‘บิ๊กตู่’ส่งซิกคลายล็อกเพิ่ม
หาเสียงธันวา
พรรคใดชนะได้ตั้งรัฐบาล
ยังอุบไต๋อนาคตทางการเมือง
เพชรบูรณ์เชียร์เป็นนายกฯอีก
‘กกต.’เร่งแบ่งเขตสส.ใน60วัน
แม้วอโหสิกรรม12ปีรัฐประหาร
“บิ๊กตู่” ระรื่นชาวเพชรบูรณ์เชียร์เป็นนายกฯอีกสมัย อ้อนขอให้รักนานๆ แต่ยังไม่ประกาศจุดยืนทางการเมือง บอกคลายล็อกแค่นี้ก็เพียงพอ ถ้าไม่ทำวุ่นวายก็จะปลดล็อกให้หาเสียงได้เดือนธันวาคม แจงกติกาพรรคใดชนะเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาล ขณะที่แม่ทัพภาค 4 ห่วงการเมืองใต้แรง หัวคะแนนเริ่มขยับ ระบุมีเลือกตั้งก็มียิงกัน ด้าน กกต.เดินหน้า แบ่งเขตเลือกตั้งสส.แล้ว คาดเสร็จ
ภายใน 60 วัน ให้พรรคการเมืองคัดเลือกผู้สมัคร- เชื่อเลือกตั้งได้24 กพ.62 แต่ต้องรอชัดเจนในวันถก คสช.รอบสอง
ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่ มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบูรณ์ เมื่อเย็นวันที่ 18 กันยายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังไม่ขอประกาศจุดยืนทางการเมืองในขณะนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยระบุว่า จะประกาศในเดือนกันยายน
“สนใจอะไรกับผม ผมบอกว่าหลัง พ.ร.บ.ออกมา นี่หลังหรือยัง หลังจากนี้ ปีหน้า ปีนู้น ก็หลังทั้งหมด ผมจะพูดเมื่อไร ก็เรื่องของผม ผมตัดสินใจเอง เรื่องอะไรผมจะออกมาให้โดนด่าตั้งแต่วันนี้ ไม่บอกหรอก ปล่อยให้งง”นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถปลดล็อคให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้ แต่มีคำสั่งคลายล็อคให้สอดคล้องกับ พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.ในช่วง 90วัน ก่อนที่จะมีผลบังคับใช้แล้ว การคลายล็อคทางการเมือง ถือว่าเพียงพอแล้ว ที่จะให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้ ดังนั้น ช่วงนี้ขอให้บ้านเมืองสงบ อย่าให้การเมืองเข้ามาทำความวุ่นวาย ส่วนการปลดล็อค น่าจะมีขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม เพื่อให้มีการหาเสียง ขณะเดียวกัน ยังไม่มีกำหนดพบกับนักการเมือง จะพิจารณาอีกครั้ง
ย้ำต้องทำให้บ้านเมืองสงบ
ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้าพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับประชาชนกว่า 500 คนที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ สาขาคลองศาลา หลังเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง โดยตั้งคำถามว่า ดีหรือไม่ที่บ้านเมืองสงบเช่นนี้ วันนี้บ้านเมืองไม่มีทะเลาะเบาะแว้ง แต่คนไทยมักทะเลาะเบาะแว้งกัน เพราะมีความคิดเห็นที่หลากหลายเราไม่สามารถบังคับใครได้ แต่จะต้องหาจุดกึ่งกลางให้ได้ ตนไม่อยากให้พวกเราทะเลาะกันเอง ซึ่งในฐานะนายกรัฐมนตรี จะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด โดยไม่นึกถึงตัวเอง
ทั้งย้ำว่า ประเทศนี้ถ้าไม่มีพลเรือน ตำรวจ ทหารก็อยู่ไม่ได้ ทหารก็เป็นลูกหลานของประชาชนมีความพร้อม 24 ชั่วโมงในการดูแลประเทศ และไม่ได้มีทหารไว้เพื่อให้ตนปฎิวัติ ตนเข้ามาเพราะเหตุผลความจำเป็น เป็นสถานการณ์ที่ต้องเข้ามา ถามว่าถ้าไม่มีทหาร และตำรวจภาคใต้จะเป็นอย่างไร ดังนั้นอย่าไปฟังเวลาที่เขาพูดบิดเบือน พวกนั้นต้องการที่จะแบ่งแยกหรือเปล่าที่บอกว่าให้เอาทหารออกไปจากพื้นที่ ถ้าออกไปเมื่อไหร่ก็เสร็จเมื่อนั้น อย่าไปเชื่อพวกเขา
ยึดมั่น3สถาบันหลัก
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงการเดินหน้าเข้าสู่การเป็นประชาธิปไตยจึงขอให้มีหลักการและหลักคิดที่ถูกต้องว่า ขอให้ทุกคนยึดมั่นในหลักของประเทศไทยที่มี 3สถาบันหลัก คือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ถ้าไม่มี 3สถาบันนี้ประเทศไทยอยู่ไม่ได้ เราต้องการรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล ดังนั้นประชาชนจึงต้องเตรียมการให้ดีว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเลือกตั้ง ไม่ใช่นอนอยู่บ้านไม่ไปกาบัตรใช้สิทธิ์ หรือทำลายบัตรเลือกตั้ง วันนี้เรามี พรป.การเลือกตั้งใหม่ ที่พรรคการเมืองจะต้องเสนอชื่อคนเป็นนายกรัฐมนตรีและนโยบายพรรค ถ้าเรายังไม่รู้ว่าจะเลือกเบอร์ไหนแต่กลับไปถามบ้านข้างๆ แล้วเลือกตามตรงนี้ถือว่าจบ
พรรคที่ชนะได้ตั้งรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เดินทักทายและร่วมถ่ายภาพกับประชาชนกลุ่มต่างๆ ตอนหนึ่ง ว่า “การเลือกตั้งอย่าไปเลือกอะไรที่เรื่อยเปื่อย วันนี้ผมไม่ได้มาหาเสียงทางการเมือง แต่มาพบกับประชาชนอย่าให้ใครว่าอย่าให้ใครมาว่า ว่าผมมาหาเสียง ผมมาในฐานะนายกรัฐมนตรี” พร้อมกล่าวต่อ ว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้าทุกคนต้องรู้ก่อนว่านายกรัฐมนตรีจะมาจากตรงไหน ซึ่งจะมาจากพรรคที่ได้รับคะแนนเสียงมากที่สุดซึ่งจะเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลและตั้งนายกรัฐมนตรี เป็นหลักการที่ทุกคนต้องรู้ ตนไม่ได้พูดถึงตัวเองตนไม่ได้พูดถึงตัวเอง แต่ทุกพรรคจะต้องเสนอคนที่จะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีก่อน
เชียร์ลุงตู่เป็นนายกฯต่อไป
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้ถามกลุ่มผู้สูงอายุที่มารอต้อนรับว่า การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาได้ไปใช้สิทธิ์หรือไม่ กลุ่มผู้สูงอายุกล่าวตอบว่าไปเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์จึงพูดยิ้มๆเชิงกระเซ้าว่า”แล้วเลือกใคร”ก่อนจะรีบตอบว่าไม่ต้องบอกเพราะไม่ได้ถาม ขณะที่ประชาชนได้ตะโกนส่งเสียงเชียร์ว่ารักลุงตู่ อยากให้ลุงตู่เป็นนายกฯ ต่อไป พล.อ.ประยุทธ์ ได้หันมาตอบรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะเดินขึ้นรถว่า’จ้ะ’
อ้อนชาวบ้านขอให้รักนาน ๆ
ต่อมาพล.อ.ประยุทธ์ ยังไปพูดหลังเป็นประธานมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ที่ ที่หอประชุมประกายเพชร มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ โดย พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันทำงานให้ประชาชน “ขออย่าเกลียดผม แต่ถ้าจะเกลียดก็ได้ จะไม่รักผมก็ได้ แต้ถ้ารักผม ก็ขอให้รักนั้นนานๆก็แล้วกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว ทั้งย้ำว่านักการเมืองมักสัญญาต่างๆกับประชาชนแล้วแต่ทำไม่ได้ แต่รัฐบาล คสช.ได้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติ20 ปีซึ่งทุกรัฐบาลต้องทำ
“บิ๊กป้อม”ย้ำห้ามหาเสียง
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงเรื่องที่ คสช.คลายล็อคให้พรรคการเมือง ว่า ยังไม่มีอะไร ส่วนพรรคการเมืองใดที่จะจัดประชุมสามารถทำได้ แต่ห้ามมีการหาเสียง หรือโฆษณาชวนเชื่อ
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคการเมืองหลายพรรคยังสงสัยเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์หรือหาเสียงผ่านสื่อโซเชียลที่ยังไม่ชัดเจน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่ให้หาเสียงหรือนำนโยบายใดๆมาเปิดเผย เมื่อถามต่อว่ามีพรรคการเมืองใดบ้างที่กระทำการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า มีบางรายที่ถูกออกหมายจับ
ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนนี้ใกล้ถึงเวลาที่พล.อ.ประยุทธ์ ต้องแสดงความชัดเจนทางการเมือง และพล.อ.ประวิตรจะแสดงความชัดเจนด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่มีอะไร เพราะตอนนี้มีหน้าที่ทำงานอย่างเดียว ไม่มีหน้าที่อย่างอื่น เพราะยังไม่ใช่นักการเมืองและยังไม่สังกัดพรรคการเมือง เมื่อถามย้ำว่าในอนาคตจะสังกัดพรรคการเมืองหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า “ไม่รู้ ถ้าคุณอยากให้ผมเป็นอะไร ก็มาเป็นผมเอง พวกคุณอยากเป็นอะไรก็ตอบไปเอง”
เชื่อภาคใต้การเมืองรุนแรง
พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงการดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ภาคใต้ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในปีหน้าว่า ในส่วนของหัวคะแนนต่างๆ ขณะนี้ก็เริ่มมีการเคลื่อนไหว ตนมีความเป็นห่วง เพราะหากเป็นภาคอื่นๆ ถ้ามีการทำร้ายกันก็จะถูกมองว่าเป็นหัวคะแนนของซุ้มมือปืนต่างๆ แต่ในพื้นที่ภาคใต้ หากเกิดเหตุก็จะถูกมองเป็นเรื่องการก่อความรุนแรง แต่ทั้งนี้คิดว่าในพื้นที่ภาคใต้เองเรื่องการเมืองก็มีการประเมินว่าน่าจะเกิดเหตุรุนแรงขึ้นได้ เพราะเหมือนกับเป็นโรคประจำตัวว่าเมื่อมีการเลือกตั้งก็ต้องเกิดเหตุยิงกัน
กระนั้นก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะพยายามดูแลให้ดีที่สุดโดยใช้ชุดกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยของทหารพรานและกองทัพภาคที่4 เข้าพื้นที่ เพื่อทำความเข้าใจกับชาวบ้านว่าหากใครจะเล่นการเมืองขอให้ระวังตัวด้วย หากอยากให้เจ้าหน้าที่รัฐไปช่วยดูแล เราก็มีความพร้อม แต่ไม่ใช่เป็นการไปเดินตามหลังนักการเมือง เพราะเจ้าหน้าที่จะไม่เดินตามหลังนักการเมืองเด็ดขาด แต่จะไปช่วยดูและความปลอดภัยให้เป็นระยะๆ
เมื่อถามว่าช่วงรอยต่อแบบนี้ จะมีการสำรวจกำลังพลหรือไม่ว่ามีใครอาจเข้าไปมีส่วนร่วมเดินตามนักการเมือง พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าวว่า ถ้าเดินเห็นชัดก็ปลดออกจากตำแหน่งทันที เพราะเมื่ออยากเดินตามก็จะให้ไปเดินตามเลย และไม่ต้องมาทำงานราชการอีก เนื่องจากเวลาราชการทางเจ้าหน้าที่ต้องอยู่ในสถานที่ราชการหรืออยู่ในจุดตำแหน่งที่ผู้บังคับบัญชารับทราบ และเป็นคนสั่งการ เช่นบางกรณีที่จ.ภูเก็ตทางเจ้าหน้าที่ต้องดูที่โรงพัก ไม่ใช่ไปอยู่ที่โรงแรม ก็ต้องถูกทำเรื่องย้ายออกไป หากพบว่ามีความผิดแน่ชัดก็ต้องถูกปลดประจำการ เพราะคนเลวหากย้ายไปที่อื่นก็ไปทำเลวที่อื่น
พท.เชื่อเลือกตั้งไม่วุ่นวาย
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าในวันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 เชื่อว่า การเลือกตั้งจะไม่วุ่นวาย เพราะกลุ่มคนที่เคยเป็นแกนนำและเกี่ยวข้องกับการสร้างความวุ่นวายในอดีต รัฐบาลคสช.ได้แต่งตั้งเข้ามาทำงานกับรัฐบาลหลายคนแล้ว ดังนั้น ถ้าคนของรัฐบาลหรือเครือข่าย ไม่สร้างความวุ่นวายขึ้นมาเสียเอง การเลือกตั้งน่าจะสงบเรียบร้อย
ขณะเดียวกันพรรคเพื่อไทย ยังออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้ คสช.ปลดล็อคเงื่อนไขทางการเมืองให้หมด ไม่ใช่แค่คลายล็อคอย่างมีนัยยะซ่อนเร้นอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้
กกต.เร่งแบ่งเขตเลือกตั้ง
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมาเลขาธิการคณะกรรมการเลือกตั้ง เผยว่า ขณะนี้ระเบียบ กกต.ว่าด้วยการแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.)และประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ซึ่งกกต.จะเดินหน้าแบ่งเขตเลือกตั้งทันที คาดว่าประมาณ 60 วันคงจะแล้เวเสร็จ สำหรับจำนวนราษฎรที่จะใช้ในการแบ่งเขตเลือกตั้งนั้น จะใช้ใช้จำนวนราษฎรทั้งระเทศที่สำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย ประกาศเรื่องจำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร ณ.วันที่ 31 ธ.ค 2560 ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2561 โดยถือได้ว่าเป็นประกาศในปีสุดท้ายก่อนปีที่มีการเลือกตั้งตามที่พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.กำหนดไว้ ซึ่งจำนวนประชากรต่อส.ส. 1 คนจะใช้ประชากร 189,110คน นอกจากนี้ยังได้เตรียมความพร้อมทั้งเรื่องงบประมาณอบรมคน กรรมการประจำหน่วยทั้งหมด95,000 หน่วย มีกรรมการ หนึ่งล้านคนเป็นการดำเนินการเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ. 62
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวอีกว่า ในส่วนระเบียบกกต.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว.ขณะนี้ผ่านความเห็นชอบของกกต.แล้ว อยู่ระหว่างการตรวจทานคำถูกผิดจากนั้นจะเสนอให้ประธานกกต.ลงนามคาดว่าจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ไม่เกินสัปดาห์หน้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี