ได้รางวัลนี้เนื่องจากตัวองค์กรมีการทำงานเชื่อมโยงกับองค์กรอื่นๆ ในชุมชนพื้นที่ท้องถิ่น โดยขับเคลื่อน 4 เรื่องหลัก คือ การบริหารจัดการการลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อจะลดอุบัติเหตุบนท้องถนน การจัดการผู้สูงอายุ อย่างต่อเนื่องมา 8 ปี ถัดมาคือเรื่องจิตอาสามิตรภาพบำบัด และสุดท้ายคือ การจัดการด้านการศึกษา และการขับเคลื่อนในอนาคต
นางสาวนูรือมา ลายามุงผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคม อบต.บาละ อ.กาบัง จ.ยะลา ได้รับรางวัลสุดยอดผู้นำชุมชนท้องถิ่น ด้วยผลงานที่ได้พัฒนาและส่งเสริมสุขภาวะชุมชนด้วยระบบการจัดการที่เท่าเทียมกัน ทำให้ชุมชนมีการขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน เพราะชุมชนนี้เป็น ชุมชนพหุวัฒนธรรม ในพื้นที่มีหลายศาสนา จึงส่งเสริมด้านการจัดการและพัฒนาให้ชุมชนมั่นคง ด้วยการทำให้ชุมชนเป็นพื้นที่เปิด ในส่วนของผู้สูงอายุ ผู้พิการผู้ด้อยโอกาส พยายามดูแลให้เท่าเทียมกัน ช่วยเหลือส่งเสริมเรื่องสุขภาวะ ซึ่งตอนนี้ได้พัฒนาผู้สูงอายุให้เข้าระบบหมดแล้วผู้พิการก็พัฒนาจนเป็นโรงเรียนผู้พิการแล้วเช่นกัน และกำลังจะพัฒนาเยาวชนเพราะยังขาดการมีส่วนร่วมและการศึกษา
และในงานนี้ได้มีพิธีร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเครือข่ายสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 145 แห่ง ศูนย์จัดการเครือข่ายสุขภาวะชุมชน (ศจค.) และศูนย์ประสานงานเฉพาะประเด็น (ศปง.) พร้อมทั้งร่วมประกาศสัตยาบัน เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติร่วมกันอีกด้วย
วันนี้เราได้ผู้นำชุมชนท้องถิ่น อนาคตข้างหน้าไม่เพียงแต่มีผู้นำท้องถิ่นเท่านั้นแต่ยังหมายถึง ทุกคนในชุมชนต้องช่วยกัน เป็นกำลังสำคัญของชุมชน สร้างการมีส่วนร่วมในการที่จะพัฒนาและขับเคลื่อนให้เป็นชุมชนเข้มแข็งและน่าอยู่ เหนือสิ่งอื่นใดคือ การพัฒนาไปสู่ความยั่งยืน และเป็นชุมชนที่สามารถพึ่งพาตัวเองได้ตลอดไป
โดย ปานมณี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี