วันที่ 18 สิงหาคม ที่อาคารเกษม (รัฐศาสตร์ 60 ปี) คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดเสวนาวิชาการในหัวข้อ “การเมืองกับคนรุ่นใหม่” โดยมีการเชิญตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆ มาร่วมแลกเปลี่ยน
นายวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า คนรุ่นใหม่มีแนวคิดใหม่ๆ ที่จะเข้ามาขับเคลื่อนประเทศ แต่คนรุ่นเก่ามีประสบการณ์ที่สะสมมานาน ดังนั้นต้องใช้วิสัยทัศน์จากคนรุ่นใหม่และประสบการณ์ของรุ่นเก่ามาผสมผสานในการพัฒนาประเทศ อย่างไรก็ตามสภาพสังคมไทยยังเป็นสังคมอุปถัมภ์ คนรุ่นใหม่จึงมักถูกจำกัดสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออก ดังนั้นการแก้ปัญหาเหล่านี้ต้องร่วมกันผลักดันให้มีการเลือกตั้งให้คนรุ่นใหม่มีสิทธิกำหนดอนาคตของตัวเอง ซึ่งพรรคพรรคชาติไทยพัฒนาได้ยินดีที่จะเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนในการบริหารพรรค โดยมีคนรุ่นเก่าให้คำปรึกษา
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า 20 ปีที่ผ่านมามีรัฐบาลที่ไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยถึง 3 ครั้ง คือ มีการรัฐประหาร 2 ครั้ง และการย้ายขั้วตั้งรัฐบาลใหม่ 1 ครั้ง นอกจากนี้ในช่วง 29 ปีที่ผ่านมา ได้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองหลายครั้ง ทำให้ต่อไปคนที่อยู่ในยุคนี้ต้องอยู่กับอนาคตที่ไม่มีเสถียรภาพ และไปอยู่ในอนาคตที่ร่างโดยกลุ่มคนที่ไม่อยู่ในอนาคต เพราะคนที่ร่างอนาคตให้คนรุ่นใหม่เป็นพวกที่อายุมาก คือ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ดังนั้นคนรุ่นให้สมควรมีความชอบธรรม กำหนดอนาคตให้ตัวเอง
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ตัวแทนจากพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ประเทศไทยต้องปรับตัวให้ทันกับยุคสมัยด้วยคนรุ่นใหม่ แต่ต้องไม่ทิ้งคนรุ่นเก่าไว้ข้างหลัง ต้องนำคนรุ่นเก่าเดินไปด้วยกัน แต่ตราบใดที่ยังมีรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ก็ยากที่ประชาชนจะสามารถแสดงความคิดเห็นได้โดยปราศจากความหวาดกลัว ดังนั้นจึงต้องรีบกลับคืนไปสู่ระบอบประชาธิปไตย สนับสนุนให้พรรคการเมืองที่สนับสนุนประชาธิปไตยชนะการเลือกตั้ง แล้วแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย เช่น พรรคประชาธิปัตย์ ที่ให้โอกาสคนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมในหลายเรื่อง ยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์จะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ และในอนาคตต้องไม่มีคำถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ยืนข้างประชาธิปไตยหรือไม่ และส่วนการเลือกนายกฯคนนอกนั้น ตนจะไม่ยกมือให้นายกฯคนนอกแน่นอน และหวังว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ยกมือให้นายกฯคนนอกเช่นกัน
น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ตัวแทนพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า บทบาทของคนรุ่นใหม่ประชาชนทุกคนต้องเท่าเทียมกันประเทศเราห่างหายจากการเลือกตั้งมานาน ทั้งที่เป็นมาตรฐานขั้นต่ำของการมีส่วนร่วมทางการเมือง เมื่อไม่มีการเลือกตั้งทุกคนก็มีส่วนร่วมทางการเมืองน้อยลง หลังจากนี้ทุกพรรคต้องมีหลักการร่วมกัน คือ ผลักดันให้เกิดการเลือกตั้งที่โปร่งใส ยุติธรรมไม่ใช้วิธีการสกปรก เพื่อให้เกิดการยุบพรรค และแก้ไขผลพวงที่เกิดจากเผด็จการ
ส่วน นายชวน ชูจันทร์ ผู้ก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตนเคยเป็นคนรุ่นใหม่เมื่อปี 2520 วันนี้บทบาทของคนรุ่นในอนาคตต้องทำความเข้าใจหลายอย่าง เพราะมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้มากกว่าในอดีตเพื่อเข้ามามีบทบาทขับเคลื่อนอนาคตประเทศ หากเข้าใจปัญหาที่ผ่านมาจะสามารถกำหนดบทบาทตัวเองในอนาคตได้ นอกจากนี้กรณีที่หลายฝ่ายมองว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นแม่เหล็กดึงดูดพรรคต่างๆมาเข้าร่วมตั้งรัฐบาลนั้น เรื่องดังกล่าวการที่มีหลายพรรคร่วมงานเยอะเป็นสิ่งดี เพราะพรรคการเมืองไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นสมบัติของทุกคน เป็นสถาบันที่ทุกคนสามารถมาร่วมกันได้ โดยคนที่มีอุดมการนโยบายเดียวกัน เราเป็นกลางให้คนที่มีอุดมการณ์และนโยบายเดียวกันมาร่วมงาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี