"หมวดเจี๊ยบ" อ่วมโดนฟ้องรวม 13 กระทงแล้ว คดีแรก ปอท.สรุปสำนวนความผิดยุยงปลุกปั่น ม.116 และ ม.14 พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ แล้ว ขณะวันนี้แจ้งเพิ่ม 3 คดี ความผิดเฉพาะ ม.14 ทนายเผยต้องเตรียมตัวยื่นขอประกันศาลในคดีแรก
24 ม.ค.61 เมื่อเวลา 09.40 น.ที่ผ่านมา ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง หรือหมวดเจี๊ยบ คณะทำงานสำนักเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พร้อม นายนรินทร์พงศ์ จินาภักดิ์ ทนายความ เข้าพบ พ.ต.ท.กฤช เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา รองผกก.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท.เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ภายหลังจาก พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารปฏิบัติการ ประจำกองบัญชาการกองทัพบก ปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางมาแจ้งความให้ดำเนินคดี ร.ท.หญิง สุณิสา เนื่องโพสต์ข้อความวิจารณ์รัฐบาลผ่านเฟซบุ๊ก
โดย ร.ท.หญิง สุณิสา ยืนยันว่า แม้จะถูกเจ้าหน้าที่ คสช.แจ้งความดำเนินคดีกี่ครั้งก็ตาม ตนจะใช้สิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์การใช้งบประมาณและการทำงานของรัฐบาลต่อไป แม้ว่าจะต้องถูกดำเนินคดีเพิ่ม ขณะนี้ตนเองถูกดำเนินคดีจากการแสดงความเห็นแล้ว 7 โพสต์ รวม 13 กระทง โดยมีทั้งข้อหาเป็นภัยต่อความมั่นคง ตาม ม.116 และความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งรวมแล้วอาจมีอัตราโทษสูงสุดถึง 77 ปี ซึ่งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องคืนเสรีภาพให้คนคิดต่างได้แล้ว ต้องเปิดพื้นที่ให้ประชาชนทุกภาคส่วน โดยเฉพาะคนคิดต่าง สามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องกลัวจะถูกดำเนินคดี ไม่งั้นใครจะกล้าพูดเรื่องจริง ที่สำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยอมรับเองว่า จะช้าหรือเร็ว ก็ต้องมีการเลือกตั้งอยู่ดี แล้วจะมัวรีรออะไรอยู่ ทำไมไม่รีบสร้างบรรยากาศการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อให้เกิดการระดมสมองในประเด็นสาธารณะต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมประชาชนให้มีความแข็งแรงทางความคิด รัฐบาลต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมกำหนดอนาคตของประเทศ
ทั้งนี้ รายงานข่าวว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และภริยา พร้อมด้วย นายพนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาร่วมให้กำลังใจด้วย นอกจากนี้ ยังมีตัวแทนสถานทูตจากประเทศเบลเยี่ยม , เยอรมัน และสวิตเซอร์แลนด์ มาร่วมสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนด้วย
ต่อมาเวลา 12.30 น.นายนรินทร์พงศ์ ทนายความ กล่าวว่า วันนี้ ร.ท.หญิง สุณิสา เข้าพบ พ.ต.ท.กฤษณ์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท.พนักงานสอบสวนคดีนี้ แล้วได้แจ้งข้อหา ร.ท.หญิง สุณิสา ที่โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว จำนวน 3 คดี คือ 1.คดีข้อหาความผิด ม.14 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ มีจำนวน 2 โพสต์ในเฟซบุ๊กบัญชี "สุณิสา เลิศภควัต" 2.คดีที่โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก จำนวน 1 โพสต์ และคดีที่ 3 โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก จำนวน 1 โพสต์ ซึ่งทั้ง 3 คดี พนักงานสอบสวน ปอท.แจ้งข้อหา ร.ท.หญิง สุณิสา กระทำความผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 โดยการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่ไม่มีข้อหาความผิดมาตรา 116 แต่อย่างใด
นายนรินทร์พงศ์ กล่าวอีกว่า พนักงานสอบสวนได้ก๊อปปี้ข้อความจากเฟซบุ๊กทั้งหมดของ ร.ท.หญิง สุณิสา ที่ได้โพสต์ย้อนหลังไปก่อนหน้านี้ หรือก่อนที่ฝ่ายกฏหมาย คสช.จะมาแจ้งความดำเนินคดีที่ ปอท.อย่างที่ ร.ท.หญิง สุณิสา พูดว่าเป็นการเก็บเกี่ยวเรื่องเก่าๆ มา อย่างไรก็ตาม เป็นสิทธิ์ที่พนักงานสอบสวนสามารถทำได้ แต่ก็มีนัยยะแปลกๆ ว่าทำไมไม่แจ้งรวมทั้งหมด ซึ่งมีทั้งโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กทั้งย้อนเก่าและใหม่ก็มี
ทั้งนี้ วันนี้ตกลงกับพนักงานสอบสวนแล้วว่าเป็นวันแรกที่ ร.ท.หญิง สุณิสา มารับทราบข้อกล่าวหาก่อน จะไม่มีลัดคิวนำตัวไปส่งศาลก่อนเหมือนอย่างกรณี นายวัฒนา เมืองสุข เพราะว่าอยู่ในขั้นตอนแจ้งข้อกล่าวหาเท่านั้น โดยหลังจากรับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ จะขอทำหนังสือยื่นคำให้การชี้แจงต่อพนักงานสอบสวนเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 30 วัน หลังจากนั้นจึงเข้าสู่การตอนพนักงานสอบสวน
"สำหรับคดีแรกที่ถูกแจ้งความเมื่อช่วงต้นเดือน ธ.ค.60 โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนส่งอัยการแล้ว จึงจะต้องเตรียมตัวไปศาลและยื่นขอประกันปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากไม่ได้มีเพียงข้อหาความผิด มาตรา 14 พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ เท่านั้น แต่มีข้อหาความผิดยุยงปลุกปั่น มาตรา 116 ด้วย โดยเป็นความผิดทั้งกรณีโพสต์และแชร์ข้อความ เป็นความผิดหลายกรรม ส่วนในวันนี้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาความผิดมาตรา 14 พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ แต่ไม่ได้แจ้งข้อหาความผิดมาตรา 116 แต่อย่างใด โดยพนักงานสอบสวนจะทยอยส่งฟ้องเพิ่มอีก 3 สำนวน ทำให้หมวดเจี๊ยบ ต้องไปขอประกันตัวแยกเป็นรายคดีๆ ไป ซึ่งเป็นความยุ่งยากในการปล่อยตัวชั่วคราว ตอนนี้ถือว่ายังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน ไม่ใช่ในชั้นศาลจึงยังไม่มีการห้ามออกนอกประเทศ หรือเงื่อนไขใดๆ กับ ร.ท.หญิง สุณิสา" นายนรินทร์พงศ์ กล่าว
รายงานข่าวว่า ก่อนหน้านี้ฝ่ายกฏหมาย คสช.เข้าแจ้งความต่อ ปอท.ให้ดำเนินคดี ร.ท.หญิง สุณิสา 2ครั้ง รวมข้อหากระทำผิด 6 กระทง โดยเป็นความผิดยุยงปลุกปั่น มาตรา 116 และความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ ปี 2550 มาตรา 14 (2) และในวันนี้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 3 กระทง โดยออกหมายเรียกเข้ารับทราบข้อกล่าวหาครั้งที่1 วันที่ 13 ธ.ค.60 และครั้งที่ 2 วันที่ 20 ธ.ค.60
สืบเนื่องมาจากกรณี ร.ท.หญิง สุณิสา โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊กส่วนตัว ที่ได้นำเสนอบทความ หรือโพสต์ข้อความ อันเป็นความเท็จและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และเผยแพร่ทางเฟสบุ๊กทั้ง 2 บัญชี ว่าจริงหรือไม่ที่สื่อนอกประโคมข่าวว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เตรียมไปเจรจาซื้ออาวุธเพิ่ม และปิดดีลส่งมอบแบล็คฮอว์ก 4 ลำ ที่เคยดีลค้างไว้ก่อนยึดอำนาจปี 2557 และข้อความที่ว่า "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยากให้คนไทยตกงานเพิ่มหรือไง จึงจะเปิดตลาดนำเข้าเครื่องในหมู แย่งตลาดพ่อค้าไทย"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี