'นิกร'ค้านขยายระยะเวลาการบังคับใช้ร่าง พ.ร.ป. ส.ส. ไปอีก 90 วัน ชี้ผิดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ – เตือนส่งผลเสียต่อ"นายกฯ-คสช.-สนช." หวั่นโดนข้อครหายึดอำนาจอยู่ยาว
20 ม.ค.61 นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) มีมติเสียงข้างมากให้แก้ไขมาตรา 2 กำหนดให้ร่างกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ 90 วัน ภายหลังจากที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ว่าส่วนตัวไม่เห็นด้วย เพราะเป็นการกระทำที่ผิดอยู่หลายกรณี ทั้งการผิดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 267 และ 268 ที่ต้องการจัดให้มีการเลือกตั้ง เนื่องจากกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ได้นำเสนอและมีการอภิปราย รวมถึงรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนหลายครั้ง และเชื่อว่า กรธ.ได้ตรวจสอบและรับรองเรื่องกรอบระยะเวลาในการนำไปสู่การเลือกตั้งอย่างละเอียดแล้ว จนนำมาสู่การทำประชามติ หากมีการแก้ไขหรือขยายกรอบระยะเวลาหลายครั้งก็ย่อมเป็นการทำลายความศักดิ์สิทธิ์ของรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ อีกทั้งรัฐธรรมนูญทุกฉบับที่ผ่านมาก็ได้ให้เวลาในการเตรียมการเลือกตั้งไว้แล้ว โดยรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ให้เวลาไว้แล้วถึง 150 วัน นอกจากนี้ ยังผิดต่อความต้องการของประชาชน ที่ได้ไปใช้สิทธิออกเสียงประชามติในวันที่ 7 สิงหาคม 2559 เพราะคาดหวังว่าหากเห็นชอบให้มีรัฐธรรมนูญ จะนำไปสู่การเลือกตั้งโดยเร็ว ตามที่บัญญัติไว้ให้ประชาชนได้ลงคะแนนเห็นชอบ รวมทั้ง ยังผิดในเชิงผลประโยชน์ขัดกัน ของสนช.เองโดยตรง เพราะการขยายเวลาออกไปเท่าใดก็จะส่งผลให้การดำรงตำแน่งของสนช.ยืดยาวออกไปเท่านั้น และอาจถูกกล่าวหาว่า หวังสร้างผลงานเพื่อให้พวกตนเองได้กลับมามีอำนาจในการเป็นสมาชิกวุฒิสภาผ่านการคัดเลือกของ คสช.ต่อไปได้ ประเด็นนี้อาจถูกร้องเรียนได้ทันทีและในอนาคตหากมีการดำเนินการต่อไป
นายนิกร กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน ยังผิดต่อคำสั่ง คสช. ที่ 53/2560 ข้อ 8 เนื่องจากเจตนารมณ์ของคำสั่งในข้อนี้ ต้องการให้ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้ทันทีหลังจากที่ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ดังนั้นการอ้างว่า การขยายกรอบระยะเวลาเลือกตั้งเป็นเหตุอันควรจากคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 นั้น จะยกมาอ้างไม่ได้ เนื่องจากอาจถูกมองได้ว่าประสงค์ต่อผล จึงกำหนดเหตุดังกล่าวขึ้นมาเอง โดยการสร้างเงื่อนไขให้เกิดปัญหาจนทำให้ต้องมีการขยายกรอบระยะเวลาในการเลือกตั้งออกไป
นายนิกร กล่าวด้วยว่า ตนขอเรียกร้องให้สมาชิก สนช.ช่วยกันยับยั้งการแก้ไขขยายเวลาดังกล่าว เพราะจะนำไปสู่ความเสียหายในหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นภาพลักษณ์ของ สนช.ที่อาจถูกร้องว่าร่วมกันกระทำผิดด้วย ส่วน คสช.นั้นอาจจะถูกกล่าวหาว่าสร้างเหตุขึ้นมาเพื่อประสงค์ต่อผลได้ และกรณีนี้จะนำไปสู่การผิดคำพูดของนายกรัฐมนตรี ที่ก่อนหน้านี้ได้ประกาศโรดแมปเลือกตั้งไว้แล้วว่า จะจัดให้มีการเลือกตั้งในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2561 ซึ่งหากขยายเวลาออกไปก็จะส่งผลกระทบ โดยทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนและนานาชาติที่มีต่อนายกรัฐมนตรี และจะเกิดผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจของประเทศอย่างแน่นอน กรณีนี้จะเป็นการได้ที่ไม่คุ้มเสีย จึงขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทบทวนให้ดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี