วันที่ 21 สิงหาคม องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนพยานนัดสุดท้าย ในคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีหมายเลขดำที่ อม.40/2561 จากกรณีให้กระทรวงการคลังเข้าไปบริหารแผน บริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือทีพีไอ ซึ่งเป็นบริษัทเอกชน ทั้งที่ไม่มีอำนาจ
ทั้งนี้ ป.ป.ช. ได้ระบุความผิดว่า ในขณะ นายทักษิณ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดิน ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 เมื่อ ร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ รมว.คลัง ในขณะนั้น นำเรื่องที่จะให้กระทรวงการคลังเข้าไปเป็นผู้บริหารแผน บริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือทีพีไอ ซึ่งเป็นบริษัทเอกชน ซึ่งจำเลยในฐานะนายกรัฐมนตรีทราบดีอยู่แล้วว่ากระทรวงการคลังเป็นส่วนราชการ ไม่มีอำนาจเข้าไปบริหารกิจการของบริษัทเอกชน แต่จำเลยกลับเห็นชอบให้กระทรวงการคลังเข้าไปเป็นผู้บริหารฟื้นฟูกิจการของทีพีไอ อีกทั้งยังได้เสนอรายชื่อบุคคลเข้าเป็นผู้บริหารแผนด้วย
โดยคดีนี้ ป.ป.ช. ได้ยื่นฟ้องจำเลยเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2561 โดยโจทก์ได้นำพยานเข้าไต่สวนรวม 6 ปาก และเสร็จสิ้นการไต่สวนปากสุดท้ายในวันเดียวกันนี้ ขณะที่ฝ่ายจำเลยไม่ได้ตั้งทนายมาซักค้าน ทำให้กระบวนการพิจารณาคดีใช้เวลาเพียงสามเดือนเศษ ศาลจึงนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 9.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ถือเป็นคดีแรกที่จะมีการอ่านคำพิพากษาจากกระบวนการพิจารณาคดีลับหลังจำเลย ตามพระราชบัญัตติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 ที่เปิดช่องให้ทำได้ เพื่อแก้ปัญหาจำเลยหลบหนีคดี จนต้องจำหน่ายคดีออกจากสารบบเป็นการชั่วคราว ไม่สามารถเดินหน้ากระบวนการพิจารณาคดีได้ ซึ่งก่อนหน้านี้องค์คณะศาลฎีกาฯในคดีนี้ได้ออกหมายจับนายทักษิณให้มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมไปแล้วด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี