7 ต.ค.58 นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท) ประกาศปฏิรูปตำรวจ ว่า โดยส่วนตัวรู้จักกันดี แต่ไม่เชื่อว่าเป้าหมายที่จะปฏิรูปนั้นจะสอดคล้องกับความต้องการของพนักงานสอบสวนและประชาชนทั้งประเทศ เพราะเท่าที่เคยฟัง พล.ต.ท.อำนวย เคยพูดก็ไม่ใช่แนวทางการปฏิรูปตำรวจตามแนวทางที่ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป ประธานคณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปตำรวจ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เคยสรุปไว้ ตามความต้องการของประชาชนแต่อย่างใด

ทั้งนี้ จึงเป็นเรื่องยากที่จะเห็น สปท.จะมีมติให้แยกอำนาจการสอบสวนให้เป็นอิสระออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพราะตำรวจชั้นผู้ใหญ่ยังคงต้องการอำนาจการชี้นำ การสั่งคดี การเป่าคดี และการครอบงำอำนาจการสอบสวนของพนักงานสอบสวนทั่วประเทศให้คงอยู่ในอำนาจต่อไป ซึ่งก็คือศาลเตี้ย ประชาชนธรรมดาคนยากจนที่ไม่มีเส้นไม่มีสายก็ยากจะเข้าถึงความยุติธรรมได้

"เพราะฉะนั้นจะไปหวังอะไรกับการปฏิรูปตำรวจให้ดีขึ้นในยุคนี้ ก็ยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร ขนาด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ยกธงขาวชัดเจนแล้วว่า ไม่มีการปฏิรูปตำรวจในยุคนี้ และสั่งให้รอรัฐบาลหน้า ซึ่งเป็นน่าเสียดายจริงๆ" นายวัชระ กล่าว

นายวัชระ กล่าวว่า การที่ พล.ต.ท.อำนวย กล่าวถึงตำรวจรัฐสภาว่าเป็นแค่ รปภ.รัฐสภา มาแต่งชุดตำรวจแล้วคือตำรวจ ถือว่าเป็นการพูดที่ไม่ให้เกียรติตำรวจสภา เพราะตำรวจสภามีอำนาจจับกุมตาม ป.วิอาญา เช่นเดียวกับตำรวจ และมีพระราชบัญญัติรองรับเหมือนตำรวจ เกียรติและศักดิ์ศรีย่อมเท่าเทียมกัน ไม่ควรมาดูถูกข้าราชการด้วยกัน

ส่วนกรณีที่อ้างว่าฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแซง สตช.นั้น เป็นจริงทุกสมัย แต่ไม่ใช่นักการเมืองฝ่ายเดียว แม้วันนี้ไม่มีฝ่ายการเมือง การวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งหมดไปจาก สตช.หรือไม่ ซึ่งล้วนเกิดจากตำรวจชั้นผู้ใหญ่ทั้งสิ้น ที่ทำนาบนหลังลูกน้อง ประชาชนทั่วไปก็รับกรรมไป ตำรวจชั้นผู้ใหญ่นั่นแหละตัวดีกว่านักการเมือง ทั้งซื้อขายตำแหน่ง เล่นรุ่น บ้าสถาบัน กีดกันพวกที่จบจากมหาวิทยาลัย ไม่ให้ความเป็นธรรมกับลูกน้อง นี่คือสภาพของตำรวจที่อยู่อย่างขมขื่น จึงต้องมีการปฏิรูปอย่างเร่งด่วน

ส่วนกรณีที่ พล.ต.ท.อำนวย หรือนายพลตำรวจอื่นๆ ไปสมัครเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นั้น นายวัชระ กล่าวว่า เป็นสิทธิส่วนตัว แต่ ป.ป.ช.ควรใช้โอกาสนี้ตรวจสอบทรัพย์สินของอดีตข้าราชการทั้งหมดที่มาสมัคร ว่ารับราชการมาโดยสุจริตหรือไม่ หากเป็นตำรวจมีหุ้นในสหกรณ์ตำรวจสิบล้านร้อยล้าน เงินนี้มาจากไหน ส่วนที่เคยเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ถ้าไม่เคยรับซองขาวก็ไปสมัครกรรมการ ป.ป.ช.ได้ แต่ถ้าเคยเรียกหรือรับเปอร์เซ็นต์จากผู้รับเหมา อย่าไปสมัครให้ผู้รับเหมาหัวเราะเลย

นอกจากนี้ นายวัชระ ยังกล่าวถึงรายชื่อสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ว่า ที่ประกาศก็แจ่มชัดในตัวเองอยู่แล้ว เพราะคนที่มีแนวคิดปฏิรูปตำรวจที่ชัดเจนอย่าง นายถวิล ไพรสณฑ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ส่งรายชื่อให้ คสช.เพื่อเข้าไปเป็น สปท.กลับถูกกาชื่อทิ้ง แต่เครือข่ายใกล้ชิด นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับมีมากไม่ต่ำกว่า 7 คน จากพรรคประชาธิปัตย์กลับได้เพียงคนเดียว คือ นายกษิต ภิรมย์ แค่แต่งตั้งก็ดูพิลึกพิลั่นแล้ว จะไปหวังว่าเป็น สปช.เพื่อการปฏิรูปใดๆ ก็ดูลางเลือนเหลือเกิน และเชื่อว่า สปท.นี้มีอายุไม่ครบ 5 ปี ตามที่ คสช.กำหนดไว้อย่างแน่นอน เพราะมีตัวอย่างแล้วจากสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่หมดอายุอย่างกระทันหันเช่นที่ผ่านมา