“มท.1” เล่าความหลังช่วงวิกฤตถ้ำหลวง เผย “บิ๊กตู่” แอบกังวลปมใช้ยานำเด็กออก แนะถอดบทเรียนลงรายละเอียดทำครบถ้วนแล้วหรือไม่ สั่ง “พ่อเมือง-นอภ.” ซ้อมจำลองสถานการณ์รับมือสู้ทุกสาธารณภัย พ้อการเมืองไทยยังป่วน ชี้ ปชช.ชอบรัฐบาลคสช. ทำสงบไม่ให้กลับมาตีกัน ด้าน “ปลัดมท.” ลุกขึ้นแจงช่วยนาย ป้องลูกชาย “บิ๊กป๊อก” ไร้เอี่ยวโรงงานไฟฟ้าขยะ
16 ส.ค.61 ที่โรงแรมเอสดีอเวนิว เขตบางพลัด กทม. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ถอดบทเรียนภายหลังการปฏิบัติงานกรณีการค้นหา กู้ภัย และช่วยเหลือผู้สูญหายบริเวณวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย” ตอนหนึ่งว่า วิธีการนำเด็กทั้ง13ออกมา ออกมาต่างชาติได้เสนอว่าต้องทำให้เด็กอยู่ในภาวะที่ต้องใช้ยา พอตนถามว่าเสี่ยงหรือไม่ ได้รับคำตอบว่าก็ไม่เคยมีที่ไหนทำมาก่อน แต่เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าทำได้ โดยใช้เจ้าหน้าที่ 2 คนนำเด็กออกมา 1 คน และได้รายงานเรื่องนี้ต่อนายกรัฐมนตรี ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ว่าไม่ต้องกังวล ยืนยันว่าปลอดภัย นายกฯเพียงแต่อ่านแต่ไม่ตอบกลับ แสดงว่ากังวล จึงยืนยันไปอีกครั้งว่าน่าจะปลอดภัย ส่วนบทเรียนที่อยากให้ทบทวนคือมีเรื่องไหน หรือตอนใดในถ้ำหลวงที่จะเกิดได้อีกหรือไม่ เราทำครบถ้วนหรือไม่ ขอให้นึกดู เช่น เมื่อเข้าไปติดถ้ำแล้วอากาศหมดจะทำอย่างไรเพื่อให้เขามีชีวิตรอด หากเกิดเหตุการณ์ที่เด็กต้องลอยคอ ต้องหาวิธีให้เด็กลอยคอให้ต่อเนื่องให้ได้ อย่าให้จม การสูบอากาศ การปั๊มอากาศต้องจำนวนเท่าใด รวมถึงการบังคับบัญชาในเหตุการณ์ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะต้องมีการถอดบทเรียนด้วย
“ขอฝากให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอนึกให้ดี หรือหากกรณีมีไฟไหม้ รถกระเช้าสูง 90 เมตร รองรับได้ 30 ชั้น จะทำอย่างไร มีแผนป้องกันไว้แล้วหรือไม่ รวมถึงเรื่องแผ่นดินไหว ถ้าคนติดใต้ตึกจะช่วยอย่างไร มีเครื่องมือเพียงพอไหม เอกชนมีเครื่องมือหรือไม่ การถอดบทเรียนต้องประสานงานกับทุกหน่วยงานให้ได้ ขอฝากผู้ว่าฯ นายอำเภอจำลองสถานการณ์ต่างๆ แล้วลองลงมือปฏิบัติ เพื่อหาวิธีเตรียมป้องกันไว้ด้วย” รมว.มหาดไทย กล่าว
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองตอนหนึ่งว่า เป็นความทุกข์ใจที่คนไทยยังตีกันอยู่ เป็นสิ่งที่น่าเบื่อ คนกลุ่มหนึ่งมีความขัดแย้ง ใช้ความรุนแรง กักขฬะ ใส่ร้ายป้ายสี ถือเป็นความเลวทรามของรัฐบาลไทย ไม่ว่ารัฐบาลไหนจะมาก็จะเป็นแบบนี้ตลอด แทนที่จะคิดในสิ่งที่ดีกลับไม่ทำ คนทำดีแต่ก็มาด่า มาเดินขบวนไล่เขา ส่วนคนไม่ดีกลับไม่ด่า
“ท่านนายกฯให้ผมมาช่วยก็อยู่แค่นี้ หมดแรงวันไหนก็บอกท่าน ผมก็ไปเป็นตาแก่คนหนึ่ง ได้เหรียญ ได้สายสี่ ชีวิตผมแค่นี้ก็พอแล้ว แม้รัฐบาลนี้จะไม่เก่งหรือเศรษฐกิจยังไม่ดี แต่ประชาชนชอบ เพราะไม่ทำให้คนตีกัน ผมเข้าใจและสัมผัสมา คนไทยต้องการความสงบ เรายังมีสิ่งที่ดีๆ ในประเทศ ผมอยากให้การเมืองไทยพูดในสิ่งที่ดี ว่ากันด้วยข้อเท็จจริง” รมว.มหาดไทย กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายของการประชุม นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ลุกขึ้นมากล่าวชี้แจงกรณีบุตรชายพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย มีชื่อเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กรณีการจัดการโรงไฟฟ้าขยะว่า ได้รับการยืนยันมาแล้วว่า บุตรชายของพล.อ.อนุพงษ์ ไม่ได้ไปพบผู้ว่าฯภูเก็ต ที่ศาลากลางจ.ภูเก็ต ยืนยันได้จากมีภาพถ่ายปรากฏออกมาชัดเจนแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี