ล็อกคอมาเฟียเรียกส่วย

ทหารเชือดโชว์

สั่งคืนเงินจยย.รับจ้างทุกราย

เปิดเสรีกย./กลับลำใช้เสื้อส้ม

เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 7 กรกฎาคม ที่กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1.รอ.) โดยกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ร่วมกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย และคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ ให้กับเครือข่ายภาคประชาชน กลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ตามโครงการ “สื่ออย่างไร คุ้มครองคนไทยให้เป็นธรรม” โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นจักรยานยนต์รับจ้างในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ซึ่งอยู่ในความรับรับผิดชอบของ กองพลที่ 1 และสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างจำนวน 1,000 คัน โดยมี พล.ต.อภิรัตช์ คงสมพงษ์ ผบ.พล.1รอ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์  อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิ และเสรีภาพ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ในฐานะรักษาการผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูก็ต อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ร่วมกันชี้แจงให้ความรู้

                ย้ำเปิดวินจยย.เสรี-ไม่มีเก็บส่วย

                โดย พล.ต.อภิรัตช์ กล่าวว่า ในครั้งนี้ได้จัดสัมมนาและให้ความรู้กับทางผู้แทนวินมอเตอร์ไซค์ ในเขต กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยจะชี้แจงในเรื่องของการจัดระเบียบ ตามที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ให้แนวทางไว้ โดยมอบหมายให้ พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (ผบ.กกล.รส.) และ พล.1.รอ. เป็นผู้ดำเนินการจัดระเบียบวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ตั้งแต่เรื่องการยื่นทำใบอนุญาตขับขี่ให้ถูกต้อง การยื่นเรื่องใบอนุญาตขับขี่สาธารณะ รวมถึงระยะเวลาในการยื่น ซึ่งขอย้ำว่าต่อไปนี้วินมอเตอร์ไซค์จะเป็นการเปิดเสรี ไม่มีการซื้อขายเสื้อ และไม่มีการเก็บส่วยใดๆ ทั้งสิ้น

                ปิดยื่น9ก.ค.-ใช้สีส้มตามเดิม

                ทั้งนี้ ในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ เป็นวันสุดท้ายที่ผู้ขับขี่วินมอเตอร์ไซค์ต้องยื่นหลักฐานเอกสารให้ครบ หลังจากนั้นจะมีมาตรการเข้มงวดในการตรวจสอบ และการจัดอบรม ก่อนที่จะมีการแจกเสื้อวินฟรีทั้งหมด โดยให้กรมการขนส่งทางบกเป็นผู้ดำเนินการต่อไป ส่วนกรณีเสื้อวินมอเตอร์ไซค์นั้น ทางคณะกรรมการได้ลงความเห็นว่า จะใช้เสื้อสีส้มตามเดิม เพียงแต่จะมีการเปลี่ยนแบบบ้าง โดยด้านหลังเสื้อวินจักรยานยนต์ จะมีชื่อบอกบุคคลอย่างชัดเจน ส่วนแถบสะท้อนแสงจะมีชื่อวินมอเตอร์ไซค์และชื่อเขต ซึ่งภายในเดือนกันยายนนี้ จะเห็นผู้ขับขี่วินมอเตอร์ไซค์สวมเสื้อถูกระเบียบใหม่ทั้งหมด

                กำหนดหมายเลขประจำตัวผู้ขับขี่

                ด้าน นายอัฌษไธค์ กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินการแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ เพื่อให้การดำเนินการจดทะเบียนรถจักรยานยนต์เสร็จภายในเวลาที่กำหนด อาทิ การขยายระยะการยื่นอนุญาตขอใบขับขี่รถสาธารณะ  ซึ่งขณะนี้มีบางรายยังไม่มีใบอนุญาตขับขี่สามารถยื่นใบขับขี่ชั่วคราวส่วนบุคคลไปก่อน  พอหลังจาก ครบระยะเวลา 1 ปี 6 เดือน หากยังมีบุคคลใดไม่ยื่นขออนุญาตใบขับขี่สาธารณะรถจักรยานยนต์ จะถูกถอนสิทธิ์ทันที ทั้งนี้จะมีการกำหนดเลขหมายประจำตัวให้ผู้ขับขี่ ดังนั้นเสื้อวินที่ใส่เลขหมายประจำตัว และหมวกกันน็อคต้องตรงกันทั้งหมด โดยไม่อนุญาตให้จำหน่าย หรือถ่ายโอนให้กับผู้อื่นโดยเด็ดขาด

                ติดรูปถ่ายคนขับหลังเสื้อวิน

                พล.ต.ท. จักรทิพย์ ยืนยันว่าต่อไปนี้จะไม่มีการเรียกรับส่วย จึงอยากจะขอความร่วมมือจากทุกวิน ให้ช่วยกันรักษากฎการจราจร ส่วนเรื่องการป้องกันอาชญากรรม หลังจากนี้เสื้อวินทุกตัวที่ด้านหลังจะติดรูปถ่ายผู้ขับขี่ เพื่อให้ผู้โดยสารจดจำใบหน้าของผู้ขับขี่ได้ ทั้งนี้หากพบผู้มีอิทธิพลขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทุกเมื่อ

                คุมมาเฟียวินจยย.คืนเงินผู้เสียหาย‏

                เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 7 กรกฎาคม ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่สารวัตรทหารควบคุมตัว นายปรีดา หลีวิจิตร อายุ 52 ปี นายประสิทธิ์ สิงห์พริ้ง อายุ 55 ปี นายบุญหลา แซงรัมย์ อายุ 52 ปี นายวิชาติ พันรินทร์ อายุ 35 ปี นายสมศักดิ์ คุณทอง อายุ 53 ปี และนายณัฐพร พลอาจ อายุ 39 ปี รวม 6 คน ซึ่งมีพฤติการณ์เรียกเก็บค่าคุ้มครองและค่าเสื้อวินจักรยานยนต์รับจ้าง ที่บริเวณวินจักรยานยนต์รับจ้างตลาดนัมเบอร์วัน เขตประเวศ และที่วินจักรยานยนต์รับจ้างหน้า รร.นาซ่าเวกัส เขตสวนหลวง กทม.โดยกักตัวไว้ที่ห้องขัง บก.ป.ก่อนพิจารณาดำเนินคดี ว่า พ.ท.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ พล.ม.2 รอ.พร้อมกำลัง สห. ได้คุมตัวทั้งหมด ไปสอบปากคำเพิ่มเติม และให้นำเงินไปคืนกับผู้เสียหายทุกราย

                ผู้ค้าเร่หยุดขายล็อตเตอรี่

                สำหรับบรรยากาศในการจำหน่ายลอตเตอรี่ งวดประจำวันที่ 16 กรกฎาคม หลังจากที่ คสช. ประกาศควบคุมราคาขายไม่ให้เกินฉบับละ 80 บาท นั้น ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ผู้เดินเร่ขายล็อตเตอรี่ส่วนหนึ่งต้องหยุดพักการไปเดินเร่ขายล็อตเตอรี่ต่างจังหวัดเพราะราคาไม่แน่นอน เนื่องจากกลัวว่า หากขายเกิน 80 บาท จะถูกตำรวจจับ จึงหยุดพักเพื่อรอดูราคาการจัดระเบียบการจำหน่ายลอตเตอรี่ และรอดูว่างวดต่อไปเป็นแบบใด

                นางน้อย สีสะอาด อายุ 47 ปี ชาว ต.วังสะพุง จ.เลย เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพเร่ขายลอตเตอรี่ ปกติจะไปขายลอตเตอรี่ที่ อ.บางเลน จ.นครประฐม แต่งวดนี้ต้องหยุดพักเพราะเกรงจะขายไม่ได้ ราคาที่ชื้อก็แพง ไปขาย 80-90 ก็ไม่คุ้มกับค่าใช้จ่าย จึงพร้อมกันหยุดรอดูให้สถานการณ์ไปก่อน  

                ด้าน นายอดุลย์วิชญเดช ติยะบุตร ผู้ประสานงาน ศูนย์ประสานงานผู้เดินเร่ขายล็อตเตอรี่ จ.เลย เปิดเผยว่า ทางกลุ่มได้ประกาศและมาลงทะเบียนที่ หอประชุม อ.วังสะพุงวันที่ไปยื่นหนังสือ จำนวน 2,600 คน ล่าสุด ตัวเลขที่ลงทะเบียนจำนวน 4,662 คน จากนั้น ตนได้ตัวเลขที่ศูนย์ประสานงานผู้เดินเร่ขายลอตเตอรี่ไปมอบให้กับทาง คสช.เพื่อให้กำลังใจและสนับสนุนการจัดระเบียบการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลอย่างเต็มที่

                ชาวขอนแก่นแห่ซื้อสลาก80บาท

                ส่วนที่แผงขายสลากกินแบ่งราคาควบคุม ข้างศาลากลาง จ.ขอนแก่น นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ท.จตุรพงษ์ บกบน รอง กอ.รมน.ขอนแก่น ได้ตรวจและร่วมซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่เจ้าของแผงโควตามาร่วมวางแผงขาย โดยมีประชาชน ข้าราชการแห่ซื้อจำนวนมาก โดยนายกำธร กล่าวว่า ขอนแก่นมีผู้ประกอบการรับโควตากว่า 280 ราย จำนวนกว่า 3,000 ฉบับ โดยภาพรวมถือว่าได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่วนผู้รับโควตาถ้าไม่ปฏิบัติตาม ยังคงขายเกินราคา ก็จะต้องถูกยกเลิกโควตา

                จัดสรรสลากให้ผู้พิการเพิ่ม2ล้าน

                วันเดียวกัน เมื่อเวลา 13.30 น. ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการคัดเลือกจัดลำดับคนพิการ 96,936 คน ที่ได้แจ้งความประสงค์ เพื่อรับสลากฯไปจำหน่าย เป็นไปด้วยความคึกคัก โดยสำนักงานสลากฯได้ใช้วิธีการสุ่มด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์จัดสรรสลากฯให้กับผู้พิการจำนวน 2 ล้านฉบับ ราคาฉบับละ 40 บาท เพื่อจำหน่ายสลากงวดวันที่ 1 สิงหาคม 2557 เป็นต้นไป มีผู้ที่ได้รับการสุ่มและจัดสรรเพียง 3,340 รายเท่านั้น และผู้พิการที่ได้รับการสำรองอีก 2,506 ราย โดยผู้พิการที่ได้รับเลือกจะได้รับจัดสรรสลากฯ ไปจำหน่ายคนละ 6 เล่ม

                คาดช่วยสถานการณ์ค้าสลากฯดีขึ้น

                พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี รอง ผอ.สำนักงานสลากฯ กล่าวว่า จะออกประกาศรายชื่อผู้พิการที่ได้รับการจัดสรรผ่านทางเว็บไซต์สำนักงานสลากฯ ภายในวันที่ 8 กรกฎานี้ รวมทั้งจะเร่งติดต่อผู้ที่ได้รับการจัดสรรทันที สำหรับผู้พิการที่ไม่ได้รับการจัดสรรประมาณ 93,596 ราย คงต้องรอนโยบายของคณะกรรมการสลากฯ อีกครั้ง ส่วนการเพิ่มจำนวนการพิมพ์สลากฯ อีกงวดละ 2 ล้านฉบับ ตั้งแต่งวดวันที่ 1 สิงหาคม 2557 ส่งผลให้สลากฯในแต่ละงวดจะถูกพิมพ์เพิ่มขึ้นเป็น 74 ล้านฉบับ คาดว่าจะช่วยให้ตลาดการซื้อขายสลากฯ ผ่อนคลายได้ เพราะสลากฯที่เพิ่มเข้าสู่ระบบจะช่วยให้ราคาสลากฯ ปรับราคาลดลง