“สุวพันธุ์”ให้กำลังใจคณะสงฆ์ อย่ากังวลสถานการณ์ปัจจุบัน ขอทำทุกอย่างตามเจตนาญาติโยมดีที่สุด ย้ำรัฐบาลไม่เคยคิดร้ายพระพุทธศาสนา วอนอย่าเชื่อบางกลุ่มที่พยายามบิดเบือน
12 มิ.ย. 61 ที่สถาบันราชภัฏนครสวรรค์ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาของพระสงฆ์ในปัจจุบัน โดยเฉพาะในเรื่องของเงินทอนวัดว่า ในการเดินทางมาประชุม ครม. สัญจร ที่สถาบันราชภัฏนครสวรรค์ครั้งนี้
"ผมได้มีโอกาสเข้ากราบนมัสการ พระราชมงคลโสภณ เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์(ธ) วัดแสงธรรมสุทธาราม อ.ชุมแสง และพระเทพปริยัติเมธี เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ อ.เมือง ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่ได้มา กราบท่านเจ้าคณะจังหวัดทั้ง 2 ท่าน และได้สนทนาธรรมกัน ซึ่งเจ้าคณะจังหวัดทั้ง 2 ท่าน มีความเป็นห่วงสถานการณ์ของคณะสงฆ์ในปัจจุบัน ผมจึงได้เรียนถวายข้อเท็จจริงให้ท่านได้มีความเข้าใจว่า รัฐบาลตั้งใจแน่วแน่ในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ไม่มีเจตนาร้ายต่อพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์อย่างที่บางคนบางกลุ่มกำลังสร้างความเข้าใจผิด การแก้ไขปัญหา การตรวจสอบ ยึดหลักทำทุกอย่างไปตามข้อเท็จจริง กฎหมาย และหลักพระธรรมวินัย ไม่มีอคติใดๆ เพื่อให้การใช้งบประมาณของรัฐที่จัดสรรไปถึงวัดเป็นไปอย่างสุจริต ถึงวัดอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย และได้ใช้ประโยชน์ในกิจการทางศาสนาสมดั่งความตั้งใจของทุกฝ่าย ขออย่าได้กังวลใจ หากมีการตรวจสอบที่เกี่ยวข้องก็ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ไปตามข้อเท็จจริง" รมต.ประจำสำนักฯ กล่าว
นายสุวพันธุ์ กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องการจัดทำรายการทางการเงิน บัญชีการเงินของวัดและของส่วนตัว ก็เช่นกันมีบางคนบางกลุ่มพยายามสร้างความเข้าใจผิด ก็ได้เรียนคณะสงฆ์ไปว่า ฝ่ายราชการไม่ได้มีเจตนาไม่ดี แต่ตั้งใจทำให้เกิดการดำเนินการในทางที่เหมาะสม สอดคล้องกับพระธรรมวินัย กฎมหาเถรสมาคม และเป็นที่ยอมรับของสังคม ทางญาติโยมมาทำบุญถวายปัจจัย เขาประสงค์อย่างไร คณะสงฆ์ก็ทำบัญชีให้ตรงตามที่ญาติโยมประสงค์ ก็จะเป็นการดีที่สุดต่อทุกสิ่งอย่าง วัดใดทำอยู่แล้ว เป็นตัวอย่างที่ดีก็จะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ใช้เป็นตัวอย่างช่วยกันทำต่อไป อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปจากภายในด้วย
“การมาเยี่ยมคณะสงฆ์จังหวัดนครสวรรค์ เป็นโอกาสดีที่ได้มาให้กำลังใจพระเถรานุเถระทั้งหลาย มาหารือแลกเปลี่ยนความคืบหน้าเรื่องการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงจากภายใน การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการวัด รวมทั้งเรื่องการเงินการบัญชีของวัดและของคณะสงฆ์ โดยรัฐบาลจะสนับสนุนการดำเนินการของคณะสงฆ์ต่อไป”
นายสุวพันธุ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้พบกับท่านเจ้าคณะอำเภอทั้ง 15 อำเภอ พร้อมด้วยคณะสงฆ์จังหวัดนครสวรรค์ ที่พุทธอุทยานจังหวัดนครสวรรค์ด้วย โดยพระสังฆาธิการ เจ้าคณะอำเภอและคณะสงฆ์ 15 อำเภอของ จ.นครสวรรค์ พร้อมด้วยหน่วยอบรมประชาชนตำบล (อปต.) นำโดยคณะสงฆ์ ชุมชน และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันจัดนิทรรศการนำเสนอผลการดำเนินงานโครงการ วัด ประชา รัฐ สร้างสุข และโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่ดี เป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างคณะสงฆ์ คนในพื้นที่และส่วนราชการให้มีความใกล้ชิดกันมากขึ้น ช่วยกล่อมเกลาจิตใจของสาธุชน เด็ก และเยาวชนให้เป็นคนดี น้อมนำพระธรรมเป็นเครื่องนำพาชีวิต
"การเยี่ยมคณะสงฆ์ครั้งนี้ทำให้พบว่า การดำเนินงานนำโดยคณะสงฆ์จังหวัดนครสวรรค์ทำได้ครบทั้ง 15 อำเภอ มีกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น กิจกรรมพัฒนาทำความสะอาดวัดและชุมชน จัดปฏิบัติธรรม การจัดอบรมด้านศีล สมาธิ ปัญญา แก่เยาวชน การปลูกป่า ซึ่งผมได้กราบเรียนคณะสงฆ์ว่า ขอให้มีการสานต่อและทำต่อเนื่อง ชาวบ้านเองก็เห็นว่า ทำให้ชุมชนน่าอยู่และสร้างความสามัคคี ในส่วนของรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนขับเคลื่อนโครงการ กิจกรรมเหล่านี้ต่อไป" รมต.ประจำสำนักฯ กล่าว
นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ได้เยี่ยมเยียนนักเรียน และมอบทุนการศึกษาแก่ผู้แทนนักเรียน จำนวน 4โรง คือ โรงเรียนธนศรี โรงเรียนวันทาสิริศึกษา โรงเรียนวัดแสงธรรมสุทธาราม และโรงเรียนสหวิทยานุสรณ์ ที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงวัดแสงธรรมสุทธาราม ทั้งนี้ตนปลื้มใจที่นักเรียนสามารถจำศีล 5 ได้อย่างครบถ้วนหลายคน สะท้อนถึงความใกล้ชิดระหว่างวัดและโรงเรียนในเรื่องการปลูกฝังศีลธรรมอันดีตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็กเพื่อมุ่งสู่สังคมคุณธรรมต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี