ส.ดำเนินสะดวก

ข่าวกลุ่มการเมืองก่อการป่วนอำนาจรัฐมีคน ซึ่งปฏิเสธความชอบธรรมของกระบวนการยุติธรรมไทย รับรู้และน่าจะอยู่เบื้องหลังยุยงสั่งการโดยใช้ดินแดนห่างไกลเป็นที่สิงสถิต แต่ประชาชนผู้หลงเชื่อเคยเข้าเป็นกองกำลังสนับสนุนช่วยเหลือ ได้เห็นพฤติการณ์ผู้นำทั้งหลาย โดยเฉพาะความขี้ขลาดของแกนนำที่ถูกจำคุกอยู่ ที่แสดงเจตนาว่า ถ้าศาลเมตตาปล่อยเป็นอิสระ จะยอมยุติบทบาททุกอย่าง ความข้อนี้มีผลต่อมวลชนที่เคยลุ่มหลง ให้ศรัทธาหมดลง เพราะรู้จุดประสงค์ว่าขบวนการป่วนชาติมุ่งหมายอะไร คงเหลือลมปากแกนนำบางคนที่ยังเคลื่อนไหว แต่ก็แผ่วเบาเกินจะฟื้นกระบวนการได้ วันนี้สังคมไทยรับรู้แล้วว่า กระบวนการป่วนชาติ ไม่มีวันได้ผุดได้เกิดอีกต่อไป

แต่ไม่ทันสงบสิ้นขบวนการป่วนชาติ ก็เกิดขบวนการที่ทำเสมือนอยู่นอกอำนาจรัฐนั่นคือ “ธรรมกาย” ซึ่งมีพระธัมมชโยเป็นหัวหน้า พระท่านนี้มีชื่อเสียงอยู่ในกระแสสังคมไทยมานานหลายสิบปี ชื่อเสียงที่รู้จักเป็นเบื้องต้นคือ ซองขาวขอรับบริจาค โดยมีลิ่วล้อที่เป็นข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานต่างๆ ทำหน้าที่แจกจ่ายอย่างต่อเนื่อง ข่าวที่ตามมาโดยได้รับรู้จากเพื่อนใกล้ชิดที่ได้รับความเดือดร้อน เสียหาย เนื่องจากภรรยาที่เป็นพยาบาล เกิดลุ่มหลงลัทธิธรรมกาย ยอมเสียเงินเดือน ยอมสละทรัพย์ทุกอย่าง สละเวลาเข้าร่วมกิจกรรมกับลัทธิธรรมกาย จนครอบครัวปั่นป่วน หลังจากมีการพัฒนาโทรทัศน์ระบบใหม่ ธัมมชโยออกตัวเทศนาชวนเชื่อจนคนลุ่มหลง

ลัทธิธรรมกายขยายอาณาจักรในจ.ปทุมธานีจนมีพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ มีอาคารใหญ่โตหลายหลัง จากการเปิดเผยของนายแพทย์ท่านหนึ่งว่า อาคารดังกล่าวมีอุโมงค์ใต้ดิน และไม่ได้ขออนุญาตก่อสร้าง ไม่ได้ขออนุญาตขุดบ่อน้ำบาดาล ซึ่งเรื่องนี้คงต้องเป็นหน้าที่ของจังหวัด ต้องตรวจสอบ ดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย ไม่เพียงการก่อสร้างโดยไม่ได้ขออนุญาต แต่ลัทธิธรรมกายขยายอาณาจักรไปตามป่าเขา เข้าไปรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าไม้ถาวร สร้างอาคารดูยิ่งใหญ่ จนคนชนบทลุ่มหลงศรัทธา ร่วมกันทุ่มเทบริจาคเงินทองมากมาย

ลัทธิธรรมกายยังไปเกี่ยวข้องกับนายศุภชัย ศรีศุภภักษร อดีตผู้ใหญ่บ้านย่านบางกะปิ ที่เข้าไปเป็นประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น และนายศุภชัยก็ร่อนจดหมายไปขอให้สหกรณ์ต่างๆ ทั่วประเทศนำเงินเข้าฝากในสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ แล้วฉ้อโกง จนสหกรณ์ต่างๆ ไม่ได้รับดอกเบี้ย ไม่ได้รับเงินต้นคืน เป็นผลให้ขาดสภาพคล่อง สั่นคลอนไปตามๆ กัน และเงินที่ฉ้อโกงก็ถูกถ่ายโอนไปยังพระธัมมชโยกับพระลูกวัด จนเป็นที่มาของข้อกล่าวว่า “ธัมมชโย” ฟอกเงิน รับของโจร ไม่เพียงเท่านั้น นายศุภชัยยังตั้งสหกรณ์ขึ้นระดมเงินฝากจากสาวกธรรมกาย ขณะเดียวกัน ก็ให้สาวกผู้หลงใหลศรัทธาที่ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาทำบุญ ก็ให้สหกรณ์ที่นายศุภชัยตั้งขึ้น เป็นแหล่งกู้เงินเพื่อทำบุญให้วัดพระธรรมกาย

จากพฤติการณ์พระธัมมชโยเกี่ยวข้องกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร เป็นที่มาของข้อหาฟอกเงินและรับของโจร ข้อหาความผิดเกี่ยวกับป่าไม้ ความผิดเกี่ยวกับขุดบ่อน้ำบาดาลและข้อหาอื่นๆ มากมาย ล้วนแต่เป็นปัญหาความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน จะผิดหรือถูกเป็นเรื่องของศาลจะตัดสิน ในเบื้องต้น พนักงานสอบสวนมีหน้าที่ต้องสอบสวนให้ได้ความจริง ผมก็ไม่รู้พระธัมมชโยผิดหรือถูกอย่างไร ผู้ที่จะพิสูจน์ความจริงคือ พระธัมมชโย เมื่อพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกให้ไปพบพระธัมมชโยมีหน้าที่จะต้องไป แต่ก็เกิดมีขบวนการปกป้องปลุกปั่นให้ประชาชนเชื่อว่าพระธัมมชโยเป็นผู้บริสุทธิ์ ถูกกลั่นแกล้ง ไม่ได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหา

ตัวผมเองทราบแน่นอนว่า เพื่อนผมได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากที่ภรรยาไปลุ่มหลงลัทธิธรรมกาย ผมมีส่วนเข้าไปแก้ไขปัญหาครอบครัวเขา แต่หมอผู้เคยใกล้ชิดพระธัมมชโยออกมาเปิดเผยว่ามีนับแสนครอบครัว เกิดความแตกแยกล่มสลายเพราะความลุ่มหลงดังกล่าว

การที่ธัมมชโยเข้าไปเกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินของนายศุภชัย เกี่ยวข้องรุกป่า ก่อสร้างอาคารวัดโดยไม่ได้รับอนุญาต ฯลฯ ผมอยากให้ประชาชนตรวจสอบเรื่องต่างๆ ดังกล่าวว่า เท็จจริงอย่างไร ถ้าธัมมชโยไม่ผิด ก็สามารถให้นายองอาจ ธรรมนิทา แถลงข่าวได้ แต่ต้องออกมาพิสูจน์ตัวเองก่อน ให้สังคมรับรู้เสียทีว่า เป็นพระเป็นเจ้าย่อมรู้ธรรม