5 มิ.ย.61 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงความคืบหน้ากรณีประสานประเทศเยอรมนี เพื่อขอนำตัวอดีตพระพรหมเมธี ผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัด และการแก้ปัญหาวิกฤติของพระสงฆ์ในประเทศไทย ว่า พระพุทธศาสนาของไทย คำสอนของพระพุทธเจ้าบิดเบือนไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเป็นคำสอนที่สามารถพิสูจน์ได้มา 2,500 กว่าปีแล้ว มีความเป็นจริง เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะผิดหรือถูกนั้นอยู่ที่คนรวมทั้งพุทธศาสนิกชนและพระสงฆ์ด้วย ทั้งสองฝ่ายต้องยอมรับนับถือซึ่งกันและกัน กติกาที่เกี่ยวข้องซึ่งพระสงฆ์ก็มี พ.ร.บ.สงฆ์และกฎหมายทั่วไปที่ต้องยึดถือทั้งสองแบบ เพราะฉะนั้นวันนี้ถือเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม จะทำถูกหรือทำผิดก็เป็นเรื่องการกระทำผิดของบุคคล ของพระ และผู้ที่นับถือศาสนาต้องแยกแยะออกจากกัน
“การที่รัฐบาลทำแบบนี้ เพราะมีเรื่องร้องเรียนเข้ามาจำนวนมากในเรื่องเหล่านี้ รวมไปถึงเรื่องของปัญหาเงินทอนวัด ซึ่งต้องพิสูจน์กันในทางคดีความ และกฎหมายต่างๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ให้สิทธิกับทุกคน และไม่ใช่หนีออกไปต่างประเทศ ไม่ยอมรับกฎหมาย มันไม่ได้ แล้วจะมาบอกว่ารัฐบาลทำลายพระพุทธศาสนายิ่งไม่ใช่ เราจะต้องช่วยกันทำให้เกิดการยอมรับจากทุกหมู่และทุกฝ่ายในการนับถือพระสงฆ์ และพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนา” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เราได้รับความร่วมมือจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) มหาเถรสมาคม (มส.) ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทุกคนก็ต้องมีข้อมูลเพื่อประสานการทำงานร่วมกัน และหารือว่าจะดำเนินการกันอย่างไรต่อไป ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน
“และการที่ผมออกมาขอโทษในการกระทำของเจ้าหน้าที่ที่เข้าจับกุมพระสงฆ์นั้น ไม่ใช่ขอโทษว่าเพราะเป็นใคร แต่ขอโทษเพราะบุคคลนั้นแต่งสงฆ์ การดำเนินการต่างๆจำเป็นต้องเหมาะสมต่อผู้ที่แต่งสงฆ์ ต้องเคารพผ้าเหลือง และเคารพพระสงฆ์ที่ยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ต้องดูแลให้ถูกต้อง ในการทำอะไรก็ตาม วันนี้ก็มีการลงโทษกันแล้ว และอยากจะขอร้องสื่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้อย่าไปตีข่าวครึกโครมจนกระทั่งกลายเป็นว่าเรากำลังรังแกพระสงฆ์ เหมือนกับเป็นคดีการเมือง แล้วเราก็จะไม่ได้คนที่หนีไปกลับมาสักที ไปลี้ภัยบ้าง อะไรบ้าง เป็นปัญหาที่มันไม่ง่ายนักที่จะเอาคนกลับมาลงโทษ” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวด้วยว่า เพราะฉะนั้นเราต้องช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้ทุกคนยอมรับกติกา กฎหมายของประเทศซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ดังนั้นเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องของศาสนา เป็นเรื่องของคน เป็นเรื่องของพระที่ทำถูกต้องหรือไม่ถูกต้องก็ต้องพิสูจน์กันมา ตนไม่อยากให้ทุกอย่างเป็นคดีการเมืองไปเสียทั้งหมด เสร็จแล้วก็เป็นเรื่องยาก ทั้งเรื่องการหารือส่งตัวกลายเป็นปัญหาทั้งหมด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี