“อภิสิทธิ์” แถลงหลังประชุมใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ ครั้งแรก - มอบ กก.บห. ร่างระเบียบการหยั่งเสียง – พร้อมยุติการปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าพรรค หากมีการเสนอชื่อเพื่อให้เกิดความยุติธรรม
26 ก.ย. 61 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุมใหญ่วิสามัญ ประจำปี 2561 ครั้งที่ 1/2561 ว่า ตนขอสรุปการประชุมในวันนี้ว่า พรรคประชาธิปัตย์มีภารกิจเช่นเดียวกับพรรคอื่นๆ ต้องดำเนินการตามกฎหมายพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งมีหลายมีหลายประเด็น ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถเลือกหัวหน้าพรรคและ คณะกรรมการบริหารพรรคได้ เนื่องจากต้องเปิดโอกาสให้สมาชิกพรรค และประชาชนมีส่วนร่วมในการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ก่อน หลังจากนั้นจะมีการจัดประชุมใหญ่อีกครั้งหนึ่ง คาดว่า จะมีขึ้นในต้นเดือน พฤศจิกายน ก็จะสามารถเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคได้
“ระเบียบการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค จะเป็นคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ทั้ง 41 คน เป็นผู้พิจารณา ผมไม่ขอมีส่วนร่วม เพราะมีส่วนได้เสีย แต่ข้อบังคับพรรค และนะโยบายที่ผ่านการพิจารณาในวันนี้ สรุปจะมี กก.บห. 41 คนเท่าเดิม และจะต้องมีผู้หญิงสัดส่วนไม่ต่ำ 10 คน กรรมการ คัดเลือกผู้สมัครในนามพรรคจะต้องมีผู้หญิง 3 คน ใน 11 คน และจะมีผู้ที่อายุต่ำกว่า 35 ปี มาเป็นกรรมการคัดเลือกด้วย” หัวหน้าพรรค ปชป. กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับนโยบายด้านต่างๆ เช่น นโยบายเศรษฐกิจจะไม่ใช้ จีดีพีเป็นตัววัด เพราะไม่สะท้อนข้อเท็จจริงความเป็นอยู่ของประชาชนผู้มีรายได้น้อย แต่จะมีตัวชี้วัดที่หลากหลายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำช่วยเหลือคนยากจน ขจัดการเอารัดเอาเปรียบ เพิ่มสวัสดิการ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดย โครงสร้างจะต้องเขื่อมโยงกับภูมิภาคต่างๆ และการพัฒนาหัวเมืองใหญ่ตามพื้นที่ต่างๆ ให้เป็นเมืองที่พัฒนาแล้ว ด้านการศึกษาจากที่เคยมีเป้าหมายที่เป็นการให้ความรู้ เป็นการเสริมทักษะ โดยให้เอกชนเข้าร่วมพัฒนาด้านการศึกษา ขณะที่ระบบสาธารณสุข จะดูแลไม่ให้มีการเอารัดเอาเปรียบค่ารักษาพยาบาลโดยโรงพยาบาลเอกชน อีกทั้งให้การบริการสาธารณสุข เข้าถึงผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่กับบ้าน อีกทั้งเรามีการยอมรับความหลากหลายทางชนชาติ และพวกชายขอบ อีกทั้ง เรื่องสิ่งแวดล้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถขายพลังงานทดแทนได้ และมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูป่า
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับนโยบายด้านการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นต้นแบบของประชาธิปไตย กฎหมายใดที่ไม่สอดคล้องกับประชาธิปไตย เราจะสนับสนุนให้มีการแก้ไข ไม่ลุแก่อำนาจที่ได้จากประชาชน และยอมรับการตรวจสอบจากทุกภาคส่วน กระจายอำนาจให้ท้องถิ่น ให้จังหวัดจัดการตัวเอง และปฏิรูปตำรวจ และกระบวนการยุติธรรม
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับระเบียบว่าด้วยการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค จำเป็นต้องมีการวางกรอบไม่ให้เกิดความแทรกซ้อนจนเกิดความเสียหายแก่พรรค ที่ประชุมไม่มีใครติดใจเรื่องการได้เปรียบเสียเปรียบ ทั้งนี้ที่ประชุมเห็นชอบว่า สมาชิกพรรค มีสิทธิ์หยั่งเสียงอยู่แล้ว แต่สมาชิกพรรคเดิม 2.5 ล้าน โดนสลายความเป็นสมาชิกโดยคำสั่ง คสช. ซึ่งพวกเขาไม่ได้ลาออกจากพรรค และไม่ไปสมัครสมาชิกพรรคอื่น พวกเขาจึงมีสิทธิที่จะหยั่งเสียงได้ สำหรับการนับคะแนนเป็นเรื่องที่คณะกรรมการจะพิจารณารายละเอียด ไม่ใช่เพื่อการได้เปรียบเสียเปรียบ แต่เพื่อทำให้ได้ระบบดีที่สุดและมีความรัดกุม โดยผู้ที่จะหยั่งเสียงจะต้องลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อใช้สิทธิ ซึ่งการยกร่างระเบียบนี้จะเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์หน้า และคาดว่า วันที่ 1 ตุลาคมนี้ จะสามารถรับสมัครสมาชิกได้ทุกรูปแบบ
ทั้งนี้สัปดาห์หน้าตนจะเดินทางไปร่วมประชุม หัวหน้าพรรคกลุ่มประเทศเสรีนิยมประชาธิปไตยเอเชีย ที่แอฟริกา ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่เป็นหัวหน้าพรรคครั้งสุดท้าย ซึ่งหากมีการเสนอชื่อตน ก็จะยุติการปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าพรรค แต่จะยังไม่ลาออก เพราะหากลาออกจะทำให้ กก.บห. ต้องสิ้นสภาพไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี