ลูก‘ชัช’สารภาพทิง‘ปชป.’
ตั้งพรรคพร้อมจับมือทหาร
วาดะห์ยัน‘วันนอร์’ลาเพื่อไทย
เปิดพรรคใหม่เน้นถิ่นมุสลิม
พท.ชี้ชิ่งหนีต้องได้บทเรียน
“ชื่นชอบ”บุตรชายหัวแก้วหัวแหวน “ชัช เตาปูน”แจงเหตุผลลาออกจากประชาธิปัตย์เพื่อช่วยงานพ่อ ไม่เกี่ยวกระแส คสช.ดูดนักการเมือง เชื่อ “พลังท้องถิ่นไท” ตั้งรัฐบาลเองได้ ไม่ปิดโอกาสร่วมงานพรรคทหาร ในขณะที่กลุ่มวาดะห์ โบกมือลาบ้านเก่า ชู“วันนอร์” จัดตั้งพรรคใหม่เน้นลุยถิ่นมุสลิม ส่วนเพื่อไทยสาปส่งอดีตสส.ที่ตีจากต้องได้รับบทเรียน โดนพิพากษาจากประชาชน
นายชื่นชอบ คงอุดม อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ลูกชายนายชัชวาลย์ คงอุดม หรือ “ชัช เตาปูน” ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 29เมษายน ถึงเหตุผลการออกจากการเป็นสมาชิกพรรคปชป.ว่า ต้องการไปทำงานกับพรรคพลังท้องถิ่นไท ซึ่งพ่อของตนเป็นประธานที่ปรึกษาพรรค โดยหลังตัดสินใจไม่ยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคปชป. ตนได้พูดคุยกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป.เพื่อชี้แจงเหตุผลทั้งหมด ถือว่าเป็นการจากกันด้วยดี ไม่มีปัญหาหรือรอยร้าวใดๆ และยังสามารถร่วมงานกันได้ในอนาคต เพราะมีนโยบายเหมือนกันคือทำเพื่อประเทศชาติและไม่เอาเผด็จการ
‘ชื่นชอบ’ปัดข่าวโดน’คสช.’ดูด
“การได้ร่วมงานกับพรรคปชป.มาตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง ซึ่งพรรคปชป.เป็นพรรคที่ดี มีทัศนคติที่ดี ส่วนพรรคพลังท้องถิ่นไท มีนโนบายสำคัญคือการปราบปรามการทุจริต การกระจายอำนาจ เน้นปรับสมดุลระบบการทำงานของประเทศ และเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่แท้จริงและเบื่อการเมืองแบบเก่าได้ทำงาน และการออกจากพรรค ปชป.ในช่วงที่มีกระแสคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ดูดนักการเมือง อยากให้มองว่าการตัดสินใจของตนเป็นไปตามกฎหมาย ไม่เกี่ยวกับเรื่องดูดนักการเมืองของคสช. และก็ไม่มีพรรคอื่นมาทาบทาม ซึ่งตนก็ไม่สนใจ เพราะมีแนวทางชัดเจน”นายชื่นชอบ
พร้อมทำงานกับทุกพรรค
กล่าวและว่า คสช.ในปัจจุบันก็ชูนโยบายเรื่องการปราบปรามการทุจริต ซึ่งตรงกับพรรคพลังท้องถิ่นไท หากในอนาคตคสช.ตั้งพรรคการเมืองจะร่วมงานกันได้หรือไม่ นายชื่นชอบ มองว่าขณะนี้ยังไม่มีการเลือกตั้ง จึงยังไม่รู้นโยบายของแต่ละพรรค หากมีนโยบายเดียวกัน ก็ทำงานร่วมกันได้ทุกพรรค แต่มั่นใจพรรคพลังท้องถิ่นไทสามารถเป็นรัฐบาลเองได้
“แม้จะดูเป็นพรรคค่อนข้างใหม่ หากย้อนไปสมัยพรรคไทยรักไทย ตอนนั้นก็ไม่มีคนรู้จักมาก่อน แต่ก็มาเป็นรัฐบาลได้ การเลือกตั้งกำหนดไม่ได้อยู่ที่ประชาชนจะเลือกใคร ขอย้ำว่า พรรคพลังท้องถิ่นไทเป็นพรรคทางออก ไม่ใช่ทางเลือก ไม่ต้องรอจับมือใครเพื่อให้ได้เป็นรัฐบาล”นายชื่นชอบ กล่าว
พรรค’เสี่ยติ่ง’ประชุมนัดแรก
ที่โรงแรมมิราเคิลแกรน นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำผู้จัดตั้งพรรคพลังพลเมืองไทย (พพพ.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมใหญ่ พรรค พพพ. ว่า วันนี้สมาชิกเราเกินกว่า 500 คนแล้ว เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด วันนี้ก็คึกคักพอสมควร ทั้งนี้ วันนี้จะเป็นการรับรองข้อบังคับพรรค นโยบายพรรคซึ่งต้องยึดโยงกับยุทธศาสตร์ 20 ปีที่รัฐบาลกำหนด และที่สำคัญคือเลือกคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งวันนี้ดูแล้ว สมาชิกอยากให้ตั้งให้ครบเลยทั้ง 35 ตำแหน่ง ทั้งนี้ นโยบายหลักของพรรคมีทั้งหมด 3 ประการ คือ 1.ต้องเทิดทูนสถาบันของชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์ 2.พยายามสร้างความปรองดอง และความสามัคคีของคนในชาติ และ 3.การลดความเหลื่อมล้ำของคนไทย
เมื่อถามว่า พรรคจะไม่ประกาศว่าเป็นพรรคของขั้วรัฐบาลเก่า หรือขั้วรัฐบาลใหม่ใช่หรือไม่ นายสัมพันธ์ กล่าวว่า เป็นของพี่น้องประชาชนทุกคนที่มารวมกันวันนี้ ดังนั้น เราจะไม่ยึดโยงว่ากลุ่มใด พรรคใดที่จะเข้ามาบริหาร หลังจากเลือกตั้ง หรือใกล้เลือกตั้งแล้วเราค่อยมาหาข้อสสรุปกัน ทั้งนี้ พรรคเราคงไม่ขนาดได้ส.ส.เป็นอันดับ 1 อยู่ แล้ว เราต้องการส.ส.ที่พอจะเสนอกฎหมายได้ก็พอใจแล้ว
เสนอนายกฯตามรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามถึงจุดยืนในการเสนอชื่อนายกฯ นายสัมพันธ์ กล่าวว่า อย่างที่บอก เป็นคนดี มีคุณธรรม เห็นแก่ประเทศชาติเป็นหลัก ดูแลความเหลื่อมล้ำของประชาชนทั่วไป ซึ่งเราไม่ปฏิเสธหากจะมีการเสนอใครขึ้นมาเป็นนายกฯ ใครมีสิทธิตามธรรมนูญก็เป็นนายกฯได้ หากมีเสียงข้างมากในสภาฯคนนั้นก็เป็น ซึ่งพรรคเราก็อาจมีส่วนเป็นทั้งเสียงข้างมาก หรือเป็นส่วนหนึ่งในเสียงข้างน้อยก็ได้ในสภาฯ แต่ถามถึงความจริงใจ และความจริงจังในการทำงานของเราอยากเป็นฝ่ายตรวจสอบมากกว่า
เมื่อถามว่าพรรคพลังพลเมืองไทย มีจุดยืนที่จะสนับสนุนหัวหน้าพรรคเป็นนายกฯ เหมือนกับหลายพรรคหรือไม่ นายสัมพันธ์ กล่าวว่า ต้องรอดูเสียงก่อน ว่าเราจะส่งได้แค่ไหน ทั้งนี้ เนื่องจากกฎหมายพรรคการเมือง และกฏหมายเลือกตั้งมีความเข้มข้นกว่าที่ผ่านมาโอกาสที่จะส่งผู้สมัครได้ครบต้องยอมรับว่าเป็นปัญหาโดยเฉพาะเรื่องไพรมารี่โหวต ดังนั้น จึงยังไม่กล้าพูดว่าจะส่งเท่าไหร่ แต่จะส่งให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
ไม่ซีเรียสเรื่องข่าวพลังดูด
เมื่อถามถึงพลังการดูดนักการเมือง นายสัมพันธ์ กล่าวว่า ตนมองว่าเป็นเรื่องปกติ เหมือนที่นายกฯ บอกว่ามีมาหลายสมัยแล้ว ตนเคยทำพรรคการเมืองมาหลายพรรค ช่วงที่ทำพรรคสามัคคีธรรมก็มีคนมาเชิญชวน แต่สมัยนั้นเขาคงไม่เรียกว่าดูด แต่อาจจะเรียกว่ามาเชิญชวน ตนฟังดูก็เป็นเรื่องที่สนุกสนาน ไม่ได้ซีเรียสอะไร เป็นเรื่องปกตอของคนที่ทำพรรค ที่จะต้องดึงคนที่มีโอกาสเป็น ส.ส.เข้ามาในพรรคเพื่อให้ได้ ส.ส.มากที่สุด ซึ่งพรรคเราก็คงต้องดึงเหมือนกัน แต่ไม่อยากใช้คำว่าดูด
ทั้งนี้ ก็ต้องเชิญชวน ทั้งนี้ มองว่า ด้วยกฎหมายใหม่มองว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงโยกย้ายไม่เกิน 5% ถือว่าน้อย เพราะส.ส.ทุกคนที่ตนรู้จักมีอุดมการณ์ คนที่จะเปลี่ยนแปลงย้ายพรรคนั้นตนมองว่ามีความจำเป็นเท่านั้นเอง เพราะหากไม่มีความจำเป็นเขาก็ต้องอยู่ที่เดิม
พท.รอให้ประชาชนพิพากษา
นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย(พท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หัวข้อให้เกียรติประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจปกครองประเทศบ้าง โดยระบุว่า “ขณะนี้มีการจับจ้องกันเป็นพิเศษว่าอดีตส.ส. ของแต่ละพรรคใครยืนยันหรือไม่ยืนยันจะอยู่กับพรรคเดิมหรือไม่ เมื่อพ้นวันที่ 30 เมษายน แล้วถ้าไม่ยืนยันก็ถือว่าขาดจากการเป็นสมาชิกพรรคเดิมโดยไม่จำเป็นต้องยื่นหนังสือลาออกอย่างที่บางคนทำ(แก้เกี้ยว)
ดีเหมือนกันครับ จะได้รู้ได้เห็นว่าใครเป็นใคร มีที่มาที่ไปมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างไร ใครเข้ามาในการเมืองเพื่อประโยชน์ของประชาชน หรือเพื่อประโยชน์ตนมากกว่าถึงวันเลือกตั้ง ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจการปกครองประเทศที่แท้จริงจะเป็นผู้พิพากษาว่านักการเมืองคนไหน พรรคไหนที่เขาควรมอบความไว้วางใจให้ ใครควรถูกเขี่ยออกจากเวทีการเมืองดังนั้น จะเคลื่อนไหวหรือจะทำอะไรก็ขอให้เกียรติประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจการปกครองประเทศกันบ้างครับ
ชี้พลังดูดขัดหลักประชาธิปไตย
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ระบุการดูดอดีต ส.ส. เป็นครรลองของประชาธิปไตยแบบไทยที่มีมานานก่อนยุคคสช.ว่า การดูดส.ส.ไม่ใช่ครรลองของประชาธิปไตยแบบไทย แต่อาจเป็นการใช้ทุกสรรพกำลังอำนาจที่มีอยู่แต่เพียงผู้เดียว กดดัน บีบบังคับ ให้นักการเมืองยอมศิโรราบเข้าให้การสนับสนุนด้วยสารพัดข้อต่อรองหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจเข้ามาโดยกปปส.และเครือข่ายสร้างเงื่อนไขหาเหตุต้องปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง จนคนกวักมือเรียกให้ทหารมาปฏิวัติทุกวันนี้ยังทะเลาะกันไม่เลิก ผ่านไป 4 ปี ปฏิรูปยังไง ย้อนยุคกลับไปเป็นการเมืองโบราณ ไม่สร้างสรรค์ พูดกลับไปกลับมา แม้ประชาชนพยายามจะเชื่อ แต่ก็ไม่รู้จะเลือกเชื่อท่อนไหน
ปชป.ซัดขัดเจตนารมณ์รธน.
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าว
ว่า นายกฯ ประกาศอยู่ตลอดเวลาว่าอยากเห็นการเมืองไทยพัฒนาดีขึ้น อยากเห็นการเมืองแบบใหม่ที่ประชาชนมีส่วนร่วม อยากเห็นการเมืองที่มีธรรมาภิบาล เคารพหลักนิติรัฐ นิติธรรม แต่สิ่งที่ท่านนายกฯ และคนในรัฐบาลกำลังทำอยู่ขณะนี้ด้วยการดูด ส.ส. เพื่อสืบทอดอำนาจไม่ใช่การเมืองแบบใหม่ อย่างที่ท่านนายกฯ เคยพูดไว้อย่างแน่นอน แต่เป็นการเมืองแบบเก่าย้อนยุคเหมือนในอดีตที่ทหารยึดอำนาจด้วยการปฏิวัติรัฐประหารแล้วต้องการสืบทอดอำนาจก่อตั้งพรรคการเมืองดูด ส.ส.มาหนุนตนเองให้เป็นใหญ่ต่อไป และจะกลายเป็นปมปัญหาต่อการพัฒนาระบบประชาธิปไตย และขยายปัญหาให้เพิ่มขึ้นต่อไปในอนาคตอีกด้วย
‘วาดะห์’จัดตั้งพรรคใหม่เอง
นายซูการ์โน มะทา หนึ่งในแกนนำผู้ขอจดจัดตั้งพรรคประชาชาติ ของกลุ่มวาดะห์ กล่าวถึงกระแสดูดเข้าร่วมกับพรรค คสช.ว่า กลุ่มวาดะห์ถูกกดดันก่อนใครเพื่อนเสียอีก มีการนำจุดตรวจจุดสกัดมาตั้งหน้าบ้าน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา และนายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ซึ่งตอนนี้ก็ยังมีอยู่ แต่จากการทำแบบสำรวจความคิดเห็นในทุกๆด้าน ประชาชนในพื้นที่เห็นว่า กลุ่มวาดะห์ควรรวมตัวกัน เพื่อตั้งพรรคตามที่รัฐธรรมนูญเปิดโอกาสไว้ เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาทั้งความมั่นคงและเศรษฐกิจอย่างเบ็ดเสร็จ อีกทั้งกลุ่มวาดะห์และคนภาคใต้ ต่างก็สนับสนุนประชาธิปไตย ไม่เอาเผด็จการ เชื่อมั่นระบอบรัฐสภาในการแก้ปัญหา
นายซูการ์โนกล่าวอีกว่า ส่วนการประชุมครั้งแรกของพรรคประชาชาติ ยังต้องรอ คสช.อนุมัติ โดยกลุ่มวาดะห์ทุกคนจะมาอยู่กับพรรคประชาชาติ เช่นเดียวกับนายวันมูหะมัดนอร์ ที่จะเป็นคีย์แมนของพรรคเรา นอกจากนี้ ก็จะมีการสนับสนุนคนรุ่นใหม่ที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นด้วย ส่วนยุทธศาสตร์การส่งผู้สมัคร ส.ส.นั้น เนื่องจากข้อจำกัดที่เป็นพรรคเล็ก คงจะส่งไม่ครบ 350 เขต แต่ก็จะพยายามส่งให้ได้มากที่สุด ไม่ใช่แค่เฉพาะพื้นที่ภาคใต้ หรือพื้นที่ที่ชาวมุสลิมอาศัยอยู่ เพราะประชาชาติ หมายถึงมวลมนุษยชาติ รวมถึงคนทุกศาสนิก ใครที่มีแนวคิดหรือประสบปัญหาเดียวกันสามารถมารวมกันได้หมด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี