9 ส.ค.61 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2561 ร่วมกับคณะกรรมการและผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมมีมติปรับปรุงแนวทางการจัดซื้อยาของรัฐ เพื่อสนับสนุนยาในบัญชีนวัตกรรมไทย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ ยาทั่วไป ยาชีววัตถุ และเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยา โดยใช้งบประมาณไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงยาคุณภาพดีในราคาที่เหมาะสม และเห็นชอบให้มีการพัฒนาความร่วมมือระหว่างองค์การเภสัชกรรม และผู้ผลิตภาคเอกชน เพื่อให้ประเทศเกิดความมั่นคงทางยา และสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
นอกจากนั้นได้รับทราบผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือน หลังของปีงบประมาณ 2561 ที่เป็นรูปธรรม ได้แก่ การเพิ่มการเข้าถึงยาจำเป็นที่มีความสำคัญต่อสุขภาพของประชาชน โดยปรับปรุงบัญชียาหลักแห่งชาติเพิ่มเติมซึ่งมียาที่สำคัญ ได้แก่ วัคซีนฮิบ ในรูปแบบวัคซีนรวม 1 เข็ม ป้องกันได้ 5 โรค เพื่อลดการป่วยและเสียชีวิตจากโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบในเด็ก ยาสำหรับป้องกันการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ทารกในครรภ์ และยาสำหรับโรคหลอดเลือดดำในจอตาอุดตัน เป็นต้น
พร้อมกันนี้ได้มีการปรับปรุงราคากลางยาให้ทันสมัยเพิ่มเติมอีกจำนวน 179 รายการ คาดการณ์ว่าจะสามารถประหยัดงบประมาณเพิ่มเติมได้อีก 3,164 ล้านบาท ในปี พ.ศ.2562 รวมทั้ง ผลักดันให้มียาสามัญทดแทนยาต้นแบบทำให้เพิ่มการเข้าถึงยาใน 6 กลุ่มโรคสำคัญ ซึ่งจะสามารถประหยัดงบประมาณได้ถึง 2,400 ล้านบาท รวมทั้งเร่งผลักดันนโยบายการใช้ยาอย่างสมเหตุผล และลดปัญหาเชื้อดื้อยาในโรงพยาบาลทั้งในและนอกกระทรวงสาธารณสุข ทั้งในส่วนผู้ประกอบวิชาชีพ และประชาชน เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ยาอย่างสมเหตุผล โดยขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อมุ่งสู่การประกาศเป็นประเทศใช้ยาอย่างสมเหตุผล ในปี พ.ศ.2565 เพื่อขับเคลื่อนให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งส่งเสริมผู้ผลิตยาในประเทศผ่านบัญชีนวัตกรรมไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี