"บิ๊กตู่"สั่งปรับการทำงาน กระตุ้นส่วนราชการตรวจติดตามประเมินผล หากมีเรื่องร้องเรียนทุจริตต้องเข้าตรวจสอบ เผยใช้"พอดแคสต์"สื่อสารตรงประชาชนทุกสัปดาห์ เมินเล่น"คลับเฮ้าส์" ลั่นไม่ฟังคนผิดกฎหมายอยู่ต่างประเทศ บอกไม่ให้เครดิต สั่งจนท.มอนิเตอร์ หวั่นมีข้อมูลบิดเบือน
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า การทำงานในปัจจุบันเราได้มีการปรับปรุงวิธีการทำงานของรัฐบาล ของ ครม.และหน่วยงาน โดยให้มีการกำกับดูแลเพิ่มมากขึ้น นอกจากงานของตัวเองแล้วก็ต้องบูรณาการงานด้วย ในเรื่องงบประมาณ โครงการ และย้ำเรื่องการสื่อสารสองทาง การจัดทำโครงการทำจากบนลงล่าง ที่เรียกว่า top down และ top up รับฟังเสียงความต้องการประชาชน และปรับให้ตรงกัน โดยรัฐบาลทำโครงสร้างหลักบูรณาการกฎหมายต่างๆ ให้ดำเนินการได้ รัฐบาลยินดีรับฟังข้อมูลต่างๆ ทั้งหมด สิ่งสำคัญต้องกระตุ้นส่วนราชการให้มีการตรวจ ติดตาม ประเมินผล เรื่องใดก็ตามที่มีการร้องเรียนการทุจริตก็ต้องเข้าไปตรวจสอบ เพราะเราจัดงบประมาณจำนวนมากแต่ละปี ฉะนั้นทุกคนต้องมีความรับผิดชอบในแต่ละระดับ ไม่ว่าจะส่วนกลาง ภูมิภาค ท้องถิ่น และวันนี้ตนได้ให้ความสำคัญกับท้องถิ่นมาก เพราะเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับประชาชนโดยตรง และรัฐบาลต้องดูแลทุกภาคส่วน เป็นความรับผิดชอบโดยภาพรวมอยู่แล้ว
นายกฯ กล่าวด้วยว่า การใช้การประชาสัมพันธ์ที่ผ่านมามีหลายช่องทางด้วยกัน วันนี้นายกรัฐมนตรีพบช่องทางและจะใช้อีกช่องทางหนึ่งคือช่องทางผ่านพอดแคสต์ (PODCAST) ซึ่งจะออกในทุกๆ สัปดาห์ เพื่อให้ทุกคนได้ทราบถึงความก้าวหน้าในการทำงานของรัฐบาลในภาพรวม สิ่งที่แพร่ไปในระยะแรกนั้นเป็นสิ่งที่เราสามารถมองเห็นได้ ไม่ว่าจะเป็นถนน สะพาน ไฟฟ้า หรือการคมนาคมต่างๆ วันข้างหน้าจะเพิ่มเติมในเรื่องของน้ำ การดูแลผู้มีรายได้น้อย เรื่องของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สิ่งเหล่านี้กำลังสังเคราะห์ข้อมูลมา ซึ่งเราทำมานานแล้ว เพียงแต่ต้องสรุปผลงานที่เป็นรูปธรรมให้มากที่สุด เกิดข้อเปรียบเทียบในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งมีความก้าวหน้าในแต่ละปีไปตามลำดับ ครั้งที่แล้วเป็นการทำเพื่อนำข้อมูลเข้ามาในสภา ในการอภิปรายเท่านั้น ขอขอบคุณข้าราชการ ประชาชนทุกส่วน ที่ได้เข้าฟังและติดตาม ในส่วนที่เป็นประโยชน์รัฐบาลก็จะนำมาแก้ไขมาดำเนินการในทุกมิติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะพิจารณาหรือทดลองเล่นแอพพลิเคชัน "คลับเฮ้าส์" หรือไม่ เพราะจะได้เป็นอีกหนึ่งช่องทางเพิ่มการสื่อสาร หลัง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ได้เข้ามาเล่นเป็นครั้งแรก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่มีเวลาขนาดนั้น แต่ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตาม ซึ่งเป็นการติดตามตามกฎหมาย ในเมื่อทุกคนเข้าไปฟังได้ ก็ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปฟังได้ เพื่อที่จะได้ชี้แจงให้ถูกต้องกรณีที่มีการบิดเบือน เรื่องนี้สุดแล้วแต่ประชาชนว่าจะอย่างไร ใครจะเข้ามาพูดก็แล้วแต่ ตนถือว่าวันนี้เป็นเรื่องของโลกใบใหม่ โลกยุคใหม่
"เราต้องดูว่าเรื่องอะไรที่ทำให้บ้านเมืองเราสงบสุข มีเสถียรภาพ ไม่งั้นก็วุ่นวายไปหมด สับสนอลหม่านไปหมด ประชาชนก็เสียขวัญ ต้องนึกถึงประชาชนเขาบ้าง เขาจะเสียผลประโยชน์อย่างไรกับการกระทำที่ไม่ถูกต้องของท่าน นั่นคือสิทธิเสรีภาพของประชาชนโดยทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ ที่เป็นของปวงชนชาวไทย ไม่ใช่ของประชาชน ปวงชนคือคนทั้งหมดของประเทศ เป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์จากรัฐธรรมนูญฉบับนี้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าวระหว่างเดินกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ที่นายทักษิณพูดในคลับเฮ้าส์ เมื่อคืนวันที่ 22 ก.พ.มีการบิดเบือนหรือไม่ และนายทักษิณยังถามด้วยว่า ทำไมเวลาเอ่ยชื่อตนถึงต้องโมโห ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ผมไม่ได้ฟัง ต้องไปถามเขาดู คนผิดกฎหมายอยู่ต่างประเทศ ฉันจะฟังทำไมเล่า ชอบฟังนักนะ ไอ้คนผิดกฎหมายเนี่ย ทำลายกฎหมาย ให้เครดิตกันอยู่ได้" ทั้งนี้ ระหว่างเดิน พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้ชี้ไปยังต้นอโศกน้ำ เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามถามถึงเรื่องนายทักษิณอีก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "นี่แหละกระพี้ กระพี้ นี่เปลือกกระพี้นี่ไง"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี