ค้านพระราชทานเพลิง
เหตุ“อภิวันท์”หมิ่นฟ้า
กม.คุมม็อบถึงมือ”บิ๊กป้อม”
สตช.ออกตัวหนุนใช้เต็มที่
ความคืบหน้ากรณีนายจเร พันธุ์เปรื่อง เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เตรียมประสานสำนักพระราชวัง เพื่อขอพระราชทานน้ำอาบศพ และขอพระราชทานเพลิงศพให้ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคปอดติดเชื้อที่ประเทศฟิลิปปินส์ ขณะหลบหนีคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112โดยมีการเตรียมนำศพกลับถึงประเทศไทยในวันศุกร์ที่ 11 ตุลาคมนั้น
เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์ มีจดหมายถึงราชเลขาธิการ เรื่องการงดพระราชทานเพลิงศพ พ.อ.อภิวันท์ โดยมีเนื้อหาระบุว่า ตามที่ พ.อ.อภิวันท์ นักโทษหนีหมายจับในคดีหมิ่นเบื้องสูงที่ศาลอาญาอนุมัติหมายจับเมื่อเดือนกรกฎาค 2557 และมีพฤติกรรมเป็นที่ปรากฎต่อสาธารณะว่ามิได้มีความจงรักภักดีต่อสถาบันและพระเจ้าอยู่หัวอย่างจริงจัง ว่ากล่าวให้ร้ายต่อสถาบันหลายครั้ง ดังนั้นการที่จะได้ขอพระราชทานเพลิงศพแก่ พ.อ.อภิวันท์ จึงเป็นการไม่เหมาะสม
ระบุเป็นการไม่บังควร
“ในฐานะที่กระผมเป็นนักประวัติศาสตร์ มีความเห็นว่า จะเป็นการไม่บังควรที่จะนำความขึ้นกราบบังคมทูลให้ทรงพระกรุณาพระราชทานเพลิงศพหากมีผู้ร้องขอ และเพื่อเป็นเยี่ยงอย่างแก่ข้าราชการโดยทั่วไปที่ไม่มีความจงรักภักดีและเคารพบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงไม่ควรขอพระราชทานเพลิงศพดังกล่าว” นายเทพมนตรี ระบุผ่านจดหมาย
เด็กพท.วอนเลิกอาฆาตพยายาท
ขณะที่นายวรชัย เหมะ อดีตส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. กล่าวตอบโต้ในเรื่องนี้ว่า การกระทำของนายเทพมนตรีไม่ถูกต้อง เพราะพ.อ.อภิวันท์ ได้เสียชีวิตไปแล้วก็ไม่เคยทำอะไรให้ใคร จึงถือเป็นการทำให้ราชเลขาธิการอึดอัดใจ ซึ่ง พ.อ.อภิวันท์ ก็เป็นคนไทยคนหนึ่งแล้วยังได้รับพระราชทานสายสะพายก็เป็นสิทธิที่ควรได้รับพระราชทานเพลิงศพ ส่วนข้อกล่าวหาที่ถูกตั้งขึ้นก็ยังไม่มีการตัดสินของศาลว่าผิดจริงหรือไม่ จึงไม่อยากให้อาฆาตพยาบาทกันคนก็เสียชีวิตไปแล้ว
ผบ.ทบ.เบรคแดงโหนงานศพ
ด้านพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณีที่มีคนบางกลุ่มพยายามจะใช้ประเด็นงานศพของ พ.อ.อภิวันท์ มาเคลื่อนไหวทางการเมืองว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม ได้พูดชัดเจนว่าเรื่องพิธีกรรมนั้นเป็นเรื่องปกติสามารถทำได้แต่อย่านำประเด็นดังกล่าวมาจุดกระแส เพราะเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมและทำไม่ได้ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ก็มีการติดตามอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว
เลื่อนรับศพ“อภิวันท์”เป็น11ต.ค.
นายสมคิด เชื้อคง อดีตส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เลื่อนกำหนดรับร่างของ พ.อ.อภิวันท์จากเดิมวันที่ 10 ตุลาคม ออกไปเป็นวันที่ 11 ตุลาคม เวลา 15.20 น. เที่ยวบินTG621 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เนื่องจากขั้นตอนการเตรียมเอกสารยังไม่พร้อม อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะมีกลุ่มคนที่เคารพรัก พ.อ.อภิวันท์ไปรับศพที่สนามบินจำนวน 300-400 คน แต่ไม่มีกิจกรรมการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น จึงไม่ต้องกังวลเรื่องกฎอัยการศึก
“สำหรับกลุ่ม ส.ส.ที่สนิท และ ส.ส.ที่อยู่จังหวัดใกล้เคียง จะไปรอรับศพที่วัดบางไผ่ จ.นนทบุรีในบ่ายวันที่ 11 ตุลาคม ยืนยันว่าไม่มีคำสั่งจากทหารห้ามไปรับศพ พ.อ.อภิวันท์ ส่วนกำหนดการรดน้ำศพนั้นจะจัดขึ้นในวันที่ 12 ตุลาคม เวลา 13:00 น.”นายสมคิดกล่าว
กม.คุมม็อบถึงมือ“ประวิตร”
สำหรับความคืบหน้าการนำร่างพรบ.ควบคุมการชุมนุมในพื้นที่สาธารณะ พ.ศ..... ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.ประกาศสนับสนุนและจะผลักดันเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)นั้น
เรื่องนี้พล.ต.ท.อำนาจ อันอาตม์งาม รักษาราชการแทน ที่ปรึกษา สบ 10 ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานยกร่างกฎหมาย กฎ ระเบียบ คำสั่งหรือประกาศเกี่ยวกับการรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมในที่สาธารณะพ.ศ.... กล่าวถึงความคืบหน้าว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เสนอร่างพรบ.ดังกล่าวให้กับพล.อ.ประวิตร รองนายกฯ ที่ดูแลงานด้านความมั่นคงไปและรมว.กลาโหมแล้ว คาดว่าอยู่ระหว่างการพิจารณาคงใช้เวลาไม่นานนัก โดยขั้นตอนจากนี้ไปคือนำเข้าสู่พิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) และสนช. เพื่อพิจารณาและผ่านเป็นกฎหมาย เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
เชื่อช่วยตำรวจทำงานสะดวก
“หากกฎหมายฉบับดังกล่าวคลอดออกมาแล้ว เชื่อว่าการปฎิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติก็จะมีความชัดเจน เพราะเป็นกติกาใหม่ของสังคม ที่ทั้งเจ้าพนักงาน และผู้ชุมนุมต้องปฏิบัติตาม และคงมีข้อกำหนดต่างๆ ในรายละเอียดหลายเรื่อง โดยการพิจารณากฎหมายฉบับนี้ได้เทียบเคียงกับกฎหมายด้านการควบคุมการชุมนุมสาธารณะของประเทศต่างๆ ทั้งข้อดี ข้อเสีย เชื่อว่าน่าจะช่วยในเรื่องการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ได้เป็นอย่างดี”พล.ต.ท.อำนาจ กล่าว
“วิษณุ”รอดูรายละเอียดก่อน
ในขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวว่า ทาง สตช. ยังไม่ได้ส่งมา คิดว่า คงไปแก้อะไรเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ในระยะหลัง เพราะตอนทำกฏหมายในระยะแรกเป็นช่วงเวลาประมาณ 4-5 ปีมาแล้ว ซึ่งเมื่อ สตช.ปรับปรุงเสร็จก็ส่งกลับคืนมา ซึ่งโดยช่องทางแล้วก็ต้องส่งกลับคืนมาที่ พล.อ.ประวิตร ในฐานะที่กำกับ สตช. จากนั้นจึงจะส่งมาที่ ครม.ซึ่งตนอาจจะต้องให้ความเห็นในช่วงนี้ โดยเฉพาะสิ่งที่ สตช.แก้นั้นผูกพันกับหลายมาตราอื่นหรือไม่ ซึ่งอาจต้องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาช่วยดูอีกที แต่ถ้าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ไม่กระทบอะไรก็เสนอเข้าสภาได้ อย่างไรก็ตามขณะนี้เข้าใจว่า สตช.น่าจะส่งถึงมือ พล.อ.ประวิตร แล้ว
อัดแน่นข้อบังคับการชุมนุม
สำหรับสาระสำคัญร่าง พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.... มีทั้งหมด 5 หมวด 38 มาตรา มีเรื่องที่น่าสนใจ อาทิ ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบล่วงหน้า อย่างน้อย 24 ชม., ห้ามชุมนุมในรัศมี 150 เมตรจากที่เขตพระราชวัง รัฐสภา ทำเนียบรัฐบาล ศาล และสถานที่พำนักของพระราชอาคันตุกะ, ไม่กีดขวางทางเข้า-ออก หรือรบกวนการปฏิบัติงานการบริการของหน่วยงานรัฐ ท่าอากาศยาน สถานีขนส่ง-รถไฟ ท่าเรือ โรงพยาบาล สถานศึกษา ศาสนสถาน สถานทูตฯลฯ, ห้ามปราศรัยหรือจัดชุมนุมในเวลา 22.00-06.00 น., ห้ามเคลื่อนขบวนในเวลากลางวัน ห้ามปิดบังอำพรางใบหน้า ห้ามทำลายกล้องวงจรปิด ห้ามปราศรัยยุยงด้วยวิธีการใด หรือชักจูงให้เกิดความเกลียดชังนำสู่การชุมนุมที่ไม่สงบ ห้ามฝ่าฝืนคำสั่ง เงื่อนไขของเจ้าพนักงาน หากการชุมนุมไม่สงบ ไม่เป็นไปตามเงื่อนไข ตำรวจสามารถสั่งให้ยุติการชุมนุมได้ เป็นต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี