‘อนุพงษ์’เผยเกษตรกร4.3ล้านได้ประโยชน์ไทยนิยมฯ มุ่งให้ความรู้รายหัว
15 ก.ย.61 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยมยั่งยืน กล่าวว่า เป้าหมายหลักของโครงการไทยนิยมยั่งยืน คือ การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทั่วประเทศ ให้ตรงตามความต้องการของตัวเองและศักยภาพของพื้นที่นั้นๆ หนึ่งในแผนงานหลักคือยุทธศาสตร์ปฏิรูปโครงสร้างการผลิตภาคเกษตร ที่กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าไปให้ความรู้ให้เกษตรกรทำการเกษตรที่เหมาะสมกับพื้นที่ มีเกษตรกรได้ประโยชน์รวม 4.3 ล้านคนทั่วประเทศ
สำหรับสิ่งที่เราดำเนินการ คือ ไปดูว่าแต่ละพื้นที่เหมาะสมกับปลูกพืชอะไร ถ้าเขาทำอยู่แล้วเราจะเข้าไปให้ความรู้ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้โดยพัฒนาผลผลิตให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น แต่ถ้าพื้นที่ไหนปลูกพื้นไม่เหมาะสมกับพื้นที่ ก็จะให้คำแนะนำให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนไปปลูกพื้นที่เหมาะสม หรือเปลี่ยนไปเลี้ยงสัตว์แทน
“เราลงไปให้ความรู้แทบจะเป็นรายบุคคล มีเมนูการเปลี่ยนแปลงให้ประชาชนตัดสินใจ แม้เป็นเรื่องยากในการเปลี่ยนความเคยชินประชาชน แต่ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป เราต้องใช้ความรู้และเวลา โดยรวมถือว่าประชาชนตอบรับดี” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอีกว่า นอกจากการแนะนำให้ประชาชนประกอบอาชีพที่เหมาะสมกับพื้นที่แล้วเรายังให้ความรู้เกี่ยวกับการลดต้นทุนการผลิตและต่อยอดผลิตภัณฑ์ของประชาชนให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น รวมถึงเข้าไปพัฒนาศักยภาพของพื้นที่ ทั้งการสร้างฝายชะลอน้ำ และจัดหาแหล่งน้ำชุมชน แก้ไขปัญหาที่ดินที่ไม่เหมาะสมกับการทำเกษตร เชื่อว่าการดำเนินการโครงการไทยนิยมยั่งยืน ที่ลงไปช่วยพัฒนาสิ่งต่างๆตามความต้องการของประชาชนจะสร้างความยั่งยืนและทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในอนาคต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี