24 ก.พ. 61 พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี กรรมการป.ป.ท. และโฆษกบอร์ดป.ป.ท กล่าวถึงกรณีที่ป.ป.ท. ดำเนินตรวจสอบโกงงบสงเคราะห์ผู้ยากไร้การการทุจริตเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง และผู้ติดเชื้อHIVหรือโรคเอดส์ว่า ขบวนการดังกล่าว จะมีการไปสำรวจ แล้วรับรองคุณสมบัติว่า เป็นผู้ยากจน ควรได้รับการส่งเสริม โดยมีเจ้าหน้าที่ศูนย์รับรอง จากนั้น ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ก็จะอนุมัติให้มีการจ่ายเงิน เพราะว่า ได้รับมอบอำนาจ จากอธิบดีฯโดยเป็นคำสั่งที่ออกเมื่อปี 2558
ขณะนี้ตรวจสอบพบอาจจะทุจริต มีมูลเพียงพอแก่การไต่สวนความจริง ดังนั้นจึงมีการตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเพื่อพิจารณาชี้มูล ถ้าหากใครมีมูลพาดพิงถึงมีการทุจริต หรือเบียดบัง หรือละเว้น แต่ถ้าหลักฐานที่เจ้าหน้าที่เสนอมา หากพิจารณาแล้วว่า น้ำหนักเบาเกินไปหรือหลักฐานไม่เพียงพอเราก็จะไม่ชี้มูล
"ปปท.ทำหน้าที่เหมือนพนักงานสอบสวน เมื่อเราชี้มูลคือ มีความผิดคดีอาญา และส่งคดีให้อัยการฟ้องศาล ขณะเดียวกัน หากกระทำความผิดอาญา ทาง ปปท. ก็จะส่งผลแจ้งความผิดวินัยร้ายแรงไปยังหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ พนักงาน ข้าราชการคนดังกล่าว ซึ่งตามกฎหมายกำหนดว่า หน่วยงานนั้นจะต้องปฏิบัติตาม คือ พิจารณาให้ออกหรือไล่ออกเท่านั้น" พล.ต.อ.จรัมพร กล่าว
อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังไม่มีการชี้มูลความผิดรายใด ยังเป็นเพียงขั้นตอนไต่สวนฯ เนื่องจากตรวจสอบพบการกระทำความผิดจากเอกสารและพยาน ขณะนี้ยังไม่มีการกล่าวหาว่า ผู้ใดผิด แต่มีบุคคลอยู่ในข่ายต้องสงสัยทุจริต ปลอมเอกสาร โดยมีพยานบุคคล และพยานเอกสารเพียงพอที่จะตั้งอนุกรรมการไต่สวนข้อมูล
พล.ต.อ.จรัมพร กล่าวว่า ปปท.ตรวจสอบพบเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์ ผิดกฏหมายอาญามาตรา 147 มีโทษจำคุก 20 ปี ต่อคดี ส่วนมาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ที่น่าจะทำให้เกิดความเสียหายต่อแก่ผู้หนึ่งผู้ใด มีโทษจำคุก 10 ปี ส่วนกรณีพนักงานปลอมเอกสาร รับรองเอกสารอันเป็นเท็จนั้น เบื้องต้นการที่ผู้มีรายชื่อรับการสงเคราะห์นั้น ไม่ได้เซ็นชื่อเอง แต่เจ้าหน้าที่ไปเซ็นชื่อแทน จะต้องมีความผิดอาญาและผิดวินัยร้ายแรง แน่นอน
“หากเจ้าหน้าที่กระทำความผิดข้อใด ข้อหาหนึ่งตามนี้ ทางปปท. ก็จะต้องส่งผลตรวจสอบแจ้งไปยังต้นสังกัดว่า บุคคลดังกล่าว กระทำความผิดอาญา และผิดวินัยร้ายแรง ซึ่งทางหน่วยงานต้นสังกัดต้องพิจารณาได้ 2 อย่างเท่านั้น คือให้ออกหรือไล่ออกได้เท่านั้น โดยในส่วนการจ่ายเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้กำหนดว่า ให้เงินครั้งละ2,000 - 3,000 บาท แต่ไม่เกิน 3 ครั้งต่อปี ทั้งนี้แล้วแต่ดุลพินิจของ ผอ.ศูนย์ ฯ ขณะที่ในส่วนผู้ติดเชื้อเอดส์กำหนดให้เงินสงเคราะห์รายละ 2,000 บาท หากประชาชนคนใดสงสัยว่า ตนเองอาจจะถูกปลอมลายเซ็นหรือถูกเบียดบังจ่ายเงินให้ไม่เต็มตามจำนวนที่ควรได้รับจริง ก็สามารถจะส่งข้อมูลมาให้ ปปท. เพื่อจะได้ลงไปตรวจสอบต่อไป”พล.ต.อ.จรัมพร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี