"นิกร” แนะกลุ่มสามมิตร พรรคการเมือง เบาๆกันหน่อย อย่าลักลั่น รอ “คสช.” คลายล๊อก จะได้เสมอกัน ฝืนเคลื่อนไหวกระทบอนาคตดับวูบหมดไม่เป็นผลดีทุกฝ่าย หนุน กกต. ขอใช้ม.44 แบ่งเขตเลือกตั้ง ชี้แตะปมรื้อแก้ผู้ตรวจการเลือกตั้ง นิ่งขยับกระทบแน่ปัญหาตีกลับพุ่งไปหา คสช.
13 ส.ค. 61 นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะตรวจสอบกรณีกลุ่มการเมือง เช่น กลุ่มสามมิตร หรือพรรคการเมืองที่เดินสายพบปะประชาชนในพื้นที่ต่างๆเป็นการกระทำนั้นผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 หรือไม่ว่า เรื่องดังกล่าว เป็นหน้าที่ของ กกต. แต่ก็เหมือน กกต. ตกเป็นหนังหน้าไฟ จะไม่ทำอะไรเลยก็ไม่ได้ อย่างไรก็ตามจะต้องมองข้อกฎหมายเรื่องนี้เป็นสองอย่าง สำหรับกฎหมายพรรคการเมือง กลุ่มการเมืองที่ยังไม่เป็นพรรคการเมืองอาจจะไม่ผิด
ผอ.พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวต่อว่า แต่ถ้าเป็นพรรคการเมืองคงมีปัญหา แต่ไม่ว่า จะอย่างไรก็มีปัญหา คือขัดต่อคำสั่งคสช.ที่57/2557 ที่สั่งไม่ให้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองใดๆเกิน5คน ในขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เคยระบุว่า การไปทาบทามสมาชิกนั้นถือว่า ไม่เป็นไร ซึ่งเรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และตีความยาก จึงกลายเป็นว่า กกต. เป็นหนังหน้าไฟไป ตกอยู่ในสภาวะที่อยู่ยาก ไม่ทำอะไรก็ไม่ได้ ทำก็อาจจะมีปัญหาได้ แล้วยังอยู่ในช่วงท้ายที่กำลังจะหมดวาระ ก็น่าเห็นใจ ถ้ากกต.ไม่ทำอะไรเลยปัญหาก็จะไหลไปที่คสช.
“ผมมองว่า เป็นการปรามมากกว่า แต่ถ้ายังฝืนทำกันต่อไปจะเป็นปัญหาทั้งองค์รวมในอนาคต ไม่เป็นผลดีแก่ทุกฝ่าย ดังนั้นอีกไม่กี่วันก็จะได้คลายล็อกกันแล้ว เพื่อให้ไปต่อกันได้ ดังนั้นผมคิดว่า ก็น่าจะเบาๆลงกันหน่อยก็ดีเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นกลายเป็นว่า อีกข้างทำได้ อีกข้างทำไม่ได้ มันจะลักลั่นกัน คงไม่ดีต่อทุกๆคน รอให้เขาคลายล็อกแล้วทุกๆคนก็ดำเนินการกันไปอย่างเสมอกัน” นายนิกร กล่าว
นายนิกร กล่าวว่า ขณะนี้เรื่องการกำหนดเขตเลือกตั้งเป็นปัญหา ไปผูกกันหมดทั้งเขตเลือกตั้ง เรื่องตัวแทนประจำจังหวัด หากไม่มีเขตเลือกตั้งจะเริ่มทำอะไรไม่ได้ เพราะผูกกับ 2 เรื่องคือ ต้องมีกฤษฎีกา และในการทำจะต้องให้ประชาชนหรือพรรคการเมืองให้ความเห็น แต่ถ้าให้ความเห็นก็จะกลายเป็นกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งจะขัดกับคำสั่ง คสช. ดังนั้นหากไม่ใช้มาตรา44 กกต. ก็จะไม่มีสิทธิทำอะไรได้ ทั้งนี้ผู้รับฟังความเห็นในระดับจังหวัดคือ ผู้ตรวจการเลือกตั้ง ซึ่งถ้าไม่มีตรงนี้ตรงนั้นก็ทำไม่ได้ เพราะกกต.ส่วนกลางลงไปทำก็ไม่ได้ จึงเป็นเหตุให้ กกต.ต้องไปตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งขึ้นมาก่อน เพื่อรอดำเนินการเรื่องนี้ ดังนั้นจุดนี้อาจจะทำให้การเลือกตั้งมีปัญหายืดเยื้อออกไป
นายนิกร กล่าวว่า สำหรับการเสนอแก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยกกต.ในส่วนผู้ตรวจการเลือกตั้ง เขาอาจคิดกันว่า เป็นเรื่องง่าย แต่ในความจริงนั้นเป็นเรื่องยาก เพราะเป็นการแก้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ แล้วที่พูดกันว่า ไม่กระทบการเลือกตั้งนั้นจะไม่กระทบได้อย่างไร ต้องกระทบแน่นอน กระทบโดยตรง และกระทบต่อผู้มีอำนาจอยู่ในขณะนี้คือพุ่งไปหา คสช. ตนถึงได้บอกว่า มันจะเสียไม่คุ้มได้ เรื่องเหล่านี้เป็นประเด็นผูกโยงกันไปหมด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี