มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ครั้งที่ 48/2559 ที่รัฐสภาเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม โดยมีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.เป็นประธานในที่ประชุมโดยมีระเบียบวาระการประชุมที่สำคัญคือ กระทู้ถามเรื่องนโยบายเรียกค่าเสียหายในโครงการจำนำข้าวรัฐบาล นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยนายสมชาย แสวงการ เป็นผู้ตั้งถาม โดยมีนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เป็นผู้ตอบกระทู้ดังกล่าว
สนช.ทวงค่าเสียหายจำนำข้าว
ซึ่งนายสมชาย ระบุว่าตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.) สรุปว่า ต้องฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในโครงการรับจำนำข้าว และต้องฟ้องเป็นคดีแพ่งนั้น ขณะนี้ได้ดำเนินการไปแล้วอย่างไรและผลการปิดบัญชีขาดทุนในโครงการดังกล่าวมีจำนวนเท่าใดและจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป และ มูลค่าความเสียหายกรณีทุจริตการระบายข้าวแบบจีทูจี ซึ่งมีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ และพวกรวม 21 คน มีความเสียหายเป็นจำนวนเท่าใด และจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
รมช.คลังแจงยุคปูเจ๊งยับ5.3แสนล.
จากนั้น นายวิสุทธิ์ ได้ตอบกระทู้ ว่า คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว
ยืนยันรายงานตัวเลขการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว 15 โครงการ ณ วันที่ 30 กันยายน 2558 จำนวน 15 โครงการ มีผลขาดทุน 7.45 แสนล้านบาทรวม 85 ล้านตัน แยกเป็นก่อนรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ 11 โครงการขาดทุน 163,000 ล้านบาทและในรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ 4 โครงการ ขาดทุน 536,000 ล้านบาทซึ่งได้รายงานให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีทราบแล้ว
เตรียมเคาะตัวเลขชัดๆสิงหาฯนี้
อย่างไรก็ตามคณะกรรมการความผิดทางแพ่งที่มีอธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นประธานจะสรุปในภายเดือนสิงหาคมนี้หรือก่อนที่ประธานจะเกษียณอายุในเดือนกันยายน และจะนำเสนอกระทรวงการคลังเพื่อดำเนินการเพื่อให้ดำเนินการฟ้องร้องเพื่อให้ชดใช้ความเสียหายต่อไป
ในกรณีที่ผู้รับผิดเป็นเจ้าหน้าที่จะออกคำสั่งทางปกครองให้เจ้าหน้าที่นั้นชดใช้ค่าสินไหมทดแทนต่อไป ขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้มีการฟ้องร้องในคดีอาญาต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว
15วันไม่ชดใช้ยึดทรัพย์ทอดตลาด
รมช.คลัง ยังตอบกระทูเพิ่มเติมว่าในส่วนของความเสียหายกรณีการทุจริตการระบายข้าวแบบทีจูจีนั้น กระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางแพ่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่6รายแยกเป็นข้าราชการ3รายและข้าราชการการเมือง 3 ราย มีมูลค่าความรับผิดค่าเสียหาย2.57 หมื่นล้านบาทขณะนี้อยู่ในระหว่างที่กระทรวงพาณิชย์จะมีคำสั่งเรียกให้เจ้าหน้าที่ดังกล่าวชดใช้ค่าเสียหายต่อไป ทั้งนี้หากไม่ยินยอมชดใช้ความเสียหายนับตั้งแต่วันที่มีคำสั่งภายใน 15วัน หน่วยงานที่เสียหายจะใช้มาตรการบังคับทางปกครอง ยึดทรัพย์ขาดทอดตลาดเพื่อชดใช้ค่าเสียหาย
ส่วนในคดีอาญานั้นอัยการสูงสุดได้มีการฟ้องร้องนายบุญทรง และนายภูมิในศาลอาญาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว และได้ยื่นคำร้องในส่วนแพ่งเรียกค่าเสียหายจากเอกชนไปในคดีอาญาด้วย
คลังชี้ปูทำเสียหายเพิ่ม4หมื่นล.
ด้านนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว เปิดเผยว่านายกรัฐมนตรี รับทราบการปิดบัญชี ณ 30 ก.ย. 2558 แล้ว ซึ่งมีผลขาดทุนเพิ่มขึ้นจากการปิดบัญชี ณ 30 กันยายน 2557 ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ผลขาดทุนจำนำข้าว ณ 30 ต.ค. 2557 อยู่ที่ 7 แสนล้านบาท แยกเป็น 11 โครงการก่อนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขาดทุน 1.63 แสนล้านบาท และ 4โครงการ สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ขาดทุน 5.36 แสนล้านบาท ทำให้ผลขาดทุนล่าสุดอยู่ที่ 7.4 แสนล้านบาท โดยผลขาดทุน 4 หมื่นล้านบาท ที่เพิ่มขึ้นเป็นโครงการรับจำนำข้าวสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์
เตรียมชงบิ๊กตู่ใช้คำสั่งปกครอง
นายสมชัย กล่าวว่า ในส่วนของการเรียกความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวตอนนี้นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง ประธานคณะกรรมการความรับผิดทางแพ่ง กำลังพิจารณาเรียกค่าเสียหายจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี ส่งเรื่องให้กระทรวงการคลังดำเนินการในฐานะผู้ได้รับความเสียหายจำนวน 2.8แสนล้านบาท โดยคณะกรรมการฯจะดำเนินการพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในเดือนส.ค.นี้
ทั้งนี้เมื่อคณะกรรมการพิจารณารับผิดทางแพ่ง พิจารณาเรียบร้อยแล้ว จะสรุปและเสนอให้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง พิจารณาก่อนเสนอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเห็นชอบเพื่อออกคำสั่งทางปกครองให้ผู้ถูกกล่าวหาชดใช้ต่อไป
คาดสิงหาคมนี้จบแน่นอน
ในขณะที่นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการความรับผิดทางแพ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาเรียกค่าความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว โดยมั่นใจว่าจะแล้วเสร็จในเดือนส.ค. นี้ คาดว่าจะประชุมอีก 1-2 ครั้งก็จะสรุปความเสียหายได้ ยืนยันคณะกรรมการฯ ต้องการให้ผลการตัดสินเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ได้ตั้งใจเอาผิดใครเป็นกรณีพิเศษ หรือต้องการช่วยเหลือใคร
“ปู”ขึ้นศาลสอบพยานฝ่ายจำเลย
ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ เมือเวลา 09.30 น. องคณ์คณผู้พิพากษานัดไต่สวนพยานจำเลยครั้งแรก คดีดำ อม.22/2558 ที่อัยการสูงสุด (อสส.)เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา157กรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรีขณะนั้นไม่ระงับยับโครงการจำนำข้าวแบบรัฐต่อรัฐที่มีการทุจริตจนทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท
โดยก่อนที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเริ่มเบิกความเป็นพยานปากแรก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ขออนุญาตศาลใช้เวลา 1 ชั่วโมง ในการแถลงเปิดคดี ซึ่งจำเลยได้ขออ่านคำแถลงเปิดคดีตามเอกสารที่จัดเตรียมมาซึ่งได้มีการสรุปประเด็นสำคัญต่างๆ โดยมีการใช้เครื่องเพาเวอร์พ้อยท์แสดง ให้องค์คณะฯ ทั้งเก้าได้ทราบรายละเอียด
ครวญไม่ได้รับความเป็นธรรม
ขณะที่การแถลงเปิดคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยืนยันว่า ได้ปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต และขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาตามฟ้องโจทก์และ สำนวนของ ป.ป.ช.ใน 6 ประเด็น สรุปว่า โครงการจำนำข้าว เป็นนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐคุ้มครองรักษาประโยชน์ให้เกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย และเมื่อได้มีการแถลงนโยบายต่อสภาฯแล้วก็มีผลผูกพันที่ ครม.ต้องปฏิบัติตามโดยคำนึงถึงประโยชน์เศรษฐกิจของชาติโดยรวม ไม่มุ่งแสวงหาผลกำไร และตามรายงานศึกษาของหน่วยงานทั้งไทย-ต่างประเทศ โครงการนโยบายสาธาณะมีความคุ้มค่า ซึ่งไม่อาจใช้แนวคิดผลกำไรและขาดทุนแบบเอกชนมาเปรียบเทียบ ตนขอยืนยันว่าข้อกล่าวหาและการแจ้งข้อกล่าวหานั้นไม่ถูกต้องและไม่ให้ความเป็นธรรม โดยไม่เปิดโอกาสไต่สวนพยานจำเลยในชั้น ปปช.
ยกหนังสือลับของนบข.ต่อสู้
นอกจากนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังตั้งข้อสังเกตุกรณีที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมเรื่องนี้ว่า ได้พบเอกสารของคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว(นบข.)ฉบับหนึ่ง จึงขอตั้งข้อสงสัยว่า ที่กล่าวถึงการทำหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด ที่ระบุว่า “ประธาน นบข. ให้ข้อสังเกตว่า หน้าที่ของคณะกรรมการ คือ ประเมินความเสียหาย และนำส่งข้อมูลให้กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ตั้งเรื่อง โดยไม่ต้องพิจารณาประเด็นความยุติธรรม แต่ต้องดำเนินการตามกรอบเวลาให้ทันการส่งฟ้อง มิฉะนั้นจะถือเป็นความบกพร่อง ของ 3 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์”
ภายหลังอดีตนายกฯ ใช้เวลาแถลงเปิดคดีจนกระทั่งเวลา 10.30 น. แล้ว องค์คณะมีคำสั่งให้พักกระบวนพิจารณา 15 นาที ก่อนเริ่มไต่สวน น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นพยานปากแรกต่อไป
อัยการซักคดียิ่งลักษณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนจะเริ่มไต่สวน น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นพยานปากแรก อัยการฝ่ายโจทก์ได้ซักว่าโครงการจำนำข้าวมีการแถลงนบายต่อสภา แต่ไม่มีการยับยั้ง แล้วเหตุใดจึงมีการยุติโครงการบริหารจัดการน้ำ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า กรณีที่โครงการบริหารจัดการน้ำต้องยุติไปตามคำสั่งศาลปกครอง
ขณะที่อัยการพยายามซักถามถึงประเด็นการระบายข้าว ที่ภาครัฐขาย แล้วราคาขายได้น้อยกว่าภาคเอกชนขายว่าทราบหรือไม่น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบเพียงว่าเปรียบเทียบกันไม่ได้ อยู่ที่รายละเอียดของฝ่ายปฏิบัติ เมื่อถามย้ำว่าได้มีการรายงานส่วนต่างราคาดังกล่าวให้จำเลยทราบหรือไม่ อดีตนายกฯ กล่าวว่า มติครม.ระบุว่ามีความละเอียดอ่อนไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ เพราะจะกระทบต่อภาพรวมและการต่อรองราคาข้าวแต่ครม.ได้ติดตามภาพรวมไม่ให้เกินกรอบวงเงิน500,000ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี