17 พ.ค.61 นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงการครบรอบ 4 ปีของการยึดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ว่า ตนให้คะแนนการบริหารประเทศของ คสช.ในโอกาสที่จะครบรอบ 4 ปี วันที่ 22 พฤษภาคมนี้ เป็น 2 ระยะคือ ระยะแรกให้ 7 จาก 10 คะแนน เพราะมีความตั้งใจแก้ปัญหาและไม่มีส่วนได้เสีย แต่ระยะกลางจนถึงปัจจุบันให้คะแนนติดลบ เนื่องจากเห็นชัดเจนว่าต้องการสืบทอดอำนาจ กลายเป็นคู่ความขัดแย้งเสียเอง ขณะที่งานปฏิรูปประเทศแม้จะมีความตั้งใจ แต่ก็ยังไม่เห็นรูปธรรมนอกจากแผนงาน
อีกทั้งการวางยุทธศาสตร์ปฏิรูปประเทศประชาชนก็ขาดการมีส่วนร่วม ส่วนใหญ่เป็นความคิดของผู้มีอำนาจรัฏฐาธิปัตย์เพียงฝ่ายเดียว และการร่างรัฐธรรมนูญก็ออกแบบเพื่อคงอำนาจของตัวเอง เช่น การให้มีส.ว. จากการแต่งตั้งมาเลือกนายกรัฐมนตรี รวมถึงการเปิดช่องให้คนนอกเป็นนายกรัฐมนตรีด้วย
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ก็ขาดความเข้าใจและมีความสับสนเกี่ยวกับงานปฏิรูป เห็นได้จากล่าสุดที่ออกมาอธิบายถึงผลการทำงาน 4 ปีของตัวเองว่าเป็นการปฏิรูป เช่น เรื่องรถไฟรางคู่ ทั้งๆที่เป็นการปฏิบัติราชการปกติ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนก็ต้องทำ เพียงแต่หลายเรื่องรัฐบาลนี้ทำได้เร็ว เนื่องจากปกครองแบบเผด็จการ
“ในโอกาสที่จะครบรอบ 4 ปีของการบริหารประเทศ ก็อยากให้ คสช.ทบทวนตัวเอง อย่าเข้ามาเป็นคู่ขัดแย้งใหม่ และเริ่มให้ความจริงทำความเข้าใจกับประชาชนถึงปัญหาที่เป็นชนวนความขัดแย้ง เช่น ความยุติธรรม 2 มาตรฐาน ความเข้าใจผิดต่อประชาธิปไตยที่ถูกเบี่ยงเบนไป เพราะหากไม่ปลดชนวนความขัดแย้งเหล่านี้ โดยให้ความจริงกับประชาชนแล้ว ก็จะถูกนำมาปลูกปั่นจนเกิดปัญหาอีก กระทั่งในที่สุดเราอาจจะเปลี่ยนผ่านจากเผด็จการทหารไปสู่เผด็จการพลเรือนอีกครั้ง” นายนิพิฏฐ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี