ยังคงเต็มไปด้วยความเข้มข้ม สำหรับสถานการณ์การเมืองภายหลังจาก นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี แสดงท่าทีชัดเจนเรื่องการจัดตั้งพรรคการเมืองและสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า ขณะที่ล่าสุดฝ่ายผู้บัญชาการเหล่าทัพก็พากันออกมาแสดงความชัดเจนพร้อมให้การสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ แม้จะต้องผันตัวเองไปเป็นนักการเมืองก็ตาม
โดยเมื่อวันที่ 26 เมษายน พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ได้แถลงถึงเรื่องดังกล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ ถึงการดูแลสถานการณ์ทางการเมืองที่เริ่มมีความเคลื่อนไหวจากฝ่ายต่างๆ เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ว่า หน่วยงานต่างๆได้เตรียมแผนการรองรับไว้แล้ว โดยเฉพาะการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่ประกาศชุมนุมปักหลักค้างคืนใหญ่ช่วงเดือนพฤษภาคม อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานต่างๆ ก็ยึดกฎหมายและการพูดจาทำความเข้าใจเป็นหลัก
ผบ.เหล่าทัพพูดชัดพร้อมสนับสนุน“บิ๊กตู่”
เมื่อถามถึงบทบาทของกองทัพหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เริ่มแสดงท่าทีทางการเมืองชัดเจนมากขึ้น พล.อ.ธารไชยยันต์ ตอบว่า แน่นอน กองทัพก็ยังเป็นเครื่องมือของรัฐบาลอยู่แล้ว การสนับสนุนรัฐบาลเป็นหน้าที่หลักของกองทัพ
เมื่อถามย้ำว่า บทบาทของ พล.อ.ประยุทธ์ เริ่มชัดเจนในการลงเล่นการเมือง เพราะมีการดึงตัวอดีตนักการเมืองเข้ามาร่วมทำงานกับรัฐบาล กองทัพยังคงสนับสนุนอยู่หรือไม่ พล.อ.ธารไชยยันต์ กล่าวว่า เรายังสนับสนุนรัฐบาลและผู้นำรัฐบาลอยู่
ไม่สนถูกมองเป็นเครื่องมือให้นายกฯ
เมื่อถามอีกว่า กองทัพต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง จะรักษาจุดนี้ไว้อย่างไร พล.อ.ธารไชยยันต์ ตอบว่า การปฏิบัติงานของทหาร สนับสนุนงานตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งปกติจะมีแผนล่วงหน้าที่ชัดเจนอยู่แล้ว และเป็นการปฏิบัติตามแผนและนโยบายที่วางไว้ ส่วนที่ฝ่ายการเมืองมองว่า พล.อ.ประยุทธ์ ใช้กองทัพเป็นเครื่องมือในการหาเสียงนั้น คิดว่าแล้วแต่คนมอง ซึ่งปกติตั้งแต่ดำเนินการมาตนก็ทำอย่างนี้มาโดยตลอด ส่วนใครจะคิดอย่างไรเป็นเรื่องของมุมมองของแต่ละคน
“บิ๊กเจี๊ยบ”เมินให้ราคาม็อบก่อหวอดชุมนุมใหญ่
ด้าน พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์กรณีกลุ่มคนอยากเลือกตั้งประกาศชุมนุมใหญ่ในเดือนพฤษภาคมนี้ว่า ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง กองทัพมีแผนอยู่แล้ว แต่มองว่าการชุมนุมเป็นเรื่องการเรียกร้องของกลุ่มคนเดิมๆ ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนเรื่องสถานที่ รายละเอียด จำนวนคน ดังนั้นจึงยังมีเวลาในการติดตามสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้สื่อมวลชนยำเสนอข่าวว่าเป็นการชุมนุมใหญ่ เพราะจะเกิดผลกระทบต่อด้านเศรษฐกิจและด้านอื่นๆ ซึ่งการชุมนุมอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ผู้ชุมกระทำต่อเนื่องและยังอยู่ในกรอบ ตั้งแต่ก่อนเดือนเมษายน ซึ่งตนไม่ได้กังวลอะไร
“มาร์ค”ลั่นพร้อมเป็นฝ่ายค้าน
ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาให้ความเห็นถึงกระแสข่าวการใช้พลังดูดดึงอดีต ส.ส. ไปร่วมกับพรรคทหารเพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีว่า พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้เป็นพรรคการเมืองที่ต้องไปดิ้นรนจับมือกับใคร ถ้าพรรคมีความเห็นว่าจะทำงานกับใคร แล้วอุดมการณ์ไม่ตรงกัน หรือเป็นพรรคการเมืองที่จะนำพาบ้านเมืองไปผิดทิศผิดทาง พรรคประชาธิปัตย์ก็ทำหน้าที่ตรวจสอบ ไม่มีปัญหาอะไรเลย ซึ่งสิ่งนี้อาจจะเป็นความไม่เข้าใจ และเข้าใจไม่ตรงกัน เพราะว่าบางพรรคการเมืองเขาไม่สามารถที่จะอยู่เป็นฝ่ายตรวจสอบได้ แล้วก็ต้องดิ้นรนในการที่จะเข้าหาอำนาจ ดังนั้น คงมาตีความสิ่งที่ตนพูดไม่ได้หรอก เพราะว่ากรอบความคิดไม่ตรงกัน
จวกพวก“กินรวบ-ข่มขู่”มาจากเลือกตั้งก็เท่านั้น
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า คำว่า “เสรีนิยมประชาธิปไตย” มาจากคำว่า “Liberal Democracy” และความหมายที่สำคัญ คือ ใครที่เคยอ้างประชาธิปไตย แต่ไม่เสรีนิยม ก็คือพอมีอำนาจแล้วนึกว่าตัวเองทำอะไรก็ได้ เสรีนิยมนี้จะเป็นตัวกำกับว่าคนที่เป็น แม้จะมาจากกระบวนการการเลือกตั้งที่เป็นประชาธิปไตย ก็ต้องมีอำนาจในขอบเขต มีขอบเขตของอำนาจที่จำกัด ไม่อย่างนั้นแล้วมันจะไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของคนอื่น เพราะฉะนั้นใครที่ทำการเมืองมาจากการเลือกตั้ง แต่กินรวบ รวบอำนาจ แทรกแซงองค์กรอิสระ ไม่ยอมรับการตรวจสอบ บริหารบ้านเมืองก็มีการไปข่มขู่คน บอกว่าใครไม่เลือกก็ไม่ทำงานให้ อย่างนี้ไม่เป็นเสรีประชาธิปไตย
ลั่นไม่เอาเผด็จการทุกรูปแบบ
“ผมไม่กังวลว่า เสรีนิยม หรือเสรีเฉยๆ ผมกังวลพวกที่ไม่เสรีนิยมนี่แหละ ตัวหลักก็คือปัญหาของระบอบประชาธิปไตยของไทย คือ การเจอภัยคุกคามจากทั้ง 2 ด้าน นั่นก็คือเผด็จการในรูปแบบเดิมๆ แล้วก็เผชิญกับรูปแบบของเผด็จการที่มาจากการเลือกตั้งก็ได้ ผู้ก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ตอนที่เขาประกาศอุดมการณ์ เขาถึงบอกว่า เขาไม่เอาเผด็จการทุกรูปแบบ เพราะเขารู้ว่ามันมีบางรูปแบบซ่อนมากับกระบวนการของประชาธิปไตยได้" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
“แจ๊ค”ปัดใส่ไฟบิ๊กตู่ปม4หมื่นล้าน
ด้าน นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีออกมาแฉเรื่องการทุ่มเงิน 4 หมื่นล้านตั้งพรรคทหารว่า ไม่มีเจตนากล่าวหา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. แต่ประการใด เพียงได้ข่าวมาว่า ประการใดก็แจ้งให้รัฐบาลและประชาชนได้รู้ ส่วนจะมีจริงขนาดไหนหรือไม่ หรือใครไปแอบอ้างก็เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงกันต่อไป ท่านจำได้หรือไม่ปีก่อนโน้น เคยบอกว่า มีทหารจะตั้งพรรค เขาก็ปฏิเสธว่า ไม่จริง แล้ววันนี้จริงหรือไม่
โวศิษย์มีครูไม่กลัวโดนฟ้อง
“ผมพูดแค่นี้พลเอกประยุทธ์ ก็โกรธและสั่งฝ่ายกฎหมายให้เล่นงานผม ผมก็ศิษย์มีครู ลูกรามคำแหงไม่เคยกลัวใคร ท่านควรเปิดใจรับฟังเสียงสะท้อน และคำวิพากษ์วิจารณ์ อย่าเลือกฟังแต่สิ่งที่ถูกใจเพียงอย่างเดียว ท่านเป็นบุคคลสาธารณะเป็นผู้นำของประเทศเราทุกคน ผมต้องการให้ คสช. ลงจากหลังเสืออย่างสง่างาม ให้พลเอกประยุทธ์รู้จักคำว่า "ผมพอแล้ว" อย่างเช่นพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ไม่อยากเห็นเป็นอย่างอื่น” นายวัชระ กล่าว
กกต.รับรองการจดแจ้งแล้ว31พรรค
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รักษาการเลขาธิการ กกต. ในฐานะรักษาการนายทะเบียนพรรคการเมือง เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการจดแจ้งจัดตั้งพรรคการเมืองว่า ขณะนี้มีการยื่นจดแจ้งจัดตั้งพรรคการเมืองกับ กกต.แล้ว 99 พรรค กกต.รับรองแล้ว 31 พรรค และมี 9 พรรคที่ คสช.อนุญาตให้จัดประชุมใหญ่ได้ รวมทั้งมี 2 พรรคที่ยื่นขอจดทะเบียนเป็นพรรคการเมือง คือ พรรคทางเลือกใหม่ และพรรคมติประชา โดยต้องรอการตรวจสอบคุณสมบัติให้ครบถ้วน หากไม่มีปัญหาก็จะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้เป็นพรรคการเมืองต่อไป
+++++++++++++++++++
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี