“เขมร”หักหน้าทักษิณ

ขวางตั้ง“รบ.พลัดถิ่น”

ตบปากทนายขี้ข้า-ชี้ผิดรธน.

สื่อสิงค์โปร์ย้ำใกล้จนตรอก

“พม่า”ยันไม่ยุ่งการเมืองไทย

 เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม  หนังสือพิมพ์ พนมเปญโพสต์ ได้รายงานโดยอ้างถ้อยแถลง พาย สีพัน โฆษกรัฐบาลกัมพูชาว่าเป็นไปไม่ได้ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยจะมาขอตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นในประเทศ เนื่องจากเป็นการละเมิดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ชัดว่ากัมพูชาต้องวางตัวเป็นกลางและไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่แทรกแซงกิจการภายในของชาติอื่น ไม่ว่าจะทางตรง หรือทางอ้อม

                เขมรห้าม’แม้ว’ตั้งรบ.พลัดถิ่น

โฆษกรัฐบาลของกัมพูชา กล่าวย้ำว่า"ผมคิดว่าใครก็ตามที่คิดว่ากัมพูชาเป็นแหล่งจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นของทักษิณ นั่นเป็นไปไม่ได้ เพราะหนึ่งบทบัญญัติรัฐธรรมนูญของเรา สอง คือเรามีกลไกในระดับภูมิภาคและประชาคมระหว่างประเทศที่ครอบคลุมอยู่มาก"

คำแถลงมีขึ้น หลังจาก โรเบิร์ต อัมเตอร์ดัม ที่ปรึกษาทางกฎหมายของทักษิณให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างชาติว่า มีรัฐบาลหลายประเทศแสดงความเต็มใจที่จะให้ พ.ต.ท.ทักษิณเข้ามาตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นภายใต้กฎข้อบังคับของระหว่างประเทศ ส่งผลให้หลายฝ่ายจับตามองไปที่กัมพูชาเนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณมีความสนิทสนมกับนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา          

                ขณะที่ นาย เขียว กันหะฤทธิ์ รัฐมนตรีกระทรวงสารสนเทศของกัมพูชาระบุในเฟซบุ๊กส่วนตัวอย่างตรงไปตรงมาว่า"เราไม่อนุญาตให้ ทักษิณมาจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นบนแผ่นของเรา"

                ‘เด็กฮุนเซน’ยันขึ้นอยู่กับลูกพี่

 ด้านทางฝั่งของ เฉียน เยียบ สมาชิกสภาระดับสูงของพรรคประชาชนกัมพูชาซึ่งเป็นพรรครัฐบาล กล่าวว่า แม้รัฐธรรมนูญ จะไม่อนุญาตให้ทักษิณตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นได้ แต่ถ้าหาก นายฮุนเซน อนุญาต ก็สามารถทำได้ "แม้ว่ารัฐธรรมนูญจะห้ามประเทศอื่นมาใช้ดินแดนกัมพูชาจัดตั้งรัฐบาล หรือ กองกำลัง แต่ทุกอย่าง ก็ขึ้นอยู่กับ การประกาศของทักษิณโดยเฉพาะอย่างยิ่งมันเกี่ยวพันกับความพึงพอใจของ พ.ต.ท.ทักษิณ กับนายฮุนเซน หรือหัวหน้าพรรคของเรา"

พม่าลั่นไม่ยุ่งการเมืองไทย

                ในส่วนของปฏิกิริยาประเทศเพื่อนบ้าน ล่าสุดพบว่า เมียนม่าร์ซึ่งเป็นประธานหมุนเวียนของสมาคมอาเซียนได้ระบุว่าจะไม่วิพากษ์วิจารณ์ใดๆเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทย โดยยึดจุดยืนที่สอดคล้องกับคำแถลงร่วมเกี่ยวกับประเทศไทยในระหว่างการประชุมของผู้นำกลุ่มเมื่อวันที่11พ.ค.ปีนี้ โดยกลุ่มประเทศสมาชิกสมาคมอาเซียนต่างเฝ้าติดตามสถานการณ์ทางการเมืองในไทยอย่างใกล้ชิดนับตั้งแต่กองทัพทำรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อวันที่22 พ.ค.ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าสมาชิกในกลุ่ม ไม่สามารถตัดสินใจ ทำอะไรได้ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์เกี่ยวกับไทยหรือความตึงเครียดในทะเลจีนใต้

                สื่อชี้’แม้ว’เข้าสู่ทางตันมากขึ้น

                ด้านหนังสือพิมพ์สเตรทไทม์ส ของสิงคโปร์รายงานว่าในขณะที่พรรคเพื่อไทยและฐานอำนาจของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเกิดความระส่ำระสายและยิ่งในวันที่26 พ.ค.พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาได้ทำพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นหัวหน้า คสช. แล้ว ยิ่งทำให้ทางเลือกของ พ.ต.ท.ทักษิณ จำกัดจนแทบจะมองไม่เห็น   ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวเขา อดีตนายกรัฐมนตรีก็ถูกเรียกไปรายงานตัวและได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 25 พ.ค.นี้แต่ถูกห้ามออกนอกประเทศ