15 พ.ค.61 ที่กระทรวงมหาดไทย มีการประชุมมอบแนวทางการลงพื้นที่ ครั้งที่ 4 ของทีมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ระดับตำบล/ชุมชน ผ่านระบบวีดีทัศน์ทางไกล (Video Conference) ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง อาทิ นายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย , นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัด มท. , นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม รองปลัด มท. , ร.ต.ท. อาทิตย์ บุญญะโสภัต อธิบดีกรมการปกครอง รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า กล่าวว่าโครงการไทยนิยมฯ ได้มีการลงพื้นที่ไปแล้ว 3 ครั้ง โดยจะเริ่มครั้งที่ 4 วันที่ 16 พ.ค.นี้ ที่ผ่านมาได้มีการรับทราบปัญหาความต้องการของประชาชน และขณะนี้อยู่ในช่วงของการจัดทำแผนงาน/โครงการ ให้ตรงกับความต้องการของประชาชน เพื่อพัฒนาอาชีพ ยกระดับรายได้ของประชาชนให้เพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญของโครงการ อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ดังนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ จะต้องพิจารณาคัดกรองโครงการให้เหมาะสม เช่น หากเป็นโครงการประเภทโครงสร้างพื้นฐาน ควรเป็นโครงการที่สามารถสร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากหรือเชื่อมโยงส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมถึงคำนึงการมีส่วนร่วม โดยให้เชิญภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการกลั่นกรองเสนอแนะ ให้ความเห็นในการจัดทำโครงการ
"ผมขอเน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ดำเนินการจัดทำแผนงาน โครงการตามความต้องการของประชาชนที่เน้นการสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้นโดยการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ และต้องดำเนินการทุกอย่างด้วยความโปร่งใส" รมว.มหาดไทย กล่าว
ด้าน นายบุญธรรม รองปลัด มท.กล่าวสรุปผลจากการลงพื้นที่ทั้ง 3 ครั้ง ว่า ทำให้รับทราบปัญหาความต้องการของประชาชนจำนวน 726,784 รายการ ปัจจุบันการลงพื้นที่ ครั้งที่ 3 ดำเนินการเสร็จแล้วกว่า 95% สำหรับการลงพื้นที่ ครั้งที่ 4 ของทีมขับเคลื่อนฯระดับตำบล/ชุมชน ขอให้เพิ่มเติมประเด็นในการลงพื้นที่ ได้แก่ 1.ให้นำข้อมูลมาตรการเกี่ยวกับการส่งเสริมการปลูกข้าว
คุณภาพดีและมาตรการช่วยเหลือชาวนาอื่นๆ ของรัฐบาล เช่น การลดต้นทุนการผลิตไปประชาสัมพันธ์ และ 2.ให้ตอบแบบสอบถามความเข้มแข็งและศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน และตำบล
ตามแบบที่สำนักงานรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกำหนด เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์เชิงพื้นที่ (Area Based) ในด้านต่างๆ เพื่อให้รับทราบจุดเด่น จุดด้อย ศักยภาพ แต่ละหมู่บ้าน/ชุมชน ตำบล รวมทั้งหาแนวทางในการช่วยเหลือประชาชนตามลำดับความสำคัญของปัญหาหรือความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อเป็นฐานข้อมูลต่อไป
ขณะที่ ร.ต.ท.อาทิตย์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า ในการพิจารณาคัดกรองโครงการหมู่บ้าน/ชุมชนละ 200,000 บาท ให้นายอำเภอร่วมกับภาคประชาสังคม ภาคการศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) พิจารณาโครงการให้เกิดการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนอย่างแท้จริงและให้มีผู้ประสานงานระดับอำเภอเพื่อเพิ่มความรวดเร็ว โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และปลัดจังหวัดกำกับดูแลด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี