"บิ๊กตู่"ไม่หวั่นแรงเสียดทานหลังประกาศจุดยืนทางการเมือง วอนอย่าตีความคำพูด ยันยังไม่คิดสังกัดพรรคไหนขอเวลาศึกษา
25 ก.ย.61 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุม คสช.เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ว่า ที่ประชุมได้หารือกันว่าจะทำอย่างไรให้การปฏิรูปประเทศและการปฏิบัติงานตามยุทธศาสตร์ชาติจะได้รับการสืบต่อในการทำงานวันข้างหน้าต่อไปได้ ถือเป็นกลไกของการบริหาร ซึ่งจะต้องพิจารณาต่อไป เพราะในวันข้างหน้าเราจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ตนก็ต้องพยายามทำในสิ่งที่ทำวันนี้สามารถที่จะต่อเนื่องได้
"ไม่ได้หมายความว่าจะไปสืบทอดอำนาจอะไร เพียงแต่เมื่อเรามี พ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติ ออกมาเป็นกฎหมายแล้วก็ต้องทำ เพราะต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญด้วย" นายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ จะทนกับแรงเสียดทานจากนักการเมืองที่รุมโจมตีได้หรือไม่ และจะควบคุมอารมณ์ตนเองเมื่อเข้าสู่การเมืองได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ผมยืนยันว่าผมไม่กลัว เพราะผมอยู่กับพวกท่านมา 4 ปีแล้ว ผมก็อดทนและพยายามทำความเข้าใจ แต่บางครั้งก็มีนิดหน่อยที่หงุดหงิดบ้าง อะไรบ้างก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ แต่ผมก็ปรับตัวมาโดยตลอด 4 ปี ก็มีการพัฒนามากพอสมควร จะเห็นได้ว่าเสียงของผมวันนี้นุ่มนวลขึ้นใช่หรือไม่ ไม่ดุเดือด ไม่อะไรทั้งนั้น พอแล้ว เพราะไม่ว่าจะเป็นหรือไม่เป็นอะไรต่างๆ ผมก็จำเป็นต้องควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้ได้ โดยเฉพาะเรื่องทางการเมือง เพราะไม่เช่นนั้นเดี๋ยวผมตายก่อน ผมเครียดมากๆ ผมก็ตายเอง เพราะก็ไม่มีใครตายสักคน เพราะทุกคนมารุมผมอยู่คนเดียว แต่ผมก็รับได้"
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับคำที่ว่าตนสนใจงานการเมืองนั้น อย่าไปตีความกันให้มากนักเลย คำพูดที่ตนพูดออกไปนั้นหมายความว่า ตนสนใจว่ามันจะเดินหน้าไปอย่างไร มีความคืบหน้าอย่างไร โดยเฉพาะสิ่งที่ตนเป็นห่วงและกังวลก็คือ สิ่งที่ทำมาแล้ว การปฏิรูปขั้นที่ 1 ของเรา กฎระเบียบ กฎหมาย รวมทั้งยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทที่จะทำ จะได้รับการดำเนินการอย่างต่อเนื่องหรือไม่ ตนสนใจตรงนี้มากกว่า
"และถ้าผมสนใจที่จะเข้ามามีส่วนร่วมตรงนี้ ผมจะเข้าไปได้อย่างไร จะมาด้วยกลไกอะไร จะต้องดูทั้งรัฐธรรมนูญ กฎหมาย พ.ร.บ.การเลือกตั้ง และทุกๆ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องที่ออกมาในช่วงนี้ก็ต้องพิจารณาอีกครั้ง สิ่งสำคัญที่สุดคือทำอย่างไรที่จะปฏิรูปให้ได้ ทั้งการปฏิรูปยุทธศาสตร์ชาติ การปฏิรูปการเมืองให้มีธรรมาภิบาล สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถสร้างขึ้นได้ง่ายๆ ภายใน 1 - 2 วัน หรือ 1 - 2 ปี จำเป็นต้องใช้เวลาอย่างต่อเนื่อง และผมไม่ได้สงวนไว้สำหรับตนเองเพียงอย่างเดียว ทุกคนจะต้องช่วยกัน ผมอยากเห็นการทำงานให้เป็นผลสัมฤทธิ์มากขึ้น ขณะนี้เราอยู่ในระยะเปลี่ยนผ่าน เพราะฉะนั้นบรรดานักการเมือง พรรคการเมือง ต้องเอาสิ่งที่ผมพูดไปคิด แล้วต้องมองว่าเราจะมีส่วนร่วมอย่างไรในการปฏิรูปที่จำเป็นต้องใช้คนหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง ประชาชน ผู้ประกอบการธุรกิจ ขอร้องว่าอย่ามองเพียงการเมืองอย่างเดียว" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ตกลงนายกฯ จะไปสังกัดอยู่กับพรรคการเมืองใด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของอนาคต ผมยังไม่ได้ไปตรงไหนสักที่เลย ถ้าจะพิจารณาก็ต้องดูว่า จะต้องไปเป็นสมาชิกพรรคใดหรือไม่ และต้องพิจารณาว่าจะไปร่วมกับเขาได้แค่ไหนอย่างไร และสมมติว่าผมจะไปเป็นนายกรัฐมนตรีจะมาได้อย่างไร เรื่องนี้ต้องดูใหม่ทั้งหมด ต้องศึกษา เพราะผมไม่ใช่นักการเมืองมาก่อน จำเป็นต้องศึกษาว่ามันเป็นอย่างไร ปัญหาอยู่ที่ว่าใครจะเป็นหรือไม่เป็น จะทำให้บ้านเมืองสงบได้มากน้อยแค่ไหน ทั้งหมดก็อยู่ที่ประชาชนที่จะต้องไม่ตกเป็นเป็นเครื่องมือของใคร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี