6 ก.ค.59 นายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หารือข้อราชการกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล เพื่อแนะนำตัวในฐานะนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว โดย นายลุน สีสุลิด ได้นำคณะผู้แทนระดับรัฐมนตรีจาก 13 กระทรวงสำคัญที่กำกับดูแลงานด้านการต่างประเทศ สังคม วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว แรงงาน ความมั่นคง การค้าและการลงทุน พลังงาน การศึกษา และการคมนาคมขนส่ง ร่วมคณะ
โดยภายหลังการหารือ พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ทั้งสองฝ่ายมีความใกล้ชิดกันมายาวนาน ทั้งในด้านประวัติศาสตร์ ศาสนา ภาษา วัฒนธรรม ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศมีความแน่นแฟ้นและลึกซึ้งในทุกมิติและทุกระดับ โดย นายกรัฐมนตรีลาว เห็นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างกันในช่วงปัจจุบันอยู่ในระดับที่ดีมาก และนับว่ามีความใกล้ชิดกันสูงสุด โดยเชื่อว่าการหารือในวันนี้จะเป็นการปูทางความร่วมมือระหว่างกัน ก่อนที่จะมีการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือ (JC) ไทย - ลาว ครั้งที่ 21 และการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ (JCR) ไทย - ลาว ครั้งที่ 3 ที่ฝ่ายลาวจะเป็นเจ้าภาพ
ด้านการเมืองและความมั่นคง มีความก้าวหน้าในหลายประเด็น และเห็นพ้องที่จะเปิดช่องทางให้ผู้นำสองประเทศสามารถพูดคุยระหว่างกันโดยตรง เพื่อสร้างความใกล้ชิดและความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างสองประเทศ ลดความหวาดระแวงในเรื่องที่เป็นอุปสรรคระหว่างกัน อาทิ เรื่องเขตแดน ซึ่งไทยสนับสนุนให้ใช้กลไกระดับทวิภาคีที่มีอยู่ เพื่อการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่ตามแนวชายแดน โดยย้ำว่า ไทยมีนโยบายที่มิให้นำเรื่องเขตแดนมาเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา แต่ให้เป็นเส้นเขตแดนแห่งความร่วมมือ โดยในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ผลการดำเนินการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกร่วมไทย - ลาว มีความคืบหน้าและมีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว เสนอให้เริ่มทำการปักปันเขตแดนในจุดที่สองประเทศตกลงกันได้แล้ว เพื่อช่วยส่งเสริมการไปมาหาสู่ระดับประชาชนให้มากขึ้น นอกจากนี้ มีการหารือเกี่ยวกับการเปิดจุดผ่านแดน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ รมว.มหาดไทย ศึกษาจุดผ่านแดนที่สองฝ่ายเห็นว่ามีศักยภาพก่อน ตามลำดับความสำคัญเพื่อเตรียมความพร้อม
ด้านความร่วมมือแรงงาน นายลุน สีสุลิด กล่าวขอบคุณที่รัฐบาลไทยให้การดูแลแรงงานลาวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยเป็นอย่างดี ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แรงงานลาว ถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของสองประเทศ ปัจจุบันรัฐบาลไทยกำลังเร่งจัดระเบียบแรงงานให้เป็นระบบ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้ามาทำงานของแรงงานจากลาว ทั้งรูปแบบแรงงานรายวัน รายปี และแรงงานตามฤดูกาล ทั้งนี้ เพื่อให้แรงงานดังกล่าว ได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องและได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย นายกรัฐมนตรีได้ขอให้ทางการฝ่ายลาวเพิ่มจุดพิสูจน์สัญชาติ เพื่อการป้องกันการถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายจ้างด้วย ทั้งนี้ สองฝ่ายยินดีที่วันนี้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงานฉบับใหม่ ซึ่งจะเป็นแนวทางการเสริมสร้างประสิทธิภาพในความร่วมมือด้านแรงงานต่อไป โดยเห็นพ้องให้เร่งเจรจาเพื่อจัดทำบันทึกข้อตกลง (Agreement) ว่าด้วยการจ้างงานให้แล้วเสร็จภายในปีนี้
ด้านความร่วมมือด้านการบริหารจัดการน้ำ ไทยและลาว ในฐานะประเทศที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เห็นพ้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสองประเทศไปศึกษาแนวทางการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขง และนำมารายงานแก่รัฐบาลของสองประเทศ เพื่อจะได้นำไปหารือแนวทางการจัดการน้ำอย่างเป็นระบบกับประเทศที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงแรงงาน เป็นผู้รับผิดชอบหลัก ด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไทยและลาวถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการเชื่อมโยงในภูมิภาค โดยไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในบริเวณพื้นที่ที่สองฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน เพื่อสร้างจุดเชื่อมโยงในภูมิภาค โดยเห็นว่า ไทยและลาวควรร่วมมือกันส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างสองประเทศ ด้านการค้า การลงทุน ทางฝ่ายลาว ได้แสดงความประสงค์ให้ไทยเข้าไปลงทุนในลาวมากขึ้น โดยเฉพาะการทำการเกษตรอินทรีย์ ที่รัฐบาลลาวให้ความสำคัญกับการ
ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือข้อราชการ พล.อ.ประยุทธ์ เชิญนายทองลุน เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ก่อนเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี