“บิ๊กป้อม”ยันกองทัพไม่ผิดกรณีซื้อจีที 200 ชี้ทุกอย่างอยู่ในขั้นตอนการดำเนินคดี ขณะที่กระทรวงกลาโหมรอศาลอาญาพิพากษา ฟ้องเสียหายทางแพ่งต่อ ด้าน ตร.ให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบย้อนหลัง ปมจัดซื้อแพงเกินจริง ส่วน“วิษณุ”ชี้ หน่วยงานใดจัดซื้อ สามารถนำแนวทางคดีกรมราชองครักษ์ ไปเรียกค่าเสียหายได้
เมื่อวันที่ 27กันยายน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ นายสุทธิวัฒน์ วัฒนกิจ ผู้บริหารและพนักงาน รวม 4 คน บริษัท เอวิเอ แซทคอม จำกัด ถูกศาลแขวงดอนเมือง ตัดสินจำคุกอีก 9 ปี ในคดีฉ้อโกงการจัดซื้อเครื่องตรวจจับอาวุธและวัตถุระเบิด และเครื่องตรวจจับยาเสพติดรุ่นจีที 200 โดยพบว่าประสิทธิภาพไม่ตรงตามโฆษณาว่า เรื่องจีที 200 เข้าระบบหมดแล้ว ฟ้องร้องไปแล้ว อยู่ระหว่างขั้นตอนดำเนินคดี ส่วนจะเป็นบทเรียนของกองทัพในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ หรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร ย้ำว่า กองทัพไม่ได้ทำอะไร จะเป็นบทเรียนอย่างไร เมื่อคนมาร้องก็ดำเนินการ กองทัพไม่ได้ทำอะไรผิด เพราะในขณะนั้นหน่วยทดสอบแล้วใช้งานได้ ก็ลำบาก
ด้าน พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ในฐานะที่เคยเชิญหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมที่จัดซื้อจีที 200 มาประชุม เพื่อติดตามความคืบหน้าในการฟ้องร้องดำเนินคดีตามคำแนะนำของ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ในสมัยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมว่า ฟ้องไปหมดแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของกระบวนการที่ก็มีการติดตามคดีอย่างต่อเนื่อง พล.อ.ประวิตร สั่งให้ทุกหน่วยติดตามเร่งรัดดำเนินคดีทั้งหมด ส่วนความคืบหน้าก็ให้หน่วยติดตามอยู่ คงรายงานขึ้นมา ซึ่งก็มีเฉพาะของกรมราชองครักษ์ ในส่วนอื่นฟ้องร้องตามขั้นตอนอยู่ซึ่งก็ต้องไปคุยในรายละเอียด
พล.ท.คงชีพ ตัณตระวานิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ต้องกังวล กระทรวงกลาโหมได้ให้ความสำคัญและติดตาม อยู่การดำเนินการของกรมราชองครักษ์ดำเนินการฟ้องมาก่อนหน้านั้นแล้ว เนื่องจากมีการตรวจสอบแล้วพบว่าไม่สามารถใช้งานได้ ในส่วนของกระทรวงกลาโหมได้ดำเนินการหลังจากบริษัทที่เป็นตัวแทนต่างประเทศถูกฟ้องและถูกตัดสินว่าผิด ทางกระทรวงกลาโหมและทุกเหล่าทัพไม่ได้นิ่งนอนใจก็ดำเนินการฟ้องร้องทั้งหมดอยู่ในกระบวนการยุติธรรม
พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ที่ผ่านมากองทัพได้ดำเนินการฟ้องศาลปกครองและได้อุทธรณ์มาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งศาลปกครองรับคำฟ้อง ในส่วนของทางอาญาอยู่ในชั้นของการสอบสวนตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งการฟ้องร้องดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา เพราะแต่ละเหล่าทัพซื้อจีที 200 ในเวลาที่แตกต่างกันไป ซึ่งทุกอย่างอยู่ในระหว่างกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ส่วนทางแพ่ง การเรียกร้องค่าเสียหายจะเกิดขึ้นต่อเมื่อคำพิพากษาศาลอาญาจบสิ้นแล้ว
“ยืนยันว่ากองทัพ ไม่ได้ปกป้องใครและไม่ได้เพิกเฉยหรือละเลย ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อคสามเสียหายทั้งหมด ซึ่งการดำเนินการฟ้องร้องทำในนามเหล่าทัพ เพราะเป็นผู้จัดซื้อ ขณะนี้อยู่ในระหว่างกระบวนการชั้นสอบสวนของกระบวนการยุติธรรม” โฆษก กห. ระบุ
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) กล่าวว่า ในฐานะ ตร.เป็นหนึ่งในผู้เสียหายนั้น ฝ่ายกฎหมายต้องไปตรวจสอบว่าเครื่องดังกล่าวที่นำมาใช้นั้น จะสามารถดำเนินการทางกฎหมายในเรื่องใดได้บ้าง เรามีความเสียหายหรือไม่อย่างไร เพราะการจัดซื้อเครื่องดังกล่าวก็ผ่านมานานแล้ว ส่วนที่มีการระบุว่าการจัดซื้อเครื่องดังกล่าวมาในราคาที่เกินจริงคงต้องไปตรวจสอบดูก่อน เพราะเพิ่งทราบในรายละเอียดของการจับกุมตัวผู้จำหน่ายเครื่องดังกล่าว เพราะผู้จัดซื้อเครื่องนี้มาไม่ได้มีเฉพาะ ตร. ยังมีหน่วยงานภาครัฐอื่นๆจัดซื้อไปด้วย น่าจะมีการดำเนินการทางคดีในเรื่องนี้เหมือนกัน พร้อมกันนี้ต้องไปตรวจสอบย้อนหลังดูในส่วนของการจัดซื้อจัดจ้างและผู้ตรวจรับเครื่องดังกล่าวว่าถ้ามีการตรวจรับมาใครเป็นผู้ตรวจรับมา ใครเป็นคนรับผิดในกรณีที่เครื่องดังกล่าวใช้งานไม่ได้
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภค พิพากษาให้บริษัท เอวิเอ แซทคอม จำกัด ชดใช้ค่าเสียหายให้กับกรมราชองครักษ์ ในคดีจัดซื้อจีที 200 ว่า จะเป็นบรรทัดฐานให้หน่วยงานอื่นสามารถนำไปเป็นแนวทางเรียกค่าเสียหายได้หรือไม่ว่าทำได้ หากยังอยู่ในอายุความ โดยในส่วนคดีแพ่งเป็นเรื่องของแต่ละหน่วยงานที่จัดซื้อจีที 200 จากบริษัท เอวิเอฯ จะเป็นผู้พิจารณาว่าจะฟ้องเรียกค่าเสียหายหรือไม่ โดยคดีแพ่งของกรมราชองครักษ์มีการฟ้องอยู่นานแล้ว ดังนั้น ถ้าหน่วยงานใดพิสูจน์ได้ว่าเสียหายเช่นเดียวกับกรมราชองครักษ์ก็ดำเนินการฟ้องแพ่งไป โดยเฉพาะหากมีการฉ้อโกง หลอกลวงสรรพคุณ แล้วไม่เป็นไปตามนั้น ซึ่งเป็นแนวทางที่กรมราชองครักษ์ได้ตั้งคดีไว้
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม เราสนใจคดีทางอาญาในเรื่องทุจริต ซึ่งขณะนี้เรื่องอยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เนื่องจากเราตั้งคดีว่าทุจริต ไม่ได้ตั้งเป็นฉ้อโกง ส่วน ป.ป.ช.จะนำคำพิพากษาของศาลแขวงดอนเมืองที่ตัดสินจำคุกผู้บริหารบริษัท เอวิเอฯ ที่จำหน่ายจีที 200 ให้กับกรมราชองครักษ์ เมื่อวันที่ 26 กันยายน มาประกอบสำนวนพิจารณาได้หรือไม่ ป.ป.ช.เขารู้ว่าต้องทำอย่างไร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี