ป่วย!!! ‘พุทธะอิสระ’ส่งทนายขอเลื่อนสอบคำให้การคดีทำร้ายสันติบาล
ความคืบหน้ากรณีเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา อดีตพระพุทธะอิสระ หรือนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และเวลา 09.00 น.วันนี้(16 ส.ค.) นายสุวิทย์จะต้องเดินทางมายังศาลอาญา ถนนรัชดา ตามนัดเพื่อสอบคำให้การในคดีที่ทำร้ายและกักขังหน่วงเหนี่ยวตำรวจสันติบาล โดยต้องมาด้วยตัวเองนั้น
ล่าสุดวันนี้(16 ส.ค.61) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดสอบคำให้การจำเลยคดีดำ อ.2498/61ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทยื่นฟ้องนายสุวิทย์ ทองประเสริฐอายุ 59 ปี หรืออดีตพระพุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม และแกนนำ กปปส.เวทีแจ้งวัฒนะ เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังหรือกระทำด้วยการใดให้เจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ฯ ให้รับอันตรายสาหัส, ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายฯ หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309, 310
กรณีเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2557 เวลากลางวัน ขณะมีการตั้งเวทีปราศรัยของกลุ่ม กปปส.บริเวณหน้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ ถ.แจ้งวัฒนะ จำเลยซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มผู้ชุมนุมกับกลุ่มบุคคลไม่ทราบชื่อจำนวนมากกว่า 5 คนขึ้นไป ซึ่งทำหน้าที่เป็นการ์ดคอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณเวทีปราศรัยที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ได้บังอาจร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง ร.ต.ต.สมคิด เชยกมล และ ด.ต.วชิรพงศ์ อุ่นนวลบูรพงศ์ ผู้เสียหายที่ 1-2 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลที่ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้เข้าไปสืบสวนหาข่าว โดยใช้กำลังจับผู้เสียหายทั้งสองปิดตา มัดมือไพล่หลัง ใช้กำลังประทุษร้ายเป็นเหตุให้ ร.ต.ต.สมคิด ได้รับอันตรายสาหัส กระดูกซี่โครงหัก ตับฉีกขาด ใช้เวลารักษาตัวประมาณ 6 สัปดาห์ ส่วน ด.ต.วชิรพงศ์ มีบาดแผลฟกช้ำหลายแห่ง ฟันซ้ายล่างหัก ใช้เวลารักษาตัวประมาณ 10 วัน รวมทั้งทรัพย์สินของผู้เสียหายทั้งสองมูลค่ารวม 60,900 บาทถูกประทุษร้ายสูญหายไป
นอกจากนี้ จำเลยกับพวกยังร่วมกันข่มขู่ให้ผู้เสียหายทั้งสองบอกรหัสปลดล็อคโทรศัพท์มือถือ และ ให้บอกว่า เป็นผู้ใด เข้ามาบริเวณที่ชุมนุมเพื่ออะไร เมื่อไม่ยอมบอกพวกจำเลยก็ใช้กำลังประทุษร้ายและข่มขู่ว่าจะเอาผู้เสียหายทั้งสองไปลอยน้ำ จนผู้เสียหายทั้งสองต้องจำยอมตามที่พวกของจำเลยข่มขู่
โดยจำเลยนี้ซึ่งเป็นผู้ควบคุมการชุมนุมมีอำนาจสั่งการให้พวกของจำเลยปฏิบัติตามคำสั่งของตนได้ โดยจำเลยทราบว่าพวกของจำเลยได้หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายทั้งสองไว้นานหลายชั่วโมง แต่กลับเพิกเฉยไม่สั่งให้ปล่อยตัวไป
เหตุเกิดที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. ชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ทั้งนี้อัยการได้ขอให้ศาลนับโทษจำเลยต่อจากคดีหมายเลขดำ อ.247/2561 (คดีกบฏ กปปส.) ด้วย
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลา 08 .50 น.นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความของอดีตพระพุทธะอิสระ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวรายว่า วันนี้อดีตพระพุทธอิสระไม่สามารถเดินทางมาศาลเพื่อสอบคำให้การคดีได้ เนื่องจากมีอาการป่วยหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท โดยตั้งแต่เมื่อคืนหลังจากได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ คณะศิษยานุศิษย์ก็พาเข้ารับการรักษาต่อที่ รพ.แห่งหนึ่ง( ขอสงวนชื่อ) ทันที เพราะอาการป่วยกำเริบ เนื่องจากระหว่างที่อยู่ในเรือนจำนาน 84 วันก็มีอาการป่วยอยู่แล้ว และไม่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องจริงจัง โดยแพทย์วินิจฉัยระบุว่า อาการป่วยหมอนรองกระดูกรุนแรง และต้องทำการรักษาและพักฟื้นในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทำให้วันนี้ไม่สามารถเดินทางมาศาลตามกำหนดนัดได้
ส่วนจะเข้ารับการรักษาตัวนานแค่ไหนขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ โดยวันนี้ตนได้นำใบรับรองแพทย์มาแสดงต่อศาลเพื่อขอความเมตตาเลื่อนสอบคำให้การคดีนี้ไปก่อน ทั้งนี้คดีร่วมกันก่อกบฏ ศาลอาญาได้มีนัดคดีไว้ เดือน ต.ค. นี้ ตนจะขอศาลสอบคำให้การช่วงดังกล่าวได้หรือไม่แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลเช่นกัน
สำหรับบรรยากาศบริเวณหน้าศาลอาญา วันนี้มีกลุ่มศิษยานุศิษย์ประมาณ 20 คน เดินทางมารอให้กำลังใจอดีตพระพุทธะอิสระกันตั้งแต่ช่วงเช้า พอทราบว่า อดีตพระพุทธะอิสระมีอาการป่วย ไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ ต่างแสดงอาการเป็นห่วงและพร้อมใจกล่าวคำว่า “สาธุ พุทธะอิสระๆ” ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี