บิ๊กตู่เปิดไฟเขียวครม.
ลุยการเมือง
ไม่ห้ามรมต.ซบพปชร.
แต่ต้องทำให้ถูกขั้นตอนกม.
ยังไม่บอกจะอยู่พรรคไหน
‘จ้อน’ถกมาร์คพร้อมชิงหน.
ม.44ตั้งสนธยานายกพัทยา
“บิ๊กตู่”ไฟเขียวรมต.สนใจลุยการเมืองได้ ต้องทำให้ถูกกฎหมาย ไม่ห้ามเข้า “พลังประชารัฐ” ลั่นไม่กลัวแรงเสียดทาน หลังประกาศจุดยืน รับปรับตัวมาตลอด 4 ปี ย้ำยังไม่คิดสังกัดพรรคไหน ขอเวลาศึกษาก่อน“วิษณุ” ชี้ “นายกฯ-รมต.” ไม่จำเป็นต้องลาออก ส่วนคดีที่ดินรัชดา ต้องยกประโยชน์ให้จำเลย “พท.”แนะนายกฯ วางปืนก่อนเล่นการเมือง นายกฯใช้ ม.44 ตั้ง“สนธยา”นายกพัทยา
เมื่อวันที่ 25 กันยายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุม คสช.และคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่าช่วงเช้าได้หารือกันในที่ประชุม คสช.ว่าเราจะทำอย่างไรให้การปฏิรูปประเทศและการปฏิบัติงานตามยุทธศาสตร์ชาติจะได้รับการสืบต่อในการทำงานวันข้างหน้าต่อไปได้ ถือเป็นกลไกของการบริหารซึ่งจะต้องพิจารณาต่อไป เพราะในวันข้างหน้า เราจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ตนก็ต้องพยายามทำในสิ่งที่ทำวันนี้สามารถที่จะต่อเนื่องได้ ไม่ได้หมายความว่า จะไปสืบทอดอำนาจอะไร เพียงแต่เมื่อเรามี พ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติออกมาแล้ว เป็นกฎหมาย ก็ต้องทำ เพราะต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญด้วย
‘บิ๊กตู่’ลั่นไม่กลัวแรงเสียดทาน
เมื่อถามว่านายกฯคิดว่าจะทนกับแรงเสียดทานจากนักการเมืองที่รุมโจมตีอย่างไรจะควบคุมอารมณ์ตัวเองเมื่อเข้าสู่การเมืองอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า“ผมยืนยันว่าผมไม่กลัวเพราะผมอยู่กับพวกท่านมา 4 ปีแล้ว ผมก็อดทน และพยายามทำความเข้าใจ แต่บางครั้ง ก็มีนิดหน่อยหงุดหงิดบ้างอะไรบ้าง ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ แต่ผมก็ปรับตัวมาโดยตลอด 4 ปีก็มีการพัฒนามากพอสมควรจะเห็นได้ว่าเสียงของผมวันนี้นุ่มนวลขึ้นใช่หรือไม่ ไม่ดุเดือด ไม่อะไรทั้งนั้น พอแล้ว”
อย่าตีความมากแค่สนใจปฏิรูป
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าสำหรับคำที่ว่าสนใจงานการเมืองนั้น อย่าไปตีความกันให้มากนักเลย คำพูดที่พูดหมายความว่า สนใจว่ามันจะเดินหน้าไปอย่างไร มีความคืบหน้าอย่างไรโดยเฉพาะสิ่งที่เป็นห่วงและกังวลก็คือสิ่งที่ทำมาแล้ว การปฏิรูปขั้นที่1ของเรา กฎระเบียบ กฎหมาย รวมทั้งยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่ที่จะทำ จะได้รับการดำเนินการอย่างต่อเนื่องหรือไม่ ตนสนใจตรงนี้มากกว่า
“และถ้าผมสนใจที่จะเข้ามา มีส่วนร่วมตรงนี้ ผมจะเข้าไปได้อย่างไรจะมาด้วยกลไกอะไรจะต้องดูทั้งรัฐธรรมนูญ กฎหมาย พ.ร.บ.การเลือกตั้งและทุกๆพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องที่ออกมาในช่วงนี้ก็ต้องพิจารณาอีกครั้ง”พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำ
ยังแทงกั๊กสังกัดพรรค-ขอศึกษา
เมื่อถามว่า ตกลงนายกฯจะไปสังกัดอยู่กับพรรคการเมืองใด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของอนาคต ตนยังไม่ได้ไปตรงไหนสักอันเลย ถ้าจะพิจารณาก็ต้องดูว่า จะต้องไปเป็นสมาชิกพรรคใดหรือไม่ และต้องพิจารณาว่าจะไปร่วมกับเขาได้แค่ไหนอย่างไร และสมมติว่าตนจะไปเป็นนายกฯจะมาได้อย่างไร เรื่องนี้ต้องดูใหม่ทั้งหมด ต้องศึกษาเพราะตนไม่ใช่นักการเมืองมาก่อนจำเป็นต้องศึกษาว่าเป็นอย่างไร ปัญหาอยู่ที่ว่าใครจะเป็น หรือไม่เป็นจะทำให้บ้านเมืองสงบได้มากน้อยแค่ไหน ทั้งหมดก็อยู่ที่ประชาชนที่จะต้องไม่ตกเป็นเป็นเครื่องมือของใคร
ไฟเขียวรมต.ร่วม“พปชร.”
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงความสบายใจหลังประกาศจุดยืนว่าสนใจงานการเมืองว่าส่วนตัวสบายใจมาตลอด ทำไมสื่อต้องมาสนใจมากมายนัก สื่อรักเป็นห่วงใช่หรือไม่ เพราะอยู่ด้วยแรงศรัทธาในการทำงานของตัวเอง คณะทำงาน และรัฐบาล ตนต้องศรัทธาเขาทุกคน ถ้าเราไม่สร้างความศรัทธาความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน อะไรก็ไม่เกิดก็ทะเลาะเบาะแวง ขัดแย้งไปทั้งหมด
เมื่อถามว่าลุ้นพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ที่จะเปิดตัววันที่ 29กันยายนหรือไม่ เนื่องจากมีรัฐมนตรีในรัฐบาลไปร่วมด้วยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่ตอบ ก็เป็นเรื่องของพลังประชารัฐ แต่คนในรัฐบาลเขาไปช่วย ก็ไปช่วยแต่ไม่ได้ทำให้ระบบอะไรมันเสียหาย ไม่ผิดกฎหมาย เขาทำได้หมด ทุกรัฐบาลเขาทำมาแบบนี้หรือไม่ รัฐบาลก่อนๆมีไหม ถ้ามี ก็จบ จะมาถามอะไรตน
ปัดไม่มีพรรคทาบชิง’นายกฯ’
เมื่อถามว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลพิเศษอาจถูกมองเรื่องความเหมาะสม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า“ใครจะฟ้อง คุณจะฟ้องผมเหรอ คุณทำไม ไม่มองว่ารัฐบาลนี้เข้ามา แม้ไม่ปกติ แต่ก็เข้ามาบริหารราชการจนได้รับการยอมรับจากต่างประเทศทั่วโลก ทำไมไม่มองตรงนี้ รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งทำได้อย่างที่ผมทำไหม แก้ปัญหาต่างๆให้เขาไหม ปลดล็อกอุปสรรคต่างๆได้ไหม”
เมื่อถามว่ามีพรรคใดทาบทามขอเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า”ยังไม่มีเลย เขาจะทาบ หรือไม่ ก็ยังไม่รู้ เมื่อทาบมา ผมจะรับหรือไม่ ก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ขอดูก่อน เมื่อถามว่าดูก่อนแสดงว่ามีความเป็นไปได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า” ไม่รู้เหมือนกัน”
‘ลุงตู่’ออกอาการยิ้มร่าหลังพูดชัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทั้งนี้ ก่อนเข้าประชุม คสช.และครม.พล.อ.ประยุทธ์ มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส หลังประกาศ ท่าทีความชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางทางการเมือง หลังออกมายอมรับว่าสนใจงานการเมืองแต่ปรากฎว่าทั้งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหมไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย โดยได้ขอลาป่วยเนื่องจากเป็นไข้หวัดและมีอาการไออีกทั้งนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจก็ได้ลาป่วยและไม่ได้เข้าร่วมประชุมครม.ด้วยเช่นกัน
นายกฯไฟเขียวรมต.ลงการเมือง
ขณะที่ นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมครม.ว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.เน้นย้ำในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)หากมีรัฐมนตรีคนใดสนใจงานการเมืองต่อไป ถือเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ แต่ให้ทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย และอย่าให้กระทบ ขัดต่อการปฏิบัติในตำแหน่งหน้าที่ในปัจจุบัน และที่ประชุมครม.ยังไม่ได้หารือเรื่องการประชุม ครม.สัญจรในเดือนพฤศจิกายนและยังไม่ได้กำชับเรื่องการลงพื้นที่ของรัฐมนตรี เมื่อถามย้ำว่ามีความสนใจงานทางการเมืองต่อไปหรือไม่ นายกฤษฎาตอบเพียงสั้นๆว่า“ส่วนตัวไม่สนทำการเมืองต่อ คิดว่า เหนื่อยครับ พอแล้ว”
‘บิ๊กป๊อก’ยังไม่คิดเล่นการเมือง
ด้านพล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่ามีความสนใจงานการเมืองแล้ว ในส่วน รมว.มหาดไทย มีความสนใจด้านการเมืองด้วยหรือไม่ว่า ยังไม่มีความคิดในเรื่องอื่น ตอนนี้ขอทำงานตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ดีที่สุด เมื่อถามว่าในอนาคตมีความคิด จะเล่นการเมืองหรือไม่นั้น พล.อ.อนุพงษ์ ตอบย้ำว่า”ในตอนนี้ยังไม่ได้คิด ตอนนี้ผมตั้งใจทำงานและยังไม่มีใครมาพูดเรื่องอะไรกับผม”
วิษณุชี้’บิ๊กตู่-รมต.’ไม่ต้องลาออก
ขณะที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาระบุว่ามีความสนใจงานการเมืองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดที่ใครจะสนใจเรื่องการเมืองและยังไม่จำเป็นต้องลาออกจากตำแหน่ง นายกฯเพราะตามกฎหมาย แม้พล.อ.ประยุทธ์จะลงเล่นการเมือง ก็ไม่จำเป็นต้องลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าคสช.ขณะที่รัฐมนตรีคนอื่นๆหากจะไปร่วมงานทางการเมือง สามารถทำได้ เพราะไม่ได้ลงเลือกตั้ง ส่วนจะทำให้กระแสสังคมมองไม่ดีหรือไม่นั้นแต่ว่าจะมีหรือไม่ แต่ทุกคนมีตำแหน่งก็ต้องทำหน้าที่ตนเอง ทั้งหมดเป็นเรื่องของนายกฯไม่ใช่เรื่องของตนส่วนตัวไม่สนใจการเมืองในลักษณะเช่นนั้นแต่สนใจที่จะทำงานแบบเดียวกับที่ทำอยู่ทุกวันนี้ ถือว่าเป็นงานการเมืองเช่นกัน
คดีที่ดินรัชดาทำอะไร’แม้ว’ไม่ได้
นายวิษณุยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลฎีกาพิพากษาลงโทษจำคุก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเวลา 2 ปี แต่นายทักษิณได้หลบหนี แต่คดีดังกล่าวจะหมดอายุความในวันที่ 21 ตุลาคม 2561นี้ แต่ยังไม่สามารถนำตัวมาดำเนินคดีได้ว่า หากคดีหมดอายุความแล้วถือว่าต้องยกประโยชน์ให้จำเลย เนื่องจากไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ไม่ได้มองว่า เจ้าหน้าที่ทำงานล่าช้า เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบแล้ว แต่ติดอุปสรรคที่ไม่สามารถนำตัวนายทักษิณกลับมาดำเนินคดีได้ ส่วนคดีอื่นๆที่ยังค้างอยู่ในระหว่างที่นายทักษิณอยู่ต่างประเทศ จะสามารถดำเนินการได้หรือไม่นั้น บางเรื่องอาจหมดอายุความไป แต่บางเรื่องสามารถดำเนินคดีได้
พท.แนะวางปืนก่อนเล่นการเมือง
ในส่วนของพรรคเพื่อไทย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.)กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศสนใจงานทางการเมืองว่าเป็นสิ่งที่ประชาชนสงสัยมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว น่าคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์เริ่มสนใจงานทางการเมืองมาตั้งแต่เมื่อไหร่ สนใจตั้งแต่สมัยเป็น ผบ.ทบ.หรือ เพิ่งมาสนใจหลังการยึดอำนาจ22พฤษภาคม 2557เพราะถ้าสนใจมาก่อนการยึดอำนาจ คำถามที่ว่าทำไมการก่อจลาจลชัตดาวน์ประเทศ ขัดขวางการเลือกตั้ง ฝ่ายความมั่นคง จึงเกียร์ว่างและหลังการยึดอำนาจก็ตั้งแกนนำม็อบที่มีคดีอุกฉกรรจ์ มารับตำแหน่งสำคัญๆในรัฐบาลด้วย ในสถานการณ์ปกติ รัฐบาลรักษาการก่อนการเลือกตั้งจะถูกควบคุมไม่ให้อนุมัติโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ไม่โยกย้ายข้าราชการเพื่อเอาเปรียบ เป็นมือเป็นไม้ในการเลือกตั้ง
“แต่การเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะมีขึ้นท่ามกลางดาบอาญาสิทธิ มาตรา 44 ในมือ การจัดวางเครือข่ายขุมกำลัง องคาพยพ กองทัพรวมทั้งข้าราชการพลเรือนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศสนใจการเมืองอาจไม่แปลกมาก แต่พล.อ.ประยุทธ์โชคดี มีแต้มต่อมากกว่าคนไทยกว่า 60 ล้านคน ที่สนใจการเมืองแล้ว สามารถเข้าสู่อำนาจได้ทันที แม้ช่วงต้น จะอ้างว่ามาเป็นกรรมการ แต่ตอนนี้กรรมการเกือบทั้งคณะกำลังจะผันตัวไปเป็นผู้เล่นเสียเอง อยากจะบอกผู้ถืออำนาจรัฐว่าถ้าจะเข้าสู่การเมืองและการเลือกตั้งอย่างสง่างาม ขอให้วางปืนลง ปลดล็อกให้พรรคการเมือง เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมือง แล้วเข้าสู่การเลือกตั้ง ช่วยกันทำให้เป็นการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม จะดีกว่า”นายอนุสรณ์ กล่าว
‘‘จ้อน’พบ’มาร์ค’พร้อมชิงหน.ปชป.
ส่วนความเคลื่อนไหวที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรคปชป.ได้เดินทางเข้าหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป.ถึงเกี่ยวกับการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคฯคนใหม่ โดยนายอลงกรณ์ กล่าวว่าเบื้องต้นมีความเห็นพ้องต้องกันเรื่องการให้สิทธิ์สมาชิกเดิมกว่า 2.5ล้านคนที่ต้องพ้นสภาพไปเพราะคำสั่ง คสช.ที่53/2560 มีสิทธิ์ร่วมหยั่งเสียงได้ โดยนับคะแนนแบบ1คน1เสียง เท่ากันรวมถึงการเปิดให้ผู้เข้าชิงดีเบตแสดงวิสัยทัศน์ แต่โดยรายละเอียดทั้งเกณฑ์การรับรองจากอดีต ส.ส.หรือสมาชิกพรรค น้ำหนักการหยั่งเสียงว่าจะใช้เกณฑ์ผู้ได้คะแนนสูงสุดหรือจะต้องได้ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของผู้หยั่งเสียงทั้งหมด จะต้องมีการหารือระหว่าง 3 ฝ่าย อีกครั้ง คือ ฝ่ายตนเอง ฝ่าย นายอภิสิทธิ์ และฝ่าย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก ในช่วงวันที่ 29 หรือ 30 กันยายนนี้
ส่วนการตัดสินใจลงแข่งขัน นายอลงกรณ์ ยืนยันว่า พร้อมเข้าแข่งขัน แต่ต้องรอให้มีความชัดเจนเรื่องกติกาก่อน จึงจะตัดสินใจอีกทีหนึ่งเพราะเงื่อนไขบางอย่าง เช่น จำนวนสมาชิกรับรองควรมีการผ่อนคลายเพราะระยะเวลาน้อยเป็นข้อจำกัดอยู่ เนื่องจากการหยั่งเสียง ควรจะได้ผลภายในกลางเดือนพฤศจิกายนนี้แล้ว โดยเบื้องต้นก็มีคุณสมบัติการเป็นอดีตส.ส.และอดีตรัฐมนตรีของพรรคอยู่แล้ว พร้อมยอมรับว่ายังไม่มีการสนับสนุนจากอดีต ส.ส.เพราะผู้สนับสนุนส่วนใหญ่ เป็นสมาชิกพรรคเนื่องจากกฎหมายกำหนดให้ที่ประชุมใหญ่ เป็นผู้เลือกหัวหน้าพรรคจึงมีแนวคิดเสนอให้ผู้เข้าแข่งขัน มีสัญญาระหว่างกันว่าบุคคลใดที่ไม่ได้คะแนนสูงสุดในการหยั่งเสียงก็ให้ถอนชื่อออก เพื่อให้เหลือรายชื่อผู้ได้คะแนนสูงสุดเพียงรายชื่อเดียวให้ที่ประชุมใหญ่เลือก เป็นหัวหน้าพรรคซึ่งดูแล้วแนวโน้มเบื้องต้นนายอภิสิทธิ์ เห็นด้วยกับแนวทางนี้
‘สุริยะ’เปิดบ้านรับ’สรวุฒิ’ซบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงเช้าวันเดียวกัน ที่บ้านพักของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำกลุ่มสามมิตร ปรากฏว่า นายสรวุฒิ เนื่องจํานงค์ อดีต ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางเข้าพบ พร้อมหารือในประเด็นการเมืองซึ่งมีนายภิรมย์ พลวิเศษ เลขากลุ่มสามมิตร ร่วมหารือด้วย โดยนายสุริยะยอมรับว่าตั้งแต่กลับมาทำงานการเมืองในนามกลุ่มสามมิตร มีโอกาสพูดคุยกับอดีตส.ส.หลายคนซึ่งนายสรวุฒิ อดีตสส.ชลบุรีเป็นคนหนุ่มไฟแรง มีความคิดสร้างสรรค์ทำงานในเชิงรุก ประทับใจการทำงานผลักดันสินค้าเกษตรทั้งมัน มันสำปะหลัง อ้อย ปาล์มเพื่อให้มีราคาดีขึ้น ทำให้เกษตรกรในเขตมีความเป็นอยู่ดีขึ้นจะเป็นประโยชน์เกษตรกรชาวชลบุรี การได้นายสรวุฒิเข้ามาร่วมงานจะทำให้กลุ่มสามมิตรมีศักยภาพเพิ่มขึ้นมากๆ
โวอดีตส.ส.จ่อย้ายร่วมอีกเพียบ
นายสรวุฒิ กล่าวว่าช่วง 4 ปี ยอมรับว่าได้พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆกับหลายกลุ่มโดยผู้ใหญ่ของกลุ่มสามมิตรทั้งนายสุริยะ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน มีความเมตตาทำให้ ตัดสินในเข้าร่วมกับกลุ่มสามมิตร ที่มีการติดตามการทำงานอย่างสม่ำเสมอ เชื่อว่าจะเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพและมีพลังในการทำงาน ที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงประเทศได้
ด้านนายภิรมย์ กล่าวเสริมว่า ขณะนี้มีอดีตนักการเมืองสนใจและติดต่อของร่วมงานกับทางกลุ่มสามมิตร เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งตอนนี้ขออุบไว้ก่อน เมื่อถึงเวลาจะค่อยๆทยอยเปิดตัว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี