‘ประยุทธ์’วอนมิตรประเทศ
ปิดปาก‘ปู-แม้ว’
อย่าปล่อยคนผิดเคลื่อนไหว
ชี้ต้องเคารพกฎหมายไทยด้วย
ศรีวราห์ชงตำรวจสากลล่าตัว
จี้พฐ.ตรวจภาพจริงหรือตัดต่อ
กต.ชี้ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย
“ประยุทธ์” ปัดตอบ“ปู-แม้ว”โผล่เย้ยกรุงปักกิ่ง กระแทกเท้าหนีหลังสื่อรุมถาม กร้าวยกศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ต้องเคารพกฎหมายไทยด้วย วอนอย่าปล่อยคนทำผิดเคลื่อนไหว เพราะฝ่ายไทยจับคนทำผิดส่งตปท.หลายรายแล้วด้าน “ศรีวราห์”ประสานอินเตอร์โพลหาพิกัด สั่งพฐ.พิสูจน์ภาพจริงหรือไม่
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานงานวันสิทธิมนุษยชนสากล
และกล่าวปาฐกถาพิเศษเพื่อประกาศ”วาระแห่งชาติ: สิทธิมนุษยชนร่วมขับเคลื่อน ไทยแลนด์4.0 เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเริ่มประชุมนายกฯ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการที่ห้องโถงตึกสันติไมตรีและได้กล่าวต่อหนึ่งว่า ขณะนี้ยังขาดความเข้าใจเรื่องสิทธิมนุษยชน ซึ่งความจริงแล้วสิทธิมนุษยชนต้องไม่ละเมิดกฎหมายและต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปสู่สังคมที่ปรองดอง แต่มี 2คนขยับอยู่ต่างประเทศ แต่กลับทำให้คนป่วนไปหมด ส่วนตัวไม่รู้ว่า มันเกิดอะไรขึ้น ขยับทีเป็นข่าวไปหมด เดือดร้อนคนทั้งประเทศ
‘บิ๊กตู่’วอนตปท.เคารพกม.ไทย
จากนั้นนายกฯได้ขึ้นกล่าวบนเวทีตอนหนึ่งว่า ‘การจะทำอะไรต้องคำนึงถึงหลักฐาน ขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม บางคนกระบวนการครบแล้ว ลงโทษไปแล้วยังเคลื่อนไหวอยู่ต่างประเทศ ซึ่งหลายประเทศเขามองในเรื่องเศรษฐกิจอย่างเดียว มองอื่นๆเป็นเรื่องภายในของแต่ละประเทศ แต่ผมคิดว่าประเทศไทยก็มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เหมือนกัน ฉะนั้นใครก็ตามที่ละเมิดกฎหมายของแต่ละประเทศมาทำผิดในประเทศไทย ผมก็ดำเนินคดี จับกุมอยู่จำนวนมากพอสมควร แล้วส่งตัวกลับไปลงโทษที่ประเทศต้นทาง ฉะนั้นทุกประเทศต้องเคารพในสิ่งเหล่านี้ด้วย อย่าให้มีการเคลื่อนไหวของคนที่ทำผิดกฎหมายของแต่ละประเทศที่เราเคารพกฎหมายคนอื่น ดังนั้นคนอื่นต้องเคารพกฎหมายเราด้วยเช่นกัน’ นายกฯ กล่าว
ตามตัว’แม้ว-ปู’จนท.ทำอยู่แล้ว
ต่อมา หลังการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธที่จะตอบข้อซักถามสื่อมวลชนกรณีความเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ ชินวัตรและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยกล่าวเพียงว่า “ผมไม่มีความเห็น เป็นเรื่องของต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เขาก็ทำกันอยู่แล้วในเรื่องการติดตามตัว ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทำทุกครั้งและกับทุกคน ได้กลับมาบ้างไม่ได้กลับมาบ้าง”
ซัดแค่กระพี้-เดินกระแทกเท้าหนี
ผู้สื่อข่าวพยายามถามว่า แต่ดูเหมือนความเคลื่อนไหวของ 2อดีตนายกฯมีความสอดคล้องกับความเคลื่อนไหวในประเทศไทยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็ผมไม่สนใจ อย่าไปสนใจเลย คุณสนใจคนทำผิดกฎหมายทำไมและเรื่องนี้ผมไม่มองอะไรทั้งสิ้น อยู่ที่พวกสื่อจะให้ความสำคัญแค่ไหน พวกคุณให้ความสำคัญกับไอ้กระพี้ก็ตามใจคุณ เมื่อถามว่า แต่วันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปปรากฎตัวที่กรุงปักกิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตัดบทด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวว่า “ไม่รู้ ไม่มีความคิดเห็นนะครับ ขอบคุณครับ” ก่อนจะเดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันที
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการสั่งการและกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบ แต่เดินกระแทกส้นเท้าเสียงดังขึ้นบันไดตึกไทยคู่ฟ้า เป็นการสกัดกั้นอารมณ์ไม่ตอบโต้กลับทันที
‘ประจิน’ชี้หน้าที่’สตช.- ดีเอสไอ’
ด้าน พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ยุติธรรม กล่าวถึงการประสานติดตามตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อกลับมาดำเนินคดี หลังปรากฏตัวพร้อม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กรุงปักกิ่ง ว่า ในส่วนกระทรวงยุติธรรม โดยกรมบังคับคดีได้ติดตามดำเนินการในส่วนของการบังคับคดีที่เกี่ยวกับทรัพย์สิน ส่วนการติดตามตัวทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นผู้ดำเนินการ ส่วนที่ทนายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองขอทุเลาการบังคับคดีอีกครั้งเพื่อให้งด หรือชะลอยึดทรัพย์จนกว่าคำพิพากษาจะถึงที่สุดนั้น กระทรวงยุติธรรมได้รับเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งเราชี้แจงไปว่า กรมบังคับคดีจะทำตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องที่ระบุถึงอำนาจหน้าที่ของกรมบังคับคดีไว้ แต่ไม่ได้หมายความว่า ตอบรับหรือปฏิเสธ เพราะเรื่องดังกล่าวมีขั้นตอนกระบวนการระบุไว้ ซึ่งเราต้องทำตามขั้นตอน
กต.แจงหน้าที่สตช.ติดตามตัว
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีปรากฏภาพ นายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่กรุงปักกิ่ง ว่า เบื้องต้นมีรายงานอย่างไม่เป็นทางการว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ปรากฏตัวที่กรุงปักกิ่ง ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนที่กระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการใดๆ เพราะตอนนี้เป็นหน้าที่ของ สตช.และไม่ทราบว่า ตอนนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถือหนังสือเดินทางประเทศใด เพียงทราบจากข่าวว่าได้หนังสือเดินทางจากประเทศใดประเทศหนึ่ง โดยวิธีการขอหนังสือเดินทางมีหลายรูปแบบ เช่น ไปทำการค้าการลงทุนกับประเทศนั้นๆ จนได้รับหนังสือรับรอง อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เราได้แจ้งทุกประเทศให้รับทราบถึงกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แล้ว จากนี้คงต้องเป็นเรื่องของแต่ละประเทศที่จะดำเนินการ ผู้สื่อข่าวถามว่า กระทรวงฯได้รับรายงานหรือไม่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ พำนักอยู่ที่ประเทศใด นายดอน กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องตรวจสอบให้เกิดความชัดเจนและพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯไม่ได้สั่งการใดๆเป็นพิเศษ เพราะไม่ถือเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย
ตร.ประสานอินเตอร์โปลหาพิกัด
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงภาพถ่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์และนายทักษิณ ที่กรุงปักกิ่ง หลังไม่มาฟังคำพิพากษาคดีทุจริตจำนำข้าวว่า ได้สั่งให้กองการต่างประเทศทำหนังสือถึงตำรวจสากล และกระทรวงการต่างประเทศของไทยตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งข้อมูลการเดินทาง สายการบิน ต้นทางและปลายทางและใช้หนังสือเดินทางของประเทศอะไร พร้อมให้สั่งการให้กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ตรวจสอบภาพถ่ายดังกล่าวว่า เป็นภาพตัดต่อหรือไม่ การติดตามตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังคงเดินหน้าต่อ โดยเฉพาะการประสานไปยังประเทศปลายทางที่ปรากฏภาพ ส่วนจะได้ข้อมูลมากน้อยเพียงใดอยู่ระหว่างดำเนินการ
กปปส.ขึ้นศาลป่วนเลือกตั้งปี57
วันเดียวกัน ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดชี้สองสถานในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหาย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับพวกรวม38คน ในนามกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ที่ขัดขวางการจัดเลือกตั้งของ กกต. เมื่อปี2557 ทำให้ กกต.จัดเลือกตั้งไม่ได้และเป็นการละเมิด เรียกค่าเสียหาย 3,100ล้านบาท
โดย นายสุเทพ พร้อมทีมทนายความ เดินทางมาศาลด้วยตัวเอง นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความ กล่าวว่า วันนี้ศาลนัดตกลงเเนวทางสืบพยานเเละตกลงกันว่า คู่ความเเต่ละฝ่ายประสงค์จะนำพยานเข้าสืบเท่าอย่างไร ตรงไหนรับกันได้บ้าง เเต่ต้องเลื่อนออกไปก่อนเนื่องจากมีจำเลยที่ 24 เสียชีวิตลงเเละพนักงานอัยการประสงค์ให้ทายาทมาร่วมเป็นจำเลยแทนและอัยการมีการฟ้องเพิ่มอีก1คน ศาลจึงมีคำสั่งเลื่อนนัดชี้สองสถานออกไปเเละนัดอีกครั้งวันที่ 21พฤษภาคมนี้
‘สุเทพ’ปัดขวาง-พร้อมสู้ถึงที่สุด
ด้าน นายสุเทพ กล่าวว่า ส่วนตัวต้องการต่อสู้คดีให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ไม่มีการยืดเยื้อเกิดขึ้น ส่วนแนวทางการต่อสู้คดีนั้น พร้อมจะต่อสู้ในชั้นศาล ยืนยันว่าตน กลุ่ม กปปส.และประชาชนทั้งหมด มีเจตนาคัดค้านการเลือกตั้ง โดยไม่ได้ขัดขวางการเลือกตั้งตามที่โจทก์กล่าวอ้าง รวมถึงมีพยานหลักฐานที่ชัดเจนว่า กรณีดังกล่าวไม่ใช่ความผิดของกลุ่ม กปปส.และประชาชน การที่ กกต.จัดการเลือกตั้งไม่สำเร็จนั้น เป็นเรื่องของรัฐบาลในขณะนั้นและกกต.ที่ต้องรับผิดชอบ ยืนยันว่า จะมาร่วมรับผิดชอบบ้านเมืองกับประชาชนโดยไม่ได้ทิ้งไปไหน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี