‘พลังประชารัฐ’เนื้อหอม
‘บุญจง’เข้าซบ
เตรียมเปิดตัวปลายกย.
‘ปลื้ม’จ่อสมัครเข้า ปชป.
ชี้การเมืองหมดยุคขัดแย้ง
ตค.‘บิ๊กตู่’เยือนหลายชาติ
แจงไทยสู่เลือกตั้งกพ.62
“บุญจง วงศ์ไตรรัตน์” อดีตรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย เตรียมซบ “พลังประชารัฐ” เล็งเปิดตัวปลายเดือน กันยายนนี้ ในขณะ “ปลื้ม สุรบถ”จะสมัครเข้าประชาธิปัตย์ หอบเพื่อนทายาทนักการเมืองร่วมทัพเพียบ พร้อมช่วยงานทุกด้าน เผยถนัดสื่อสารกับวัยรุ่นชี้การเมืองยุคใหม่ หมดยุคขัดแย้ง ร่วมจับมือทำงาน “อนาคตใหม่”
จัดคาราวานเปิดรับสมาชิก5-7ต.ค.‘พลังพลเมืองไทย’ยัน พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งที่สุด
เมื่อวันที่ 22 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครราชสีมาว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 ก.ย.นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีต รมช.มหาดไทย พรรคภูมิใจไทย ได้ลงพื้นที่รับฟังปัญหาของชาวบ้าน เพื่อนำไปเป็นนโยบายช่วยเหลือประชาชน ที่วัดบ้านกุดจอกใหญ่ ต.ละลมใหม่พัฒนา อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา โดยมีชาวบ้านหมู่ที่ 7 บ้านกุดจอกใหญ่ และหมู่ที่ 12 บ้านโคกพลวง เข้าร่วมรับฟังกว่า 200 คน
‘บุญจง’ลั่นเข้าซบพลังประชารัฐ
โดยนายบุญจงเปิดเผยว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ ได้สอบถามความคิดเห็นของชาวบ้านเรื่องการดูแลสุขภาพ โดยเสนอให้ประชาชนนำข้อมูลการตรวจสุขภาพของแต่ละคน มาเป็นฐานข้อมูลให้กับเครือข่ายสุขภาพของชุมชน เพื่อที่จะรวบรวมส่งให้กระทรวงสาธารณสุข ประเมินสุขภาพเป็นรายบุคคลในแต่ละพื้นที่ อันจะส่งผลให้เกิดการบริการดูแลสุขภาพได้ตรงตามเป้าหมาย และมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ภาคอีสานมักจะเป็นโรคที่คล้ายกัน เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต และโรคตามฤดูกาล
เมื่อถามถึงเรื่องความพร้อมทางการเมือง นายบุญจง กล่าวว่า ขณะนี้มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์ 100% พร้อมที่จะเดินหน้าทางการเมืองแล้วและได้ตัดสินใจที่จะเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐ โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในการประชุมใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐ ในช่วงปลายเดือน ก.ย.นี้
มีรายงานระบุว่าสำหรับของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยไปนานแล้ว ตั้งแต่ปี 2557 หลังจากคสช.ยึดอำนาจ ดังนั้น การออกมาประกาศจะเข้าไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐจึงถือเป็นเรื่องปกติในทางการเมืองเพียงเพื่อสร้างกระแสให้กับพรรคพลังประชารัฐเท่านั้นซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับพรรคภูมิไทยที่ได้จัดเตรียมสรรหาผู้สมัครสส.พร้อมที่จะไปแข่งขันในพื้นที่ จ.นครราชสีมา อยู่แล้ว
‘ปลื้ม’ เตรียมสมัคร เข้า ปชป.
ด้าน นายสุรบถ หลีกภัย หรือ น้องปลื้ม บุตรชายของ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เตรียมจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ในวันเปิดรับสมัครสมาชิก ยืนยันว่า จะสมัครแบบบุคคลทั่วไป ไม่ใช้อภิสิทธิ์ หรือเส้นสายในความเป็นบุตรชายของนายชวนเพื่อเข้าร่วมทำงานกับพรรค โดยได้พูดคุยกับคุณพ่อแล้ว เรื่องการเข้ามาทำงานการเมือง ท่านสนับสนุนเป็นอย่างดีพร้อมให้ตัดสินใจเอง ส่วนตัวอยากเข้าไปทำอะไรหลายๆอย่าง รู้สึกว่าน่าจะมาสื่อสารกับคนยุคใหม่ได้ และคิดว่าเป็นยุคที่ต้องคุยกันเยอะๆ ส่วนจะลงสมัคร ส.ส.ในระบบแบ่งเขตหรือระบบปาร์ตี้ลิสต์นั้นยังไม่สามารถตอบได้ ต้องรอคุยทางพรรคว่าจะให้ลงสมัครส.ส.แบบใด พร้อมช่วยงานที่พรรคเห็นว่ามีประสิทธิภาพให้ช่วย
มีทายาทนักการเมืองมาร่วมทีม
“เมื่อเข้ามาจะมีทีมที่ถนัด แต่ละด้านเข้ามาทำงานด้วยโดยทีมตนก็เป็นลูกหลานของนักการเมืองจากหลายพรรคมาร่วมกัน รู้ว่าจะเสนออะไร สื่อสารอะไรให้คนรุ่นใหม่ เข้าใจโดยการสื่อสารด้วยภาษาที่ง่าย ส่วนตัวถนัดที่จะเข้าไปช่วยงานเรื่องการสื่อสารกับคนยุคใหม่ๆวัยรุ่นเพราะเราทำงานด้านนี้มานาน จึงมีความเข้าใจในการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย”
ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังเหมาะสมกับตำแหน่งหัวหน้าพรรคหรือไม่ นายสุรบถ กล่าวเพียงสั้นๆว่า นายอภิสิทธิ์ เป็นคนดี มีความสามารถ และ เชื่อว่าการทำงานระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ สามารถลดระยะห่างระหว่างกัน เพื่อทำงานร่วมกันได้โดยการคุยด้วยเหตุผล
ชี้หมดยุคความขัดแย้งแบบเก่าๆ
นายสุรบถ กล่าวอีกว่า มองว่าการเมืองขณะนี้ หมดยุคที่จะนำเรื่องเก่าๆ มาสร้างความขัดแย้งในสังคมแล้ว ควรหมดไปได้แล้ว ควรหยุดได้แล้ว เพราะคือเรื่องพื้นฐานที่สุด กว่าเราจะก้าวไปสู่อนาคตได้ อย่างน้อยที่สุด ต้องหยุดการบาดหมาง เชื่อว่าสังคมมีความแตกต่างทางความคิด ไม่มีใครชอบสีเหมือนกับเรา แต่ต้องไม่แตกแยกทะเลาะกัน เชื่อว่าการเมืองในอนาคตจะเหมือนการทำธุรกิจ สามารถร่วมงานกันได้ ไม่ใช่เรื่องแบ่งฝ่ายที่ชัดเจนเหมือนในอดีต ซึ่งการเมืองในอนาคต ควรต้องร่วมมือกันได้ มีจุดร่วมกัน เพื่อหาคนที่เก่งที่สุดมาทำงาน ในทุกๆด้าน มีเป้าหมายเดียวกัน คือให้ประเทศชาติและประชาชนดีขึ้น
อย่างไรก็ดี นายสุรบถ ยืนยันว่าไม่กลัวถูกเปรียบเทียบกับคุณพ่อ เพราะตนนับถือที่คุณพ่อเป็นคนดี ที่ยิ่งใหญ่สำหรับตนจะอยู่ในทุกๆจุดของการตัดสินใจที่ดีงาม เชื่อว่าการตัดสินใจของคุณพ่อยืนอยู่บนความดีและความถูกต้อง ซึ่งได้ปลูกฝังสิ่งต่างๆในใจทำให้มีตนในวันนี้ได้ แต่จุดยืนทางการเมืองแตกต่างจากคุณพ่อเพราะมีสไตล์ของตัวเอง มีสิ่งที่อยากทำและทำในสิ่งที่ถนัด
พท.ผวา’เพื่อนไทย’ทำสับสน
ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่าพึ่งทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่า ทางกกต.ได้จดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่พรรคหนึ่งโดยจดทะเบียนชื่อพรรคว่า”พรรคเพื่อนไทย”โดยตนไม่ทราบว่ากกต รับจดทะเบียน ชื่อพรรคนี้ได้ อย่างไรเพราะเห็นได้ชัดว่าพรรคนี้ ตั้งใจใช้คำคล้ายกันกับพรรคเพื่อไทย เพื่อให้ประชาชนสำคัญผิด คิดว่าเป็นพรรคเดียวกันกับพรรคเพื่อไทย จนลงคะแนนให้อีกทั้ง โลโก้ พรรคก็คล้ายกัน ต่างกันแค่คนละสีเท่านั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ในสัปดาห์หน้า จะให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคทำหนังสือร้องเรียนไปยังกกตเพื่อสอบถามรายละเอียดเรื่องนี้
ด้านนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวเสริมว่าที่กกต.รับจดทะเบียนพรรคเพื่อนไทย มีเหตุผลอะไรเพราะอาจทำให้ประชาชนที่ตั้งมาลงคะแนนให้พรรคเพื่อไทย สับสนได้ เรื่องนี้กกต.ต้อง ออกมาชี้แจงให้กระจ่างด้วย
อนึ่ง สำหรับพรรคเพื่อนไทย ได้จดชื่อพรรคตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เป็นลำดับที่ 107/2561 เมื่อวันศุกร์ที่ 8 มิ.ย.2561 โดยมี นาย สิระ พิมพ์กลาง อดีตแกนนำคนเสื้อแดงภาคอีสาน เป็นผู้จดจองชื่อพรรค
‘อนาคตใหม่’เปิดรับสมาชิก5-7ต.ค.
นายปิยบุตร แสงกนกกุล ว่าที่เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ยืนยันว่าพรรคอนาคตใหม่มีความพร้อมในการรับสมัครสมาชิกพรรคทุกช่องทาง ทั้งการสมัครทางออนไลน์ การเดินเข้ามาสมัครได้ที่สาขาพรรคทั่วประเทศ พร้อมจะจัดคาราวานเดินทางไปใน 6 สาขาใหญ่ของพรรค ในวันที่ 5-7ตุลาคมนี้ เพื่อแวะรับสมัครสมาชิกพรรคตลอดเส้นทางซึ่งพรรคอนาคตใหม่ พร้อมลั่นกลองรบในการสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งนี้
จวกยับคำสั่งโซ่ตรวนห้ามหาเสียง
นายปิยบุตรยังกล่าวถึงคำสั่งคสช.ที่13/2561ว่าไม่ได้เป็นคุณต่อพรรคการเมืองใดๆแต่เป็นการสร้างโซ่ตรวนอันใหม่มา ล็อกเพิ่ม และจำกัดพื้นที่มากกว่าเดิมโดยเฉพาะประเด็นการห้ามหาเสียงทางออนไลน์ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งที่จะสร้างความเสมอภาคเท่าเทียมกันในทุกพรรคการเมือง สามารถทำได้ เป็นวิธีที่ทำง่ายที่สุด ต้นทุนต่ำที่สุด สามารถเข้าถึงคนได้กว้างไกลที่สุดในปริมาณมากที่สุดด้วย ที่สำคัญ ยังก่อให้เกิดความสงบแก่บ้านเมือง ไม่ต้องมีการออกไปรวมตัวชุมนุมกันตามที่ต่างๆจึงมองไม่เห็นวัตถุประสงค์ของคำสั่งนี้เลยว่าจะจำกัดสิทธิเสรีภาพการหาเสียงออนไลน์ไปเพื่ออะไร
“การที่เราจะมุ่งไปสู่การเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย จึงมีความจำเป็นที่จะต้องยกเลิกประกาศคำสั่งทั้งหมดที่เป็นอุปสรรคต่อการใช้เสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองแต่กฎกติกาต่างๆดูเหมือนยุ่งยากซับซ้อน ลิดรอนสิทธิและขาดความเป็นธรรมต่อพรรคการเมือง” นายปิยบุตร ย้ำ
‘พลังพลเมืองไทย’พร้อมสู้ศึก
ด้าน นายเอกพร รักความสุข เลขาธิการพรรคพลังพลเมืองไทย กล่าวว่า ภาพรวมของพรรคพลังพลเมืองไทยขณะนี้มีความพร้อมแล้ว โดยจะเริ่มเปิดรับสมัครสมาชิกพรรคในวันที่ 28 ก.ย.61 และจะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ในวันที่ 1 ต.ต.61 และคาดว่าจะมีการประชุมใหญ่พรรคในวันที่ 21 ต.ค.61 จากนั้นคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.ที่ได้รับเลือกจากที่ประชุมใหญ่ จะเริ่มทำหน้าที่เพื่อพิจารณาผู้เสนอตัวสมัคร ส.ส. ลงสู่การเลือกตั้งแต่ละเขตต่อไป
“ในนามพรรคพลังพลเมืองไทย นับว่าเป็นพรรคใหม่ที่พร้อมที่สุด และมีความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาของประเทศไทย ด้วยพลังความคิดครับ” นายเอกพร กล่าว
นายกฯเยือน ตปท.ตลอดเดือนตุลา
ขณะที่ พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)มีกำหนดเดินทางไปต่างประเทศตลอดเดือนตุลาคม เริ่มจากการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ที่ประเทศญี่ปุ่น การประชุมระดับผู้นำอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ กับผู้นำองค์การระหว่างประเทศที่สำคัญด้านการเงิน การธนาคาร และเศรษฐกิจ ที่สาธารณรัฐอินโดนีเซีย การประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ที่ราชอาณาจักรเบลเยียม และการเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เพื่อหารือทวิภาคี ตามคำเชิญของผู้นำเยอรมนี ตามลำดับ โดยมุ่งหวังขยายความร่วมมือ กระชับความสัมพันธ์ และส่งเสริมบทบาทของไทยในเวทีโลก
ถือโอกาสแจงไทยมีเลือกตั้ง ก.พ.62
รองโฆษกฯกล่าวว่า ในระหว่างนั้นมีสื่อมวลชนต่างชาติชื่อดังหลายสำนักให้ความสนใจขอสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรี จึงต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมกับช่วงเวลา ซึ่งที่ผ่านมา มีการสอบถามถึงประเด็นทางการเมืองโดยตลอด ส่วนจะเป็นโอกาสในการเปิดเผยอนาคตทางการเมืองที่ชัดเจนของนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ไม่สามารถระบุได้
“ทุกครั้งที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปต่างประเทศ นอกจากภารกิจตามวัตถุประสงค์ในการเดินทางเยือนหรือประชุมแล้ว จะใช้โอกาสนี้ ชี้แจงความก้าวหน้าการเตรียมการสู่การเลือกตั้ง ซึ่งเบื้องต้นกำหนดไว้ว่าจะเป็นช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2562”
ทั้งนี้มีรายงานข่าวด้วยว่า ในเดือนตุลาคมนี้จะไม่มีการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจรในต่างจังหวัด เพราะนายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางไปต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง แต่อาจจะลงพื้นที่พบประชาชนในโอกาสที่เหมาะสมแทน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี